เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 มิ.ย.2562 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สัญชัย สุนทรบุระ ผบช.สทส. /หน.ชป.TICAC เป็นประธานการแถลงข่าวผลการปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติ TICAC ประจำเดือนพฤษภาคม 2562 โดยมี พล.ต..ต.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบช.ภ.1/รอง หน.ชป.TICAC, พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รอง ผบช.ก. /หน.ศส.ชป.ส่วนกลาง ศพดส.แถลงข่าวจับกุมน.ส.ซู ไล(Su Hlaing Hnin) อายุ 45 ปี สัญชาติเมียนมาร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 271/2562,นายสุรวุฒิ สินธนาชีวะ อายุ 61 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 274/2562,นายตัน โทะ อู(Than Htut Oo) อายุ 27 ปี สัญชาติเมียนมาร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 276/2562, นายเมา เมา หรือโก โก มัง(Ko Ko Maung) อายุ 42 ปี สัญชาติเมียนมาร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 277/2562,นายเอกภพ ไชยชนะ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 337/52 ซ.บ้านเก่าจาน ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 275/2562 ,นายสมชาย มีชายกุน อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 278/2562 ,นางลาล่า มีชายกุน อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 0/89 ม.10 ต.เขาล้าน อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 279/2562 ทั้งหมดเป็นเครือข่ายค้ามนุษย์ข้ามชาตินายหน้าโหดบังคับค้าแรงงานสัญชาติเมียนมาร์ ที่สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบโดยการบังคับใช้แรงงานหรือบริการหรือการอื่นใดที่คล้ายคลึงกันอันเป็นการขูดรีดบุคคล ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ตกลงกันไว้ โดยร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปเพื่อให้ผู้เสียหายที่ถูกพาเข้ามาในราชอาณาจักรตกอยู่ในอำนาจของผู้อื่นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย,มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ,ร่วมกันให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นการจับกุม,ร่วมกันให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นการจับกุม พล.ต.ท.สัญชัย กล่าวว่า ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ มุ่งเน้นสืบสวนปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ที่มีพฤติการณ์เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำผิดที่เป็นภัยต่อความมั่นคงและทางเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศ จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบก.ปคม. ดำเนินการสืบสวนปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างเคร่งครัด สำหรับพฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อระหว่างเดือน ส.ค. 2560 - ก.ย.2560 เหยื่อซึ่งเป็นแรงงานสัญชาติเมียนมา ถูกกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ มีเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการเป็นนายหน้าอยู่ในประเทศเมียนมาร์และไทย ร่วมกันหลอกลวงเหยื่อซึ่งอยู่ในประเทศเมียนมาร์มาทำงานที่ประเทศไทย โดยเหยื่อที่หลงเชื่อจะถูกพาเดินทางเข้าประเทศไทยทั้งช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สอดและพรมแดนธรรมชาติ จากนั้นเหยื่อทั้งหมดจะถูกนำพามากักขังอยู่ที่บริษัทซีบีเอส ย่านแจ้งวัฒนะ เพื่อรอส่งต่อไปให้นายหน้าในขบวนการเป็นทอดๆ นำไปบังคับค้าแรงงานตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งไม่ได้ไปทำงานตามที่เหยื่อถูกหลอกลวง อีกทั้งยังถูกบังคับ ขู่เข็ญ และกักขังไม่ให้ออกนอกสถานที่พัก ต่อมาเมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคม.ร่วมกันเจ้าหน้าที่สถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทย เข้าช่วยเหลือกลุ่มผู้เสียหายได้จากบ้านพักคนงานย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และได้นำผู้เสียหายทั้งหมดมาร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดที่ กก.2 บก.ปคม. ซึ่งศาลอาญาได้ออกหมายจับผู้ต้องหาในขบวนการไว้ 9 คน ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ก.พ.62 เจ้าหน้าที่บก.ปคม. ร่วมกับ ศปอส.ตร., สตม. ได้เข้าตรวจค้นที่บริษัทซีบีเอส เวิลด์ จำกัด ซ.แจ้งวัฒนะ 6 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ จับกุม น.ส.ซู ไล(Su Hlaing Hnin),นายสุรวุฒิ สินธนาชีวะ ,นายตัน โทะ อู(Than Htut Oo) พร้อมของกลางพาสปอร์ตต่างประเทศกว่า 500 เล่ม และตรายางประทับหน่วยงานราชการหลายหน่วยเป็นจำนวนมาก จึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม,สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบโดยการบังคับใช้แรงงานหรือบริการหรือการอื่นใดที่คล้ายคลึงกันอันเป็นการขูดรีดบุคคล ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ตกลงกันไว้ โดยร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปเพื่อให้ผู้เสียหายที่ถูกพาเข้ามาในราชอาณาจักรตกอยู่ในอำนาจของผู้อื่นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย,มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ,ร่วมกันให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นการจับกุม จากนั้นเจ้าหน้าที่กก.2 บก.ปคม.จึงวางแผนจับกุมผู้ต้องหารายอื่นที่ยังหลบหนี โดยจับกุมนายเมา ซึ่งหลบหนีไปอยู่ย่านภาษีเจริญ กทม. นายเอกภพฯ ซึ่งหลบหนีไปอยู่ย่านทุ่งสองห้อง กทม.และจับกุมนายสมชาย และนางลาล่า ซึ่งหลบหนีไปอยู่ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาและเป็นผู้ร่วมขบวนการในเครือข่ายค้ามนุษย์นี้ ทั้งนี้ บก.ปคม.อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายซึ่งหลบหนีอยู่ในประเทศเมียนมาร์ จังหวัดเอยาวดี และ จังหวัดพระโค ประเทศเมียนมา และ อ.แม่สอด จ.ตาก, มาดำเนินคดี