กรุงเทพฯ : เมื่อเร็วๆนี้ ที่ห้องประชุมชั้น3 อาคารสำนักงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มูลนิธิชัยพัฒนา มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในประบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย นายอนุวัธ วงศ์วรรณ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)แห่งประเทศไทย นายนพดล แก้วสุพัฒน์ นายกสมาคมอบต.แห่งประเทศไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การบริหารจัดการทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า ตามแนวพระราชดำริ โดยท้องถิ่นอย่างยั่งยืน”
ดร.สุเมธ กล่าวว่า มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ ได้พัฒนาเครือข่ายการพัฒนาทรัพยากรน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ มาตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบันพบตัวอย่างความสำเร็จของการจัดการทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า ในระดับชุมชนจำนวนมาก ปัจจุบันมี 60 ชุมชนแกนนำ ขยายผลเป็นเครือข่ายจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ 932 หมู่บ้าน และได้จัดตั้งให้เป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ 13 แห่ง 
“มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯจังได้ร่วมมือกับสมาคมอบจ.แห่งประเทศไทย และสมาคมอบต.แห่งประเทศไทย เพื่อดำเนินงานสนับสนุน พัฒนา และขยายผลเครือข่ายการจัดการทรัพยากรดิน น้ำ ป่า ตามแนวพระราชดำริอย่างต่อเนื่อง ระหว่างท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ บนพื้นฐานของการพึ่งตนเอง ลงมือทำอย่างมีส่วนร่วม แลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ และน้อมนำแนวพระราชดำริ เกี่ยวกับการจัดการทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า มาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมตามภูมิสังคม พร้อมพัฒนาและขยายผลการฟื้นฟู อนุรักษ์ และบริหารจัดการทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า โดยท้องถิ่นอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นการร่วม “เทิดด้วยทำ” น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปริมนทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” ดร.สุเมธ กล่าว
ดร.สุเมธ กล่าวว่า มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ ได้พัฒนาเครือข่ายการพัฒนาทรัพยากรน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ มาตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบันพบตัวอย่างความสำเร็จของการจัดการทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า ในระดับชุมชนจำนวนมาก ปัจจุบันมี 60 ชุมชนแกนนำ ขยายผลเป็นเครือข่ายจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ 932 หมู่บ้าน และได้จัดตั้งให้เป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ 13 แห่ง
“มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯจังได้ร่วมมือกับสมาคมอบจ.แห่งประเทศไทย และสมาคมอบต.แห่งประเทศไทย เพื่อดำเนินงานสนับสนุน พัฒนา และขยายผลเครือข่ายการจัดการทรัพยากรดิน น้ำ ป่า ตามแนวพระราชดำริอย่างต่อเนื่อง ระหว่างท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ บนพื้นฐานของการพึ่งตนเอง ลงมือทำอย่างมีส่วนร่วม แลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ และน้อมนำแนวพระราชดำริ เกี่ยวกับการจัดการทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า มาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมตามภูมิสังคม พร้อมพัฒนาและขยายผลการฟื้นฟู อนุรักษ์ และบริหารจัดการทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า โดยท้องถิ่นอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นการร่วม “เทิดด้วยทำ” น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปริมนทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” ดร.สุเมธ กล่าว