ได้ฤกษ์ เบิกม่าน ไปกันแล้ว สำหรับ “การประชุมสุดยอดของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ประเทศ ประจำปี 2019 (พ.ศ. 2562)” หรือ “จี20 ซัมมิต 2019” ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันศุกร์ที่ 28 มิ.ย. อันเป็นวันเปิดการประชุมในวันนี้ และจะไปสิ้นสุดปิดฉากการประชุมในวันเสาร์ที่ 29 มิ.ย.ช่วงสุดสัปดาห์ ทั้งนี้ ก็จะมีเหล่าผู้นำของชาติสมาชิก 19 ประเทศ และอีกหนึ่ง ก็จะเป็นตัวแทนของ “สหภาพยุโรป” หรือ “อียู” 28 ประเทศ แต่นับเนื่องเป็น “ประเทศเดียว” เข้าร่วม จึงถือเป็นกลุ่มชาติสมาชิก “จี20” 20 ประเทศ พร้อมด้วยผู้นำจากบรรดาชาติ และกลุ่มความร่วมมือ องค์การระหว่างประเทศอื่นๆ อย่าง สหประชาชาติ หรือยูเอ็น ตลอดจนอาเซียน ที่ ณ เวลานี้มีไทยเรา เป็นประธานอาเซียน เข้าร่วมประชุมในฐานะแขกผู้ได้รับเชิญด้วย ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดัยอย่างสุดเข้มงวด โดยมีรายงานว่า นอกจากระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 3.2 หมื่นนาย วางกำลังตามจุดต่างๆ แล้ว ก็ยังจัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอีกจำนวนหนึ่ง มาดูแลเรื่องรักษาความปลอดภัยกันอีกด้วย ซึ่งในความเข้มงวดนั้น ถึงขนาดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงไปตรวจการณ์ ค้นหาสิ่งแปลกปลอม ไม่พึงประสงค์ ถึงบริเวณคูน้ำของตัว “ปราสาทโอซากา” หนึ่งในสถานที่สำคัญสำหรับการประชุมสุดยอดซัมมิตครั้งนี้กันเลยทีเดียว ว่ากันถึงในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ ก็ถือเป็นครั้งที่ 14 ที่เหล่าผู้นำชาติสมาชิกจี20 ได้มาขึ้นโต๊ะถกการประชุม นับตั้งแต่ความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งนี้ สถาปนาร่วมกลุ่มตั้งแต่ปี 1999 (พ.ศ. 2542) เป็นต้นมา จากเดิมทีที่เรียกชื่อว่า กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ 20 ประเทศในเวลานั้น สู่การเป็นกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ประเทศ ในปัจจุบัน อันเป็นผลจากความเก่าแก่ของกลุ่ม ที่มิได้เฟื่องฟูใหม่อีกต่อไปแล้ว ตามอายุขัยนับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อร่วม 20 ปีก่อนที่ล่วงเลยมา โดยการซัมมิตที่กำลังมีตลอดช่วงสองวันนี้ ปรากฏว่า เรื่อง “สงครามการค้าโลก” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระหว่างคู่กรณี “สหรัฐอเมริกา” กับ “จีนแผ่นดินใหญ่” ที่ลุกลามบานปลายยิ่งกว่าคู่สงครามไหนๆ ก็ได้กลายเป็นเงาทะมึน ครอบคลุมฉากการซัมมิตครั้งนี้ ในฐานะที่เป็นประเด็นร้อนแรงของการถกยิ่งกว่าประเด็นใดๆ ที่จะมีการหยิบยกขึ้นสู่เวทีการประชุมสุดยอดหนนี้ ประธานาธิบดีสีจิ้น ผิง ผู้นำจีนแผ่นดินใหญ่ (ซ้าย) และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ทั้งนี้ ในการพบปะกันแบบทวิภาคี หรือสองต่อสอง ระหว่าง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนแผ่นดินใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นในฉากของการพบปะกันแบบทางการ หรือในแบบนอกรอบ ไซด์ไลน์ ก็จะได้รับการจับตาจากประชาคมโลกยิ่งกว่าคู่ผู้นำใดๆ ท่ามกลางความคาดหวังว่า จากบรรดานักวิเคราะห์ หรือแม้กระทั่งเหล่าผู้นำของชาติสมาชิกฯ ในห้องประชุมของจี20 เอง ก็ได้ออกมาเน้นย้ำให้ทั้งผู้นำสหรัฐฯ และจีนแผ่นดินใหญ่ เห็นความสำคัญของการสร้างวงจรอย่างสร้างสรรค์ในอันที่จะเป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกอย่างแข็งแกร่ง และกระจายไปทั่วถึงของทุกภาคส่วนทางเศรษฐกิจ ด้วยประการฉะนี้ ทั้งสหรัฐฯ และจีนแผ่นดินใหญ่ จึงต้องร่วมกันดับไฟสงครามการค้าที่มีต่อกัน เนื่องไฟสงครามที่กำลังลุกโชนข้างต้น ได้ทำลายบรรยากาศของการสร้างสรรค์ดังกล่าว ภาพตกแต่งแสดงการขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน พร้อมๆ กันนั้นทางคณะผู้นำชาติสมาชิกจี20 ก็แสดงความคาดหวัง ผู้นำสหรัฐฯ ในฐานะคู่ปรปักษ์หลัก จะคลี่คลายความขัดแย้งกับอิหร่านที่กำลังตึงเครียด ซึ่งเป็นอีกปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกอีกประการหนึ่ง ที่ทางจี20 ซัมมติ 2019 ครั้งนี้ มีความเป็นห่วง