ที่หอประชุมใหญ่บริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) ถ.แจ้งวัฒนะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรค กล่าวถึงกรณีที่มีกระเเสข่าวว่าจะมีการตีกลับบุคคลที่มีรายชื่อเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค ว่า​ พรรคได้พิจารณากลั่นกรองบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีมาเป็นอย่างดี โดยตนได้ลงนามในหนังสือ และส่งให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ​หัวหน้า​คณะ​รักษา​ความสงบ​แห่งชาติ​(คสช.)​ เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม​ ขึ้น​อยู่กับดุลยพินิจ และอำนาจของนายกฯ ในการพิจารณาตำแหน่งและนำเสนอชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมต่อไป ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยตนในฐานะหัวหน้าพรรค คิดว่าได้ทำหน้าที่จบเรียบร้อยแล้ว แต่การตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกฯ เมื่อถามว่า ในฐานะหัวหน้าพรรค​ จะการันตีรายชื่อ 2 บุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี​ช่วย​ฯ อย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ต้องการันตีใคร เพราะพรรคได้ส่งรายชื่อไป 7 คน แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นใครบ้าง เนื่องจากเป็นเรื่องที่ไม่สมควร และไม่บังควร อย่างไรก็ตามต้องรอให้มีการโปรดเกล้าฯ ลงมาก่อน ตอนนี้ยังไม่สามารถพูดอะไรได้ เมื่อถามย้ำว่า บุคคลที่มีชื่อเป็นรมช.2 คนนั้น อาจจะมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ได้มีการพิจารณารายชื่อใครไว้สำรองหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า กว่าจะส่งชื่อเข้าไป​ เราตรวจสอบแล้วตรวจสอบอีก และผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อทุกคนก็ต้องรับรองตัวเอง นี่คือสิ่งที่สำคัญ เพราะเราไม่มีวันไปทราบว่าในอดีตเขาเป็นอย่างไร มีคดีความอะไร หรือมีคุณสมบัติต้องห้ามอย่างไรบ้าง ดังนั้น​ จึงต้องขอให้เขารับรองตนเอง เมื่อรับรองตนเองแล้ว หากมีอะไรนอกเหนือจากนี้​ เขาก็อยู่ไม่ได้เท่านั้นเอง เมื่อถามว่า แสดงว่าไม่ได้วางตัวบุคคลสำรองไว้ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี​ เพราะส่งรายชื่อไปเพียงฉบับเดียว เมื่อถามว่า หากนายกฯตีกลับรายชื่อ​ จะทำอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้เกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน แต่ตนคิดว่าไม่ เพราะได้ส่งรายชื่อไปสัปดาห์กว่าๆแล้ว​ ดังนั้น​ No news is good news เมื่อถามว่า บุคคลที่เข้ามาเป็นรัฐมนตรี จะต้องลาออกจากรายชื่อส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรค หากได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี ก็ต้องลาออกจากการเป็นส.ส.ยกเว้นหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค เพราะต้องดูแลงานในสภาฯ ซึ่งเชื่อว่าจะไม่กระทบกับรัฐบาลที่มีเสียงปริ่มน้ำ เมื่อถามว่า ในส่วนของนายอนุทิน ที่จะมาเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุขด้วยนั้น จะจัดสรรเวลาการทำหน้าที่ส.ส.อย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องการทำงานในสภาถือเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่ เพราะที่ผ่านมาทุกรัฐบาล ก็มีส.ส.ที่ทำหน้าที่บริหารบ้านเมือง ยิ่งเป็นส.ส.แล้วก็ต้องให้ความสำคัญ ทั้งงานบริหารและงานรัฐสภา ต้องแบ่งเวลาให้ถูก การประชุมสภาฯไม่ใช่ว่าอีก 1 ชั่วโมงจะประชุมแล้วมาเรียก แต่เขามีการกำหนดนัดหมายล่วงหน้าทั้งแบบการประชุมประจำ การประชุมสามัญ และการประชุมวิสามัญ เราก็ต้องบริหารจัดการ จะเป็นผู้บริหารประเทศก็ต้องบริหารเวลาให้ได้