เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 28 มิ.ย.62 ที่ สตม.สวนพลู พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ รอง ผบช.สตม.พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.ภ.7 รรท.รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.วิญญู อำนวยสมบัติ รอง ผบก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.2 บก.สส.สตม. แถลงข่าวการจับกุมชาวจีนมีประวัติคดีปลอมผล DNA ขอทำบัตรประชาชนไทยโดยจับกุม MR.YUNYONG HE หรือ นายโอภาส เหอ ซึ่งบุคคลดังกล่าวเคยถูกดำเนินคดีในข้อหา ความผิดต่อเจ้าพนักงาน (แจ้งความอันเป็นเท็จ), พล.ต.ต.พนัญชัย กล่าวว่า ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติ ที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมายก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ โดย บก.สส.สตม. เฝ้าติดตามสถานการณ์ กลุ่มองค์กร บุคคลต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาพำนักอยู่ในประเทศไทย ทั้งนี้ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีบุคคลต่างด้าวสัญชาติจีน ราย MR.YUNYONG HE หรือ นายโอภาส เหอ ซึ่งบุคคลดังกล่าวเคยถูกดำเนินคดีในข้อหา ความผิดต่อเจ้าพนักงาน (แจ้งความอันเป็นเท็จ), ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร (ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม) อีกทั้งยังเป็นบุคคลต้องห้ามตาม มาตรา12 (6),(7) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ถูกบันทึกข้อมูลในบัญชีบุคคลเฝ้าดูของ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และถูกผลักดันออกนอกราชอาณาจักร เมื่อปี พ.ศ.2559ต่อมา MR.YUNYONG HE หรือ นายโอภาส เหอ ได้เดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักร โดยใช้ชื่อ MR.AN HE สัญชาติจีน ผ่านช่องทาง ทอ.อู่ตะเภา ตม.จว.ระยอง บก.ตม.3 เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2562 ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรถึงวันที่ 25 มิ.ย.2562 (วีซ่านักท่องเที่ยว (60 วัน) ต่อมาได้ขออยู่ต่อในราชอาณาจักร ถึงวันที่ 25 ก.ค.2562 โดยการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่สิ้นสุด จากการตรวจสอบภาพถ่ายการเดินทางของบุคคลต่างด้าวในระบบ PIBICS พบว่าบุคคลดังกล่าวมีลักษณะตำหนิรูปพรรณคล้ายคนเดียวกัน ต่อมาวันที่ 26 มิ.ย. 2562 เวลาประมาณ 19.20 น. เจ้าหน้าที่ กก.4 บก.สส.สตม. ได้ไปทำการตรวจสอบพบบุคคลดังกล่าว และได้เชิญตัวมาที่ กก.4 บก.สส.สตม. เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงดังกล่าว ปรากฏว่า MR.AN HE ให้การยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่าตนเป็นบุคคลคนเดียวกันกับ MR.YUNYONG HE จึงได้พาตัว MR.AN HE ไปสแกนลายพิมพ์นิ้วมือ พบว่ามีประวัติเป็นผู้ต้องกักของ กก.3 บก.สส.สตม. จริง โดย MR.AN HE ได้ให้การยอมรับว่าตนเป็นบุคคลเดียวกันกับ นายโอภาส เหอ ซึ่งตนได้ถูกดำเนินคดีในข้อหาความผิดต่อเจ้าพนักงาน (แจ้งความอันเป็นเท็จ),ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร (ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม) ซึ่งได้รับโทษจำคุก 11 เดือน เมื่อพ้นโทษแล้วจึงถูกผลักดันออกนอกราชอาณาจักร เมื่อกลับประเทศจีนแล้วจึงได้เปลี่ยนชื่อและทำหนังสือเดินทางใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่และเดินทางเข้ามาประเทศไทยหลายครั้ง จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตรวจสอบพบในครั้งนี้ พล.ต.ต.พนัญชัย กล่าวอีกว่า กก.4 บก.สส.สตม. ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า บุคคลดังกล่าวเป็นภัยต่อสังคมและประชาชน อันเป็นพฤติการณ์ ซึ่งเป็นบุคคลต้องห้ามตาม ม.12 (6) และ (7) แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 อันเป็นพฤติการณ์ที่สมควรเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดของคนต่างด้าว หรือคนต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178