เมืองทองธานี / นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน “ไทยแลนด์โซเชียลเอ็กซ์โป 2019” งานแสดงผลงานและนวัตกรรมทางสังคมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 กรกฎาคมนี้ ที่ศูนย์ประชุมฯ เมืองทองธานี มีเวทีวิชาการ ‘โชว์ผลงาน-ช้อป-ชิม’ 200 บูธ ขณะที่ ‘พอช.’ชูแนวคิด ‘บ้านมั่นคงของมนุษย์ สู่ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง’ พร้อมชวนเครือข่ายขบวนองค์กรชุมชน 5 ภาคที่มีความโดดเด่นด้านการพัฒนาชุมชนร่วมแสดงผลงาน วันนี้ (5 กรกฎาคม) เวลา 10.00 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาที่ศูนย์ประชุมเมืองทองธานี เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ไทยแลนด์โซเชียลเอ็กซ์โป 2019” จัดโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หน่วยงานในสังกัด และภาคีเครือข่าย โดยมีนายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวง พม. และผู้บริหารหน่วยงานต่างๆ ให้การต้อนรับ ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการ การแสดงผลงานนวัตกรรมทางสังคมของหน่วยงานต่างๆ การประชุมวิชาการทางสังคมของไทยและอาเซียน และการออกบูธแสดงผลิตภัณฑ์และสินค้าต่างๆ จำนวนประมาณ 200 บูธ มีผู้ร่วมพิธีเปิดประมาณ 700 คน นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวง พม. กล่าวว่า งาน “Thailand Social Expo 2019” จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ร่วมมือ ร่วมใจ สังคมไทยยั่งยืน – Partnership for Sustainable” เป็นการจัดงานมหกรรมด้านสังคมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดยในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 เพื่อเป็นการต่อยอดและขยายผลของการรวบรวมผลงานนวัตกรรมทางสังคมและเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาสังคมและกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งผลการคิดค้นและการดำเนินงานสำคัญในด้านสังคมของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน โดยผนึกกำลังบนพื้นฐานการมีส่วนร่วมและการบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่ดำเนินงานด้านสังคมของประเทศไทย “นอกจากนี้ การที่ประเทศไทยเป็นประธานกลุ่มอาเชียนในปีนี้ จึงถิอเป็นโอกาสอันดีในการเสริมสร้างบทบาทของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และรัฐบาลไทยในการเป็นองค์กรนำของสังคมด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงจัดงานนี้ขึ้นมา” ปลัดกระมรวง พม.กล่าว นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดงานไทยแลนด์โซเชียลเอ็กซ์โปครั้งนี้ มีเป้าหมายสำคัญ 5 ประการ คือ 1.ความบันเทิง เพราะมีการแสดงต่างๆ มากมาย 2.ความรู้ เพราะผู้ที่มาร่วมงานจะได้รับรู้ว่าประเทศไทยมีปัญหาสังคมอย่างไรบ้าง รัฐบาลได้แก้ปัญหาไปแล้วอย่างไร และจะทำอะไรต่อไป 3.ความคิด โดยเฉพาะความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ในการแก้ไขปัญหาสังคม 4.ความช่วยเหลือ เพราะรัฐบาลได้จัดความช่วยเหลือแก่ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่เด็กถึงคนชรา ทุกอาชีพ ทุกเพศ ตามแนวคิด “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” และ 5.แรงบันดาลใจ ในการต่อสู้ ไม่ท้อถอย นอกจากนี้รองนายกรัฐมนตรียังพูดถึงการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลเรื่องที่อยู่อาศัยของประชาชนที่มีรายได้น้อย โดยเฉพาะโครงการ ‘บ้านประชารัฐริมคลองลาดพร้าว’ ที่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ดำเนินการว่า จากเดิมที่เป็นชุมชนแออัด สภาพบ้านเรือนทรุดโทรม ปลูกบ้านรุกล้ำคลองก็จะขยับขึ้นมาเป็นบ้านประชารัฐริมคลองลาดพร้าว “นอกจากนี้ยังมีโครงการ ‘ปทุมธานีโมเดล’ ซึ่งเดิมชาวบ้านบุกรุกริมคลอง 1-4 ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐ รัฐบาลก็ไม่ได้ขับไล่เพราะกลัวว่าชาวบ้านจะเดือดร้อน รัฐจึงจัดที่ดินให้ใหม่ และให้เงินปลูกบ้าน รวมทั้งหาอาชีพให้เป็นโมเดลใหม่ คือ 1.ชาวบ้านได้ที่อยู่อาศัยใหม่ที่ถูกกฎหมาย 2. มีอาชีพ และ 3.รัฐมีโอกาสพัฒนาคลอง ทำให้เรือวิ่งได้ และต่อไปก็จะพัฒนาคลองเปรมประชากร ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริของพระเจ้าอยู่หัว”นายวิษณุกล่าว รองนายกฯ ชมนิทรรศการการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าว นอกจากเป็นประธานในพิธีเปิดงานไทยแลนด์โซเชียลเอ็กซ์โปแล้ว รองนายกรัฐมนตรีได้เดินเยี่ยมชมบูธของหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งบูธของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ โดยเฉพาะนิทรรศการการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าว โดยมีนายไมตรี อินทุสุต ประธานกรรมการสถาบันฯ ให้การต้อนรับและอธิบายความคืบหน้าของโครงการว่า ขณะนี้สร้างบ้านเสร็จไปแล้ว รวม 3,064 ครัวเรือน ใน 34 ชุมชน แต่ยังมีผู้ไม่เข้าร่วมอีกประมาณ 1,500 ครัวเรือน ทำให้โครงการก่อสร้างเขื่อนระบายน้ำในคลองลาดพร้าวเพื่อป้องกันน้ำท่วม รวมทั้งโครงการก่อสร้างบ้านประชารัฐริมคลองเกิดความล่าช้ากว่าแผนงาน นายสมชาติ ภาระสุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ กล่าวว่า พอช.ทำงานกับประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะประชาชนที่มีรายได้น้อย เช่น สนับสนุนส่งเสริมให้ประชาชนที่มีความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยให้รวมกลุ่มกันแก้ไขปัญหาตามโครงการ ‘บ้านมั่นคง’ การส่งเสริมให้ชุมชนท้องถิ่นได้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เช่น จัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ หรือสถาบันการเงินชุมชนเพื่อเป็นทุนของชุมชนเอง ส่งเสริมการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชน เพื่อนำเงินกองทุนมาช่วยเหลือกัน รวมทั้งส่งเสริมด้านคุณภาพชีวิต เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดี เป็นต้น “การจัดงานไทยแลนด์โซเชียลเอ็กซ์โป ครั้งนี้ พอช.มีคอนเซ็ปท์ในการจัดงาน คือ ‘บ้านมั่นคงของมนุษย์ สู่ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง’ เพราะนอกจาก พอช.จะสนับสนุนให้ชุมชนได้แก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของมนุษย์แล้ว ยังส่งเสริมให้ชุมชนแก้ไขปัญหาและพัฒนาในด้านต่างๆ ด้วย โดยได้ชวนพี่น้อง เครือข่ายขบวนองค์กรชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศที่มีความโดดเด่นในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาชุมชนมาร่วมจัดแสดงนิทรรศการในครั้งนี้ด้วย” ผอ.พอช.กล่าว นายสมชาติ  ภาระสุวรรณ  ผอ.พอช. ทั้งนี้ชุมชนที่จะมาร่วมแสดงผลงานและนิทรรศการการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น ประกอบด้วยตัวแทนจาก 5 ภาคคือ ภาคเหนือ ตำบลลำประดา อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร มีจุดเด่นด้านการใช้ธรรมนูญตำบลมาเป็นแนวทางในการพัฒนาและแก้ไขปัญหา, ภาคอีสาน ตำบลกุดหว้า อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ มีจุดเด่นด้านการใช้วัฒนธรรมท้องถิ่นเป็นฐานการพัฒนาภาคกลางและตะวันตก ตำบลหนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี มีจุดเด่นด้านการอนุรักษ์ป่าชุมชน ส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจชุมชน, กรุงเทพฯ และตะวันออก ตำบลหนองโรง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี มีจุดเด่นด้านสถาบันการเงินชุมชน และการแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำ และภาคใต้ ตำบลเขาแก้ว อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช มีจุดเด่นด้านการใช้สภาองค์กรชุมชนเป็นกลไกในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาชุมชน นอกจากนี้ในงานครั้งนี้ยังมีการเสวนา การแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานพัฒนาชุมชนในด้านต่างๆ เช่น ‘บ้าน รากฐานการพัฒนาชุมชนและความมั่นคงของมนุษย์ทุกมิติ’, ‘คืนความสุขให้คนคลอง คืนสายคลองให้คนเมือง’,‘Green City’ พื้นที่สีเขียวสำหรับทุกคนในเมือง รวมทั้งมีผู้แทนจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา พม่า ศรีลังกา และบังคลาเทศ มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การพัฒนาเมืองและที่อยู่อาศัยของประชาชนที่มีรายได้น้อยด้วยงาน‘ไทยแลนด์โซเชียลเอ็กซ์โป’ เป็นการจัดแสดงผลงานและนวัตกรรมการพัฒนาสังคมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2561 ส่วนในปีนี้เป็นการจัดงานปีที่ 2 ภายใต้แนวคิด “ร่วมมือ ร่วมใจ สังคมไทยยั่งยืน” แบ่งกิจกรรมออกเป็น 4 โซน ประกอบด้วย 1.การเสวนาทางวิชาการเกี่ยวกับประชาชนกลุ่มเป้าหมายในทุกช่วงวัย เช่น สมัชชาการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ, วาระแห่งชาติ Active Aging สูงวัยอย่างมีคุณค่า ชราอย่างมีความสุข, สื่อสารสร้างสรรค์ป้องกันปัญหาความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก และการยกระดับ CSR สู่พลังจิตสาธารณะ ลดความเหลื่อมล้ำอย่างยั่งยืน และการพัฒนาชุมชนที่ส่งเสริมและสนับสนุนโดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ เป็นต้น 2.บริการทางสังคม เช่น บริการตรวจวัดสายตา, ประมูลทรัพย์หลุดจำนำ, สาธิตการพัฒนาฝีมือแรงงานและการฝึกอาชีพ, ตัวอย่างแบบบ้านประหยัดพลังงาน, การทำบัตรประชาชน และการให้บริการจัดหางาน เป็นต้น 3.การแสดงและนวัตกรรมทางสังคม บริเวณ Pavilion กลาง การแสดงผลงานการพัฒนาคนทุกช่วงวัย ได้แก่ ปฐมวัย วัยรุ่น วัยแรงงาน และวัยสูงอายุ, นวัตกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ, การแสดง Application งานด้านสังคม และการแสดงดนตรีของคนพิกร Fight for Dream เป็นต้น 4.การออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าและร้านอาหาร อาทิ ผลิตภัณฑ์ ทอฝัน by พม. , ผลิตภัณฑ์ OTOP ร้านค้า ร้านอาหาร เครื่องดื่ม เบเกอรี่ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ และอาหารจากชุมชนต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาค ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานไทยแลนด์โซเชียลเอ็กซ์โปได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ระหว่างวันที่ 5-7 กรกฏาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 9.00 –20.00 น.ที่อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี