นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงความคืบหน้าในการกำหนดหลักเกณฑ์พิจารณาบุคคลที่มีรายชื่อเป็นรัฐมนตรีต้องลาออกจากความเป็นส.ส.หรือไม่ ว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ในระหว่างการหารือของผู้บริหารพรรคพิจารณา ส่วนเรื่องคุณสมบัติของรัฐมนตรี ที่เสนอให้นายกรัฐมนตรี ในเบื้องต้นยังไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไร และเข้าใจว่าขณะนี้อยู่ในกระบวนการต่างๆส่วนใครจะได้เป็นอะไรนั้นยังไม่ทราบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่คิดว่าในเร็วๆนี้คงจะได้รู้ ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่พรรคชาติพัฒนา ทวงคำตอบสัดส่วนโควต้ารัฐมนตรีของพรรคที่ควรได้เก้าอี้รัฐมนตรีหนึ่งตำแหน่ง นายสนธิรัตน์ กล่าวปฎิเสธว่า ไม่ทราบ อยู่ที่นายกรัฐมนตรีพิจารณา เมื่อถามย้ำว่า จะมีโควต้าของพรรคชาติพัฒนา ไปเป็นรมช.อุตสาหกรรม หรือไม่ นายสนธิรัตน์ ยิ้มพร้อมกล่าวว่า “อยู่ที่นายกรัฐมนตรี” นายสนธิรัตน์  ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลในการจัดทำนโยบายรัฐบาล  ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดทำนโยบายรัฐบาล ว่า ในสัปดาห์นี้พรรคพปชร.จะมอบหมายให้คณะทำงานไปประสานพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งจะเป็นการเริ่มต้นพูดคุยกับพรรคร่วม หลังจากที่พรรคพปชร.ซึ่งร่างนโยบายในส่วนของพรรคไว้แล้ว จะเป็นการไปรับฟังจากของพรรคร่วมรัฐบาลด้วย เรื่องนี้ยังมีเวลาเพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งครม.และโดยกรอบของกฎหมายกำหนดไว้ว่าต้องแถลงนโยบายภายใน 15 วัน หลังจากคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนทำหน้าที่ นอกจากนี้ นายสนธิรัตน์  ยังกล่าวถึงกรณีที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงาน เรียกร้องให้นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงกรณีที่ลงนามในเอกสารลับมาก ในการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)ให้กับบริษัทเครือกฤษดามหานคร ซึ่งกรรมการที่ร่วมลงชื่อ3ใน5คน ถูกดำเนินคดีไปแล้ว ว่า  จากที่นายอุตตม เล่าให้ฟังว่าทราบว่าทุกอย่างจบไปนานแล้ว ที่มีข่าวออกมาเป็นประเด็นทางการเมืองซึ่งคิดว่าไม่น่าหนักใจอะไร   เมื่อถามว่า จะต้องชี้แจงให้สาธารณชนได้รับทราบข้อเท็จจริงหรือไม่  นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามจากนายอุตตม ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าฝ่ายค้านอาจหยิบยกประเด็นนี้มาอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอุตตม หากมีการตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร ก็ชี้แจงกัน ไปทุกอย่างอยู่บนหลักของกฎหมายอะไรที่ผิดก็ว่ากันไป อะไรที่ไม่ผิดแล้วนำมาเป็นประเด็นการเมืองก็ต้องชี้แจง