เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบสวนสองสามีภรรยา ที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกซื้อหมูยกคอก 5 ตัว แล้วขับกระบะหนีไม่ยอมจ่ายเงินสักบาท จนภรรยาสาวใจเด็ดกระโดดเกาะท้ายกระบะถูกผลักมือออกตกรถบาดเจ็บ และสามีขับ จยย.ไล่ตามคนร้ายโยนเงินให้ 15,000 บาท เพื่อเปิดทางหนี พร้อมแกะรอยภาพวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าแก๊งมิจฉาชีพขับผ่าน เพื่อเร่งล่าตัวมาดำเนินคดี
วันนี้ (12 ก.ค.62) ความคืบหน้ากรณีที่แก๊งมิจฉาชีพเป็นชาย 5 คน อายุประมาณ 25 – 30 ปี ขับกระบะแคป ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนด์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เข้าไปหลอกซื้อหมูเป็น ของนายธวัชชัย เมฆมนต์ อายุ 29 ปี และ น.ส.อรุณ สุพรรณ อายุ 25 ปี สองสามีภรรยา ที่บ้านหนองไทรงาม ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงสายวานนี้ (11 ก.ค.62) แต่หลังจากตกลงราคาซื้อขายกันเรียบร้อย และแก๊งมิจฉาชีพก็จับหมูในคอกใส่กรงที่เตรียมมาขึ้นชั่งน้ำหนัก แล้วยกกรงหมูขึ้นใส่หลังกระบะไว้ จากนั้นก็ขับรถออกไปโดยไม่ยอมจ่ายเงินแม้แต่บาทเดียว จน น.ส.อรุณ ผู้เป็นภรรยา ตัดสินใจกระโดดเกาะท้ายรถกระบะของคนร้าย พร้อมตะโกนให้คนช่วยสกัดรถไว้ แต่ถูกคนร้ายผลักมือออกจน น.ส.อรุณ ตกรถได้บาดเจ็บ มีแผลถลอกตามแขนขา จากนั้นสามีก็ขับรถจักรยานยนต์ไล่ตามรถกระบะของคนร้ายไปเกือบถึงปากทาง คนร้ายจึงได้หว่านเงินออกจากรถเป็นค่าหมูให้เพื่อเปิดทางหนี ชาวบ้านจึงเก็บมาให้เจ้าของหมูนับเงินได้ 15,000 บาท แต่จริงๆ ราคาหมูที่ขายยกคอก 5 ตัว คาดว่าราคาไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท จากนั้นคนร้ายก็ขับรถหลบหนีไป
ล่าสุด พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม ผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ภานุวัฒน์ มากมูล รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำสองสามีภรรยา ผู้เสียหายเพิ่มเติม เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับพฤติการณ์และรูปพรรณคนร้าย พร้อมทั้งลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่คาดว่าแก๊งมิจฉาชีพที่เข้าไปหลอกซื้อหมูจะขับผ่าน เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามกลุ่มแก๊งคนร้ายมาดำเนินคดี
ซึ่งจากการลงพื้นที่สอบถามสองสามีภรรยา ผู้เสียหาย ให้ข้อมูลว่า แก๊งดังกล่าวมากันทั้งหมด 5 คน อายุประมาณ 25 – 30 ปี โดยคนที่เป็นหัวหน้าหรือลูกพี่มีรูปร่างท้วมผิวดำ-แดง ส่วนลูกน้องอีก 4 คน ก็มีรูปพรรณที่แตกต่างกัน บางคนไม่สวมรองเท้า โดยคนที่เป็นลูกพี่ยังบอกกับผู้เสียหายด้วยว่าเมียเปิดเขียงหมูอยู่ที่ อ.นางรอง จึงมาหาตระเวนซื้อหมู ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังจะได้ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่แก๊งดังกล่าวทิ้งไว้ให้สำหรับโทรไปติดต่อซื้อขายหมูด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าแก๊งดังกล่าวอาจจะก่อเหตุมาแล้วหลายพื้นที่ ซึ่งจะได้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
ด้านนางพิมพา ทองน้อย อายุ 60 ปี ป้าของผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อประมาณ 1 เดือนก่อนหน้านี้ได้มีชายรูปร่างผอมสูง มาติดต่อจะซื้อหมูกับตนเอง แต่ตนไม่มีหมูจะขายให้จึงได้ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ พอหลานสาวบอกว่าอยากจะขายหมู จึงได้เอาเบอร์โทรให้หลานโทรไปติดต่อ กระทั่งเมื่อเช้าวานนี้หลานสาวได้โทรไปตามเบอร์ดังกล่าวให้มาซื้อหมู แต่ไม่รู้ว่าจะมาหลอกหลานสาวแบบนี้ ซึ่งถ้าตนเองยังมีหมูอยู่ก็คงจะถูกหลอกเหมือนกัน เพราะตนเองกับสามีก็เลี้ยงหมูขาย แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวแล้ว ก็คงจะไม่กล้าขายให้พ่อค้าเร่แบบนี้อีก คงจะขายให้คนรู้จักกันในหมู่บ้านดีกว่า
วันนี้ (12 ก.ค.62) ความคืบหน้ากรณีที่แก๊งมิจฉาชีพเป็นชาย 5 คน อายุประมาณ 25 – 30 ปี ขับกระบะแคป ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนด์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เข้าไปหลอกซื้อหมูเป็น ของนายธวัชชัย เมฆมนต์ อายุ 29 ปี และ น.ส.อรุณ สุพรรณ อายุ 25 ปี สองสามีภรรยา ที่บ้านหนองไทรงาม ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงสายวานนี้ (11 ก.ค.62) แต่หลังจากตกลงราคาซื้อขายกันเรียบร้อย และแก๊งมิจฉาชีพก็จับหมูในคอกใส่กรงที่เตรียมมาขึ้นชั่งน้ำหนัก แล้วยกกรงหมูขึ้นใส่หลังกระบะไว้ จากนั้นก็ขับรถออกไปโดยไม่ยอมจ่ายเงินแม้แต่บาทเดียว จน น.ส.อรุณ ผู้เป็นภรรยา ตัดสินใจกระโดดเกาะท้ายรถกระบะของคนร้าย พร้อมตะโกนให้คนช่วยสกัดรถไว้ แต่ถูกคนร้ายผลักมือออกจน น.ส.อรุณ ตกรถได้บาดเจ็บ มีแผลถลอกตามแขนขา จากนั้นสามีก็ขับรถจักรยานยนต์ไล่ตามรถกระบะของคนร้ายไปเกือบถึงปากทาง คนร้ายจึงได้หว่านเงินออกจากรถเป็นค่าหมูให้เพื่อเปิดทางหนี ชาวบ้านจึงเก็บมาให้เจ้าของหมูนับเงินได้ 15,000 บาท แต่จริงๆ ราคาหมูที่ขายยกคอก 5 ตัว คาดว่าราคาไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท จากนั้นคนร้ายก็ขับรถหลบหนีไป
ล่าสุด พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม ผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ภานุวัฒน์ มากมูล รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำสองสามีภรรยา ผู้เสียหายเพิ่มเติม เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับพฤติการณ์และรูปพรรณคนร้าย พร้อมทั้งลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่คาดว่าแก๊งมิจฉาชีพที่เข้าไปหลอกซื้อหมูจะขับผ่าน เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามกลุ่มแก๊งคนร้ายมาดำเนินคดี
ซึ่งจากการลงพื้นที่สอบถามสองสามีภรรยา ผู้เสียหาย ให้ข้อมูลว่า แก๊งดังกล่าวมากันทั้งหมด 5 คน อายุประมาณ 25 – 30 ปี โดยคนที่เป็นหัวหน้าหรือลูกพี่มีรูปร่างท้วมผิวดำ-แดง ส่วนลูกน้องอีก 4 คน ก็มีรูปพรรณที่แตกต่างกัน บางคนไม่สวมรองเท้า โดยคนที่เป็นลูกพี่ยังบอกกับผู้เสียหายด้วยว่าเมียเปิดเขียงหมูอยู่ที่ อ.นางรอง จึงมาหาตระเวนซื้อหมู ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังจะได้ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ที่แก๊งดังกล่าวทิ้งไว้ให้สำหรับโทรไปติดต่อซื้อขายหมูด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าแก๊งดังกล่าวอาจจะก่อเหตุมาแล้วหลายพื้นที่ ซึ่งจะได้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
ด้านนางพิมพา ทองน้อย อายุ 60 ปี ป้าของผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อประมาณ 1 เดือนก่อนหน้านี้ได้มีชายรูปร่างผอมสูง มาติดต่อจะซื้อหมูกับตนเอง แต่ตนไม่มีหมูจะขายให้จึงได้ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ พอหลานสาวบอกว่าอยากจะขายหมู จึงได้เอาเบอร์โทรให้หลานโทรไปติดต่อ กระทั่งเมื่อเช้าวานนี้หลานสาวได้โทรไปตามเบอร์ดังกล่าวให้มาซื้อหมู แต่ไม่รู้ว่าจะมาหลอกหลานสาวแบบนี้ ซึ่งถ้าตนเองยังมีหมูอยู่ก็คงจะถูกหลอกเหมือนกัน เพราะตนเองกับสามีก็เลี้ยงหมูขาย แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวแล้ว ก็คงจะไม่กล้าขายให้พ่อค้าเร่แบบนี้อีก คงจะขายให้คนรู้จักกันในหมู่บ้านดีกว่า