นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. กล่าวในรายการลมหายใจ พีซทีวี เวทีทัศน์ ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของการต่อสู้ของพวกเรา ได้เรียนรู้บทเรียนว่า เราประกาศแนวทาง เขาก็นำไปปรับใช้ให้อยู่ยาว เราขับเคลื่อน อีกฝ่ายตั้งท่าปรับกระบวนยุทธ์รับ ตนคิดว่า ณ ขณะนี้ ประวัติศาสตร์ พรรคสหประชาไทย ที่เป็นพรรคนอมินีให้ทหาร คล้ายกับพรรคหนึ่งในปัจจุบัน กำลังกลับมาหลอกหลอน เหมือนจะเกิดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ความไม่สามารถควบคุมรัฐบาลได้เบ็ดเสร็จ ของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเกาะกินรัฐบาลไปเรื่อย ๆ รวมไปถึงปัญหาเรื่องความไม่ชอบธรรมของ วุฒิสภา 250 คน ที่เกินครึ่งของกรรมการสรรหาเลือกตัวเองเป็น สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. ส่วนที่เหลือก็ดำรงตำแหน่งใน คณะรัฐมนตรี หรือ ครม.ชุดใหม่ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีใครร้องถึงความไม่ชอบธรรมอย่างไร แต่ท้ายที่สุด ก็จะมีช่องทางถูไถไปได้ไม่มีความผิดอยู่ดี รวมถึงกรณี ส.ส.ถือหุ้นสื่อ หากใช้มาตรวัดแบบเดียวกันกับที่ใช้กับนาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ผู้ที่ถูกร้องทั้ง 41 คน ก็คงไม่รอดแม้แต่รายเดียว นายจตุพร กล่าวอีกว่า มาตรวัดสำคัญคือ รัฐบาลชุดนี้จะรอดพ้น 4 เดือนแรกไปได้หรือไม่ แค่เดือนแรกนี้ ก็เห็นรอยปริรอกันอยู่แล้ว ทั้งพรรคเล็ก พรรคกลางที่มาร่วมรัฐบาล ต่างไม่พอใจกับตำแหน่ง ผลประโยชน์ที่ได้ ครม.ก็ไม่รู้จะตั้งสำเร็จเมื่อใด ปัญหาเช่นนี้ ก่อนเกิดเหตุการณ์ พฤษภาคม 2535 ยังไม่มากขนาดนี้ “ขอให้ทุกคน เฉย ๆ รอดูกันไปก่อน คนที่จะพังรัฐบาลชุดนี้ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากคนในรัฐบาลชุดนี้เอง ถ้าเราเริ่มขยับ พวกเขาจะจับมือกันมาเล่นงานเราก่อน แต่ถ้าเราอยู่เฉย สังคมนี้จะเปิดเผยให้ รู้เช่นเห็นชาติพวกเขาเอง สนิมมันจะกัดกร่อนจากภายใน โดยที่เราไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย ใจเย็น ๆ ร่ม ๆ เอาไว้ เดี๋ยวฝนตกก็พัดพวกนี้ไหลไปเอง” สำหรับบรรยากาศของกิจกรรมต่อลมหายใจให้กับพีซทีวี เป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนาน ส่วนบริเวณหน้าร้านกาแฟมีประชาชนคนเสื้อแดงนำผลิตภัณฑ์และอาหารมาจำหน่ายในราคาที่เป็นกันเอง