สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ Fan Page ได้โพสต์ภาพที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ ทางช้างเผือก โดยระบุ “ภาพนี้บันทึกเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.62 ณ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ฉะเชิงเทรา
“ทางช้างเผือก” เป็นวัตถุท้องฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อมองจากโลก หากท้องฟ้าปลอดโปร่ง มีทัศนวิสัยของท้องฟ้าดี ไม่มีแสงรบกวนทั้งแสงจากดวงจันทร์และแสงไฟจากเมืองสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า ลักษณะเป็นแถบสว่างพาดเป็นแนวยาวกลางฟ้า ตั้งแต่ทิศเหนือจรดทิศใต้
ใจกลางทางช้างเผือก (Galactic Center) คือส่วนที่สว่างที่สุดของทางช้างเผือก ประกอบด้วย วัตถุท้องฟ้ามากมาย อาทิ ดาวฤกษ์ กระจุกดาว เนบิวลา และช่วงนี้ยังพิเศษ เพราะสามารถเห็นดาวพฤหัสบดี และดาวเสาร์ปรากฏบริเวณใจกลางทางช้างเผือกได้อีกด้วย
แนวใจกลางทางช้างเผือก จะอยู่ระหว่างกลุ่มดาวแมงป่อง และกลุ่มดาวคนยิงธนู ปรากฏบนท้องฟ้าในตำแหน่งที่เฉียงไปทางใต้ และเนื่องจากใจกลางทางช้างเผือกอยู่บริเวณกลุ่มดาวซีกฟ้าใต้ ทางภาคใต้ของไทยจึงมองเห็นแนวใจกลางทางช้างเผือกอยู่สูงจากมวลอากาศบริเวณขอบฟ้าและสูงจากขอบฟ้ามากกว่าภูมิภาคอื่น ชาวใต้จึงมีโอกาสสังเกตเห็นทางช้างเผือกได้ชัดเจนมาก
ช่วงเวลาที่สังเกตทางช้างเผือกได้ดีที่สุดคือ ปลายเมษายน-ต้นตุลาคม แต่ในประเทศไทยเป็นช่วงฤดูฝน จึงมักมีอุปสรรคเรื่องเมฆและฝนตก แต่หากท้องฟ้าเปิดไม่มีเมฆฝนจะถือเป็นโอกาสดีที่สุดของการถ่ายภาพทางช้างเผือกในรอบปี หลังจากนั้นในช่วงตุลาคม-พฤศจิกายน เป็นช่วงต้นฤดูหนาว อุปสรรคเรื่องเมฆฝนจะเริ่มน้อยลง จะสังเกตเห็นทางช้างเผือกได้ในช่วงหัวค่ำทางทิศตะวันตกเฉียงใต้”
ทั้งนี้ ธรรมะแห่งความจริงจากพระอาจารย์ ไพศาล วิสาโล ท่านว่าไว้ "เมื่อมองไปบนฟ้า ตัวเราก็เป็นแค่ธุลีของจักรวาลเท่านั้น"