วันที่ 7 ก.ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่มีการเผยแพร่ผ่านทางโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับรุ่นน้องถูกรุ่นพี่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม รับน้องเข้ากลุ่ม โดยการทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ในเขตพื้นที่ สภ.นครชัยศรี ภ.จ.นครปฐม ว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.62 เวลาประมาณ 01.00 น. กลุ่มเด็กนักเรียนชั้น ม.6 รุ่นพี่ และเด็กนักเรียนชั้น ม.3 รุ่นน้อง โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม จำนวนประมาณ 15 คน ได้ไปทำกิจกรรม บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 21 ม.2 ต.วัดแค อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ต่อมามีการรับรุ่นน้องเข้ากลุ่ม โดยให้รุ่นพี่เป็นคนเตะทดสอบ ปรากฏว่า มีรุ่นน้อง 3 คน ถูกรุ่นพี่เตะที่หน้าอก 3 ครั้ง โดยรุ่นน้องที่ 3 ได้รับบาดเจ็บนำตัวส่ง รพ.นครปฐม และต่อมาในวันที่ 1 ก.ค.62 ผู้ปกครองรุ่นน้องที่บาดเจ็บได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุตามกฎหมาย เบื้องต้นพนักงานสอบสวน และชุดสืบสวนตรวจสอบที่เกิดเหตุ สอบสวนปากคำพยานอย่างละเอียดร่วมกับทีมสหวิชาชีพ และพนักงานอัยการ นอกจากนี้ ผกก.สภ.นครชัยศรี ได้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในคดีนี้ อยู่ระหว่างดำเนินการเรียกตัวผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาและนำตัวไปขอให้ศาลสั่งควบคุมตามกฎหมายเยาวชนฯ และคดีนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์บาดแผลของแพทย์รพ.นครปฐม นำมาประกอบสำนวนการสอบสวน ที่ผ่านมาพบว่ายังมีรุ่นพี่บางกลุ่ม บางสถาบันที่ยังก่อเหตุในลักษณะแบบนี้ ไม่ว่าจะด้วยวัฒนธรรม ประเพณี กฎระเบียบของคณะ หรือด้วยเหตุผลอื่นใด ซึ่งล้วนอาจจะก่อให้เกิดความสูญเสียและความเสียใจต่อญาติ ผู้ปกครองของผู้ที่ถูกกระทำ จึงอยากเตือนไปยังรุ่นพี่ที่คอยดูแลรุ่นน้องตามสถาบันต่างๆ ให้พึงระลึกถึงความผิดชอบชั่วดี การกระทำอันใดที่ไม่สมควรกระทำกับรุ่นน้อง เช่น การกระทำที่ถึงเนื้อถึงตัว ทำร้ายร่างกาย เสี่ยงอันตราย เป็นต้น ก็ขอให้ละเว้น เพราะถ้าหากเกิดขึ้นแล้วส่งผลกระทบต่อชีวิตและร่างกายของรุ่นน้อง ผู้ที่ถูกกระทำ จะมีความผิดตามกฎหมายและเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีกับรุ่นพี่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่มีการละเว้น นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่ออนาคตของผู้ที่กระทำความผิดได้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้พนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานด้วยความรอบคอบ สอบสวนให้สิ้นกระแสความในทุกประเด็น ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและต้องสามารถตอบคำถามสังคมได้ โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสนับสนุนหาข้อมูลพยานหลักฐานที่มีความเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวในทุกมิติแก่พนักงานสอบสวน ดำเนินการบูรณาการข้อมูลด้านการสืบสวนสอบสวนอย่างเป็นระบบ และขั้นตอนในการอำนวยความยุติธรรมแก่ผู้เสียหาย เพื่อเป็นหลักประกันไปสู่กระบวนความยุติธรรมที่มีมาตรฐานสากล