เมื่อวันที่ 11 ก.ค.62 พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม พ.ต.ท.ธีรภาส ยั่งยืน รอง ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ต.กรกฤช งามวงศ์วาน พร้อมด้วย ร.ต.อ. ณรงค์ หาญสันเทียะ รอง สว.กก.4 บก.ป. เข้าจับกุมนายสุธิพงศ์ หรือหมู สัมพัฒนตระกูล อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/3 ซ.สารนารถ ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง ตามหมายจับของศาลจังหวัดระยอง ที่ จ.538/2557 ลง 28 ม.ค. 2557 ในข้อหาว่า “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” โดยสามารถจับกุมได้ที่แคมป์พักคนงานก่อสร้าง ภายในซอยนาคนิวาส 48 แยก 14 แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ต.ค.2557 ร.ต.ท.พิเชษ อิงชัยภูมิ ร้อยเวร สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งเหตุยิงกัน และมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย เหตุเกิดบนถนนสายทับมา-เขาโบสถ์ หมู่ 7 ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง เมื่อเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุพบศพ นายวิษณุ เกตุสุริยา อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 ถนนสมุทรคงคา ต.ปากน้ำ เขตเทศบาลนครระยอง และยังเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง เขตเมืองระยอง (ส.อบจ.) อยู่ข้างรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ทอง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหน้าหลัง สภาพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีเทา
โดยพบบริเวณกลางหน้าอกถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด 3 นัด ชายโครงขวา 3 นัด และด้านหลังสะโพกขวา 3 นัด ขณะที่ในบริเวณใกล้ศพยังพบปืนพกออโตเมติกขนาด 11 มม. จำนวน 1 กระบอก มีกระสุนในแมกกาซีน จำนวน 2 นัด ลักษณะยังไม่ได้ขึ้นลำปืนของผู้ตายตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาวันที่ 28 ต.ค.57 พนักงานสอบสวนได้ขอศาลอนุมัติหมายจับ นายประเสริฐ หรือถัง บุญรัตน์ และนายสุธิพงศ์ หรือหมู สัมพัฒนตระกูล ต่อศาลจังหวัดระยอง ในข้อหาร่วมกันฆ่านายวิษณุ เกตุสุริยา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) คนสนิทของ นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.ระยอง
จากการสอบถาม ผู้ต้องหาให้การว่า ขณะที่ตนเองและนายประเสริฐ หรือถัง ขับรถมาตามถนนสายดังกล่าว พบรถยนต์ของนายวิษณุ ขับในลักษณะค่อมเลน นายประเสริฐ จึงได้เปิดไฟสูงใส่เพื่อขอทาง ซึ่งทำให้ นายวิษณุ ไม่พอใจ และได้จอดรถเพื่อพูดคุยกัน จากนั้น นายประเสริฐ และนายสุธิพงศ์ ได้ขับรถออกมาไม่นานนายวิษณุ ได้ขับรถมาชนท้ายรถของตนเองและได้ขับหลบหนีไปนายประเสริฐ และนายสุธิพงศ์ ได้ขับรถติดตามไป เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ของนายวิษณุ จอดอยู่บริเวณข้างทางนายประเสริฐ และนายสุธิพงศ์ จึงได้จอดรถประกบด้านข้างจากนั้นนายวิษณุ จึงได้เดินมาที่รถของนายประเสริฐ และนายสุธิพงศ์ พร้อมได้ถืออาวุธปืนมาด้วย และได้ใช้อาวุธปืนยิงนายประเสริฐ จำนวน 1 นัด กระสุนแฉลบโดนบริเวณหน้าฝากของนายประเสริฐ จากนั้น นายสุธิพงศ์ จึงได้หยิบปืนที่พกติดตัวมายิงต่อสู้นายวิษณุ ไปที่บริเวณท้องจำนวนหลายนัด ซึ่งนายวิษณุ ได้ยิงต่อสู้เช่นกัน จนทำให้นายวิษณุ ถึงแก่ความตาย และนายประเสริฐ กับนายสุธิพงศ์ จึงได้ขับรถหนีไป
จากการสืบสวนทราบว่า นายสุธิพงศ์ ได้มาทำงานที่ แคมป์พักอาศัยคนงานก่อสร้าง ภายในซอยนาคนิวาส 48 แยก 14 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปตรวจสอบ และพบนายสุธิพงศ์ จึงได้แสดงหมายจับและควบคุมตัวมาทำบันทึกที่กองบังคับการปราบปราม ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จะได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยอง ดำเนินคดีต่อไป
โดยพบบริเวณกลางหน้าอกถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด 3 นัด ชายโครงขวา 3 นัด และด้านหลังสะโพกขวา 3 นัด ขณะที่ในบริเวณใกล้ศพยังพบปืนพกออโตเมติกขนาด 11 มม. จำนวน 1 กระบอก มีกระสุนในแมกกาซีน จำนวน 2 นัด ลักษณะยังไม่ได้ขึ้นลำปืนของผู้ตายตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาวันที่ 28 ต.ค.57 พนักงานสอบสวนได้ขอศาลอนุมัติหมายจับ นายประเสริฐ หรือถัง บุญรัตน์ และนายสุธิพงศ์ หรือหมู สัมพัฒนตระกูล ต่อศาลจังหวัดระยอง ในข้อหาร่วมกันฆ่านายวิษณุ เกตุสุริยา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) คนสนิทของ นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.ระยอง
จากการสอบถาม ผู้ต้องหาให้การว่า ขณะที่ตนเองและนายประเสริฐ หรือถัง ขับรถมาตามถนนสายดังกล่าว พบรถยนต์ของนายวิษณุ ขับในลักษณะค่อมเลน นายประเสริฐ จึงได้เปิดไฟสูงใส่เพื่อขอทาง ซึ่งทำให้ นายวิษณุ ไม่พอใจ และได้จอดรถเพื่อพูดคุยกัน จากนั้น นายประเสริฐ และนายสุธิพงศ์ ได้ขับรถออกมาไม่นานนายวิษณุ ได้ขับรถมาชนท้ายรถของตนเองและได้ขับหลบหนีไปนายประเสริฐ และนายสุธิพงศ์ ได้ขับรถติดตามไป เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ของนายวิษณุ จอดอยู่บริเวณข้างทางนายประเสริฐ และนายสุธิพงศ์ จึงได้จอดรถประกบด้านข้างจากนั้นนายวิษณุ จึงได้เดินมาที่รถของนายประเสริฐ และนายสุธิพงศ์ พร้อมได้ถืออาวุธปืนมาด้วย และได้ใช้อาวุธปืนยิงนายประเสริฐ จำนวน 1 นัด กระสุนแฉลบโดนบริเวณหน้าฝากของนายประเสริฐ จากนั้น นายสุธิพงศ์ จึงได้หยิบปืนที่พกติดตัวมายิงต่อสู้นายวิษณุ ไปที่บริเวณท้องจำนวนหลายนัด ซึ่งนายวิษณุ ได้ยิงต่อสู้เช่นกัน จนทำให้นายวิษณุ ถึงแก่ความตาย และนายประเสริฐ กับนายสุธิพงศ์ จึงได้ขับรถหนีไป
จากการสืบสวนทราบว่า นายสุธิพงศ์ ได้มาทำงานที่ แคมป์พักอาศัยคนงานก่อสร้าง ภายในซอยนาคนิวาส 48 แยก 14 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปตรวจสอบ และพบนายสุธิพงศ์ จึงได้แสดงหมายจับและควบคุมตัวมาทำบันทึกที่กองบังคับการปราบปราม ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จะได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยอง ดำเนินคดีต่อไป