เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 2 ก.ค.62 พนักงานสอบสวน สน.บางเขน สอบปากคำนายนันทวัฒชัย หรือ แทน อายุ 19 ปี และ นายภาคภูมิ หรือ ภูมิ อายุ 18 ปี 2ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่คู่อริร่วมสถาบัน และขับรถกระบะเหยียบรถจักรยานยนต์ ภายในหมู่บ้านซอยรามอินทรา 39 ก่อนหลบหนีไป โดยกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้านสามารถบันทึกภาพไว้ได้ เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา นายแทน อ้างว่า คู่กรณีกับตัวเองได้มองหน้ากันตอนอยู่โรงเรียน เพราะเรียนอยู่ที่สถาบันเดียวกัน ก่อนนัดกันออกมาเคลียร์ แต่เนื่องจากฝั่งคู่กรณีมีพวกเยอะกว่า จึงเกรงว่าจะสู้ไม่ไหวจึงไปเรียกเพื่อนให้มาช่วย ก็คือนายภูมิ และมาก่อเหตุกันตามที่ปรากฎในภาพกล้องวงจรปิด ด้านนายภาคภูมิ กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนอยู่ที่บ้านกับลูกกับเมียตามปกติ แต่เพื่อนโทรมาบอกว่า กำลังจะถูกรุมกระทืบ ด้วยความรักเพื่อนจึงรีบออกไปช่วย พร้อมกับยืมรถกระบะรุ่นพี่คันสีแดงออกไปก่อเหตุ พร้อมกับมีอาวุธปืนลูกซองออกไปด้วย แต่นายภูมิ รู้อยู่แล้วว่าเพื่อนคือนายแทนเป็นคนใจร้อน ก็เลยเอาลูกกระสุนออกจากปืน ทำให้ตอนที่นายแทน เหนี่ยวไกลออกไปปืนจึงยิงไม่ออก ตนก็ยอมรับผิดและขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เจตนาคือไม่ได้จะตั้งใจไปฆ่าไปแกงกัน แค่อยากไปเคลียร์กันให้เข้าใจ ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ ทางด้าน พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน กล่าวว่า หลังครอบครัวของผู้ต้องหาทั้งสองพาเข้ามอบตัวเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็ได้มีการสอบปากคำเพิ่มเติม โดยจะต้องมีการตรวจสอบปืนลูกซองที่ใช้ก่อเหตุเป็นของใคร เพราะเป็นปืนมีทะเบียนที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเก็บได้ และแม้จะให้การอ้างว่าปืนที่ใช้ไม่ได้ใส่ลูก และไม่ลูกกระสุนออกมา แต่การใช้อาวุธปืนตามภาพที่ปรากฎถือครบองค์พยานหลักฐาน จึงแจ้ง 4 ข้อหา คือ ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นมีอาวุธปืนไว้ในควาทครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้สน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร ทำให้เสียทรัพย์ พร้อมนำตัวฝากขังผัดแรกที่ศาลจังหวัดมีนบุรี