สศอ.จัดงานประชุมวิชาการ (Symposium)20 มิ.ย.นี้จัดทำแนวทางการปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมอาเซียนไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 เสนอต่อที่ประชุมสุดยอดอาเซียนปลายปีนี้ ประกาศเป็นเจตนารมณ์ร่วมกันในการปรับตัวและใช้ประโยชน์จากอุตสาหกรรม 4.0 ผ่านการจัดตั้งกลไกเฉพาะในการขับเคลื่อนความร่วมมือ ส่งเสริมการกระจายองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่นำไปสู่การเติบโตเป็นฐานเครือข่ายการผลิตที่สำคัญของโลกร่วมกัน นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)เปิดเผยว่า สศอได้เตรียมการจัดงานประชุมนานาชาติ(Symposium) เรื่องการปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมอาเซียนไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0 และการปรับตัวของผู้ประกอบการ และกำลังคนในภาคอุตสาหกรรม ในการรับมือ และใช้ประโยชน์จากกระแสการเข้าสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 หรือ Fourth Industrial Revolution (4IR) โดยข้อสรุปที่ได้จากการประชุมครั้งจะเป็นส่ว่นหนึ่งของเอกสารผลลัพธ์สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียนในปลายปีนี้ ทั้งนี้ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม โดย สศอ.ได้ผลักดันข้อริเริ่มเพื่อดำเนินการให้เกิดผลลัพธ์ในอาเซียนคือ การปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมอาเซียนไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 (ASEAN Industrial Transformation to Industry 4.0)โดยจากผลการประเมินความพร้อมของอาเซียนต่อการเข้าสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 (Assessment of ASEAN for the Forth Industrial Revolution or 4IR) ซึ่งจัดทำโดยสำนักเลขาธิการอาเซียน ตามวิสัยทัศน์ของที่ประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 30 เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.60 พบว่าอาเซียนจำเป็นต้องเตรียมพร้อมในการใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ 4IR อย่างเต็มที่ในการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาค และส่งเสริมการเติบโตอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมในการพัฒนาเศรษฐกิจ นอกจากนี้ต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และความมั่นคง โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนทักษะกำลังคนภาคอุตสาหกรรม (Re-Skilled or Up-Skilled) ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี นวัตกรรม และดิจิทัลในยุค 4IR เพื่อยกระดับการเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตของอาเซียน ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อม และรายย่อย (Micro Small and Medium Enterprises: MSMEs) และผู้ประกอบการ Startup ไปสู่ระดับโลก โดย สศอ.ได้กำหนดแผนการดำเนินงานในการปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมอาเซียนไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ประกอบด้วย1.แผนการระยะเร่งด่วนคือ การจัดทำปฏิญญาอาเซียน (ASEAN Declaration) เพื่อประกาศเจตนารมณ์ของประเทศสมาชิกอาเซียนในการปรับเปลี่ยนไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดย สศอ. ได้กำหนดจัดการประชุมนานาชาติ (Symposium) ในวันที่ 20 มิ.ย.62 ที่โรงแรมโซฟิเทล สุขุมวิท กรุงเทพฯ เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ และการระดมความคิดเห็น รวมทั้งข้อเสนอแนะในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งจะนำไปสู่การกำหนดแผนที่นำทาง (Roadmap) เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างความร่วมมือระหว่างอาเซียนในการก้าวไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 รวมทั้งใช้ประโยชน์จากอุตสาหกรรม 4.0 ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนกำหนดแนวทางในการพัฒนากำลังคนรองรับการเติบโตของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (Micro Small and Medium Enterprises: MSMEs)และผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในการเติบโตแบบก้าวกระโดด (Startup) โดย สศอ. จะนำผลที่ได้จากการจัดประชุม Symposium มาปรับปรุงร่างปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมอาเซียนไปสู่อุตสาหกรรรม 4.0 และนำเสนอต่อที่ประชุมผู้นำอาเซียน (ASEAN Summit)ในช่วงปลายปีนี้ 2.ในระยะกลางถึงระยะยาว ไทยจะผลักดันให้มีการดำเนินการตามแผนที่นำทาง (Roadmap) และการจัดทำแผนปฏิบัติการ ASEAN Industrial Transformation to Industry 4.0 (AIT) 2020-2024 รวมทั้งการจัดตั้งกลไกขับเคลื่อนไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ทั้งในระดับคณะทำงาน (Working Group) ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส (Senior Officer) และระดับรัฐมนตรี (Minister) เพื่อบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง ในการขับเคลื่อนการดำเนินการด้านอุตสาหกรรม 4.0 และประเด็นคาบเกี่ยว รวมทั้ง ติดตาม ประเมินผล และปรับปรุงแผนการดำเนินงานให้ตอบสนองการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและทันการณ์ สำหรับในการปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมอาเซียนไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของประเทศสมาชิกอาเซียนในการพัฒนาปัจจัยแวดล้อมที่สำคัญ ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน อาทิ การเชื่อมโยงเครือข่ายการสื่อสาร และการคมนาคม ให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ การปรับปรุงระเบียบ โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในอาเซียน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้กับบริการสาธารณะ (Public services) และการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อเชื่อมโยงการให้บริการ การส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทั้งนี้ต้องเริ่มต้นจากการสร้างการรับรู้ การระบุความท้าทาย ตลอดจนโอกาสที่เกิดขึ้นจาก 4IR โดยส่งเสริมให้เกิดการร่วมลงทุนระหว่างกัน การระบุทักษะที่จำเป็นในการพัฒนาทักษะกำลังคนให้ก้าวทันเทคโนโลยี การพัฒนาระบบการศึกษา โดยใช้ความต้องการของตลาดเป็นตัวนำ การเติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน ด้วยการแบ่งปันประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ ตลอดจนการบูรณาการแผนงานต่างๆระหว่างกัน รวมทั้งเสริมสร้างและพัฒนาความร่วมมือกับประเทศคู่เจรจาของอาเซียน และองค์กรสากล อันจะช่วยเสริมสร้างการเติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน และเสริมสร้างประโยชน์ให้กับภูมิภาคอาเซียนยิ่งขึ้น