กสอ.โชว์ผลสำเร็จโครงการส่งเสริมการใช้พื้นที่ร่วมเพื่อสร้างธุรกิจใหม่(Co-Working Space)หรือโครงการ The Basecamp ผลักดันระบบนิเวศเอื้อต่อการจัดตั้งธุรกิจส่งเสริม พร้อมยกระดับ Startup ไทย บ่มเพาะผู้ประกอบการ 50 รายภายในระยะเวลา 6 เดือน เผยพัฒนาธุรกิจสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ก่อให้เกิดมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 53 ล้านบาท ตอกย้ำส่งเสริมการใช้อุตสาหกรรม สร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบ หรือ Prototype ได้สำเร็จ นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.)เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนประเทศให้ไปสู่ประเทศไทย 4.0 ตามแนวนโยบายและเป้าหมายของรัฐบาลนั้น วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs)และวิสาหกิจเริ่มต้น(Startup)เป็นกลไกหนึ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การพัฒนาทักษะด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมที่จะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สามารถสนองตอบความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นสิ่งสำคัญมาก ทั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมสร้างรากฐานที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ กสอ.เล็งเห็นความจำเป็น จึงสนับสนุนให้เกิดระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจเกิดใหม่ โดยเฉพาะการส่งเสริมให้เกิดการใช้พื้นที่ร่วม เพื่อสร้างธุรกิจใหม่(Co-Working Space)ที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทายาทธุรกิจ กลุ่มนักประดิษฐ์ นักวิจัย และนักพัฒนานักออกแบบที่มีแนวคิดสร้างสรรค์ รวม ถึงกลุ่มวิสาหกิจเริ่มต้นให้ได้รับการพัฒนาให้เกิดแนวคิดในธุรกิจใหม่ เพื่อที่จะสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ หรือบริการใหม่ให้ตรงกับความต้องการของตลาดได้ “หลักสูตรการอบรมโครงการ The Basecamp นอกเหนือจากการส่งเสริมให้เกิดการใช้พื้นที่ร่วม หรือ Co-Working Space เพื่อพัฒนาธุรกิจแล้วยังมีหลักสูตรด้านพื้นฐานการสร้างแบรนด์ วิธีการนำเสนอแผน ธุรกิจกับแหล่งทุน การสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบและหรือการออกแบบ 3D รวมทั้งพื้นฐานทางด้านการเงิน สำหรับเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ การส่งเสริมด้านการสร้างสายสัมพันธ์ของผู้ประกอบการ เพื่อให้เกิดเครือข่ายทางธุรกิจ การออกแสดงสินค้าเพื่อทดสอบตลาดจริง” ขณะเดียวกันได้ทดลองนำเสนอแผนธุรกิจให้กับแหล่งทุนอีกด้วย ผลจากการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 6 เดือน มีผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรม50 รายได้รับการบ่มเพาะธุรกิจผ่านกิจกรรมต่างๆจนสามารถพัฒนาธุรกิจ สร้างต้นแบบผลิตภัณฑ์ รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงินทุนทั้งใน และต่างประเทศ คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยรวมมากกว่า 53 ล้านบาท มีผลตอบแทนเชิงเศรษฐศาสตร์ 1:13.25 เท่า เชื่อมั่นว่าผู้ประกอบการอีกหลายรายในโครงการฯ จะสามารถพัฒนาตนเอง ต่อยอดธุรกิจสู่การเป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้นได้อย่างเข้มแข็งเช่นเดียวกัน สำหรับโครงการนี้มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรม 120 ราย และผ่านเกณฑ์การคัดเลือก 50 รายในการเข้าร่วมบ่มเพาะธุรกิจ โดยมีโค้ช หรือผู้เชี่ยวชาญจาก The World Startup Festival หน่วยงานจาก Silicon Valley ที่มีประสบการณ์ในด้านการสร้าง Startup ไปจนถึงการลงทุนกับ Startup มาให้ความรู้และถ่ายทอดประสบการณ์แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจนนำมาสู่พิธีมอบประกาศนียบัตร โดยในงานมีการจัดแสดงผลงานผลิตภัณฑ์ต้นแบบ มีผลงานที่น่าสนใจเช่น ผลิตภัณฑ์ Zading โปรตีนจิ้งหรีด อาหารแห่งอนาคต ผลงานของคุณภานุวัฒน์ โคตรโนนกอก ที่นำจิ้งหรีดมาแปรรูปเป็นโปรตีนทดแทนหรือโปรตีนผง ส่งออกตลาดต่างประเทศ เน้นจุดขายใช้จิ้งหรีดพันธุ์สะดิ้ง ซึ่งเป็นพันธุ์ที่มีโปรตีนสูงกว่าพันธุ์อื่น ๆ และเลี้ยงในระบบออแกนิค ซึ่งนอกจากจิ้งหรีดผงแล้ว นอกจากนี้ยังเตรียมทำผลิตภัณฑ์จากจิ้งหรีดอื่นๆอีกเช่น เอนเนอจี้บาร์ เส้นขนมจีนอบแห้ง เป็นต้น รวมถึงผลงาน Medical Device ซึ่งเป็นเครื่องวิเคราะห์สไลด์แปบสเมียร์ด้วยระบบเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligent หรือ AI) เพื่อคัดกรองเซลล์มะเร็งปากมดลูกของคุณปริญญา วัฒนนุกูลชัย และคุณสมาธิ บัวคอม ที่เป็นการพลิกโฉมกระบวนการตรวจมะเร็งปากมดลูกในประเทศไทยให้รวดเร็วในเวลาไม่กี่วินาที จากวิธีปกติที่ต้องรอผลอย่างน้อย 3-5 วัน อีกทั้งยังมีราคาถูกกว่านำเข้าถึง 50 เท่า