เก้าอี้ รมต. “ผู้กองธรรมนัส” วัดพลังที่ไม่ธรรมดาของ “3ป.” เคลียร์ “มือเคลียร์”

“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จัดคณะรัฐมนตรี ได้แบบไม่ทิ้งลาย เพราะยังคงมีหลายตำแหน่ง ที่เซอร์ไพรซ์ แต่ก็สะท้อน พลังอำนาจ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่สามารถ สยบศึก ก๊วน กลุ่ม ในพรรคพลังประชารัฐ ได้ ในยกแรกนี้ จนทำให้มองกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ น่าจะเอาอยู่ เพราะนักการเมือง ก็ยังเกรงใจ อีกทั้ง ในหมู่นักการเมือง รู้กันดี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ มี “ตัวช่วยพิเศษ” อยู่ด้วย จึงทำให้เกิดความเกรงใจ แต่ที่สะท้อน พลังที่ไม่ธรรมดาของ พล.อ.ประยุทธ์ คือ การที่ “ผู้กองธรรมนัส” ร.อ.ดร.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ มือเคลียร์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็น รมว. แรงงาน ในโค้งสุดท้าย หลังจากที่เดิม ชื่อหลุดโผ รัฐมนตรี เพราะคุณสมบัติ ทั้งที่ถูกมองว่า เป็นผู้มีอิทธิพล ผู้กว้างขวาง ตั้งแต่เมื่อครั้ง อยู่ใน สายของ “เสธ.ไอซ์” พล.อ. ไตรรงค์ อินทรทัต ก๊อดฟาเธอร์ ระดับตำนาน ของ กองทัพ เพื่อน ตท.10 ของ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร และ “บิ๊กป๊อก” พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา และกลายเป็นทายาท ที่ดูแล ธุรกิจ และลูกน้อง ต่อ เมื่อ เสธ.ไอซ์ เสียชีวิตไป จน เจ้าตัว ต้องเดินสายออกสื่อชี้แจง ว่า ไม่ได้เป็นมาเฟีย แต่ช่วยเป็นตัวกลางเจรจา ให้คนที่ทะเลาะกัน ขัดแย้งกัน หันมาคุย เคลียร์กันได้ รวมทั้ง ไม่ได้ทำธุรกิจ ผิดกฎหมายใดๆ แต่ทำธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ จนร่ำรวย และเข้าสู่สนามการเมือง ด้วยการทำงานการเมือง ที่พะเยา บ้านเกิด มายาวนาน เป็นสิบปี โดยคาดกันว่า จะลงสมัครในนาม พรรคเพื่อไทย หลังการรัฐประหาร ปี 2549 ผู้กองธรรมนัส โดยผู้ใหญ่ในคสช. เตือนให้ลดบทบาท อยู่นิ่งๆ จนที่สุด ผู้กองธรรมนัส กลายเป็น น้องรักของ พล.อ. อนุพงษ์ และ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จนรัฐประหารปี 2557 ที่ ผู้กองธรรมนัส ถูกคสช. จับตามอง และ ขอความร่วมมือ ในการไม่เคลื่อนไหวใดๆ ในที่สุด เมื่อผู้ใหญ่ ในคสช. ตั้งพรรคพลังประชารัฐ เพื่อสู้ศึกเลือกตั้ง ผู้กองธรรมนัส ก็ถูกผู้ใหญ่ ขอให้มาช่วยงาน และย้ายมาลงพรรคพลังประชารัฐและได้เป็น ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้ง ภาคเหนือ ของพรรคพลังประชารัฐ เลยทีเดียว แถมผลงาน จากการเลือกตั้ง ในการสู้กับพรรคเพื่อไทย และพรรคอนาคตใหม่ ทำให้ ผู้กองธรรมนัส ได้เก้าอี้รัฐมนตรี เป็นการตอบแทน แต่ในเบื้องต้นเกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ จึงส่งชื่อ อัครา พรหมเผ่า น้องชาย มารับตำแหน่งรัฐมนตรีแทน แต่ในที่สุด เมื่อมีสัญญาณไฟเขียวส่งมา ก็ทำให้อัครา ขอถอนตัวจากการเป็นรัฐมนตรี เพื่อเตรียมไปทำงานการเมืองท้องถิ่น เตรียมสู้ศึกการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีขึ้นในไม่ช้านี้ ชื่อของ ผู้กองธรรมนัส จึงขึ้นแท่นรัฐมนตรี แม้จะเคยถูกให้ออกจากราชการทหาร และเคยถูกถอดยศ จนเป็น “นาย” มาแล้ว แต่ก็ได้กลับเข้ารับราชการ อีกครั้งหนึ่ง และมีการเปลี่ยนชื่อ จาก “มนัส” เป็น “พัชร” และ เป็น “ธรรมนัส” ในที่สุด แต่ก็ได้กลับเข้ารับราชการ อีกครั้ง เพราะมีพระราชกฤษฎีกาล้างมลทิน ออกมา ก่อนที่จะต้องลาออก อีกครั้งหนึ่ง และผันชีวิต มาเป็นนักธุรกิจเต็มตัว พร้อมกับการเล็งเล่นการเมืองในจังหวัดพะเยา แต่ไม่ว่าจะ มีประวัติ อย่างไรก็ตาม แต่ในที่สุด ก็สอบผ่านได้ไฟเขียวให้เป็นรัฐมนตรี โดยให้ กรอกเอกสารประวัติรัฐมนตรี อย่างเร่งด่วน เป็นคนท้ายๆของ ครม.ใหม่ เลยทีเดียว พร้อมกับการเก็บตัวเงียบ งดรับสาย งดให้สัมภาษณ์ สื่อมวลชน เพราะ “ผู้ใหญ่” ขอให้อยู่เงียบๆ จนกว่า ทุกอย่างจะเรียบร้อย แต่ที่สุด ข่าวก็รั่ว ออกมาว่า เป็น รมว.แรงงาน พร้อมๆกับการขุดเอกสาร ประกาศสำนักนายกฯ เมื่อปี2541 ที่ ถูกให้ออกจากราชการ และถูกถอดยศ และเอกสาร กกต. ที่ ใช้คำนำหน้าว่า “นาย” สมัคร ส.ส. ที่คาดกันว่า น่าจะมีคนชวดเก้าอี้ อยู่เบื้องหลัง หรือไม่ เพราะในช่วงที่ผ่านมา ขณะรับหน้าที่ มือเคลียร์ปัญหา ในพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคพลังประชารัฐ ตามบัญชา พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร นั้น ผู้กองธรรมนัส ก็ถูกหมั่นไส้ จากบางกลุ่ม บางพวก ในพรรค เช่นกัน แต่ในที่สุด เมื่อ มีไฟเขียว มาแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ก็ตกลงใจ ให้ผู้กองธรรมนัส อีกทั้งกระทรวงแรงงาน ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในกระทรวงด้านความมั่นคง ที่จะอยู่ในการดูแลของ พล.อ.ประวิตร ซึ่งคาดหมายกันว่าจะเป็นรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ไม่แค่นั้น ผู้กองธรรมนัส ก็ยังถือเป็นสายตรงของพล.อ.ประวิตรในการทำภารกิจสำคัญๆ โดยเฉพาะ “ว.5” ด้วย และยังเป็นการวัดใจของ “พี่ป้อม-พี่ป๊อก-พี่ตู่” ของ ผู้กองธรรมนัส ด้วย หลังจากที่มีการพิสูจน์กันแล้วว่า ผู้กองธรรมนัส ย้ายฝั่ง ย้ายข้างย้ายครัวจริงๆจากผลงานการเลือกตั้งที่ผ่านมา ที่สำคัญ ผู้กองธรรมนัส ถือว่ามีความพร้อม ทั้งทุน และ บารมี ที่จะช่วย 3 ป. และพรรคพลังประชารัฐ ต่อไปได้ การตัดสินใจ ของพล.อ.ประยุทธ์ครั้งนี้ ย่อมมีพล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ เป็นกองหนุนและสะท้อน ความกล้า และพลังอำนาจที่ไม่ธรรมดา ที่เชื่อกันว่า เมื่อ โฉมหน้า ครม. ปรากฏ ออกมาหลัง โปรดเกล้าฯ จะยิ่งได้เห็น พิษสง ของ พี่น้อง 3 ป. ที่แม้จะเป็น พยัคฆ์เฒ่า แต่ก็แกร่งทั้งอำนาจ และบารมี สมกับที่ ครองอำนาจ มายาวนาน และผ่านการวางแผน มาแล้ว อย่างแยบยล