เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.62 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ภานุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.1 บก.ป. และพ.ต.ต.เอกรณการ นาคนิยม สว.กก.1 บก.ป. พร้อมกำลังข้าราชการตำรวจ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ได้ร่วมกันจับกุมน.ส.นฤมล ลำเปิงมี อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 283/2562 ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2562 ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นคนอื่น และนายสามารถ อยู่ซบ อายุ 48 ปี ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 282/2562 ลงวันที่ 16 พฤษภาคม 2562 ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นคนอื่น ได้ที่บริเวณหน้าอาคาร พาราไดซ์ แมนชั่น แขวงและเขตมีนบุรี กทม.
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก กลุ่มคนร้ายหลอกยืมเงินจากผู้เสียหายผ่านทางไลน์และเฟสบุ๊ค โดยคนร้ายเข้าถึงบัญชีผู้ใช้เฟสบุ๊คและไลน์ของคนอื่นซึ่งเป็นคนที่ผู้เสียหายรู้จัก จนทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ และโอนเงินให้กับคนร้ายไป โดยคนร้ายจะให้โอนเงินไปยังบัญชีที่คนร้ายแจ้ง ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อกว่าร้อยราย และมีความเสียหายรวมมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท โดยพบว่าผู้กระทำความผิดในการหลอกลวงผู้เสียหายคือ นางสาวนฤมล ลำเปิงมี เป็นตัวการทำหน้าที่ในการหาเหยื่อที่จะเข้าถึงบัญชีเฟสบุ๊คและไลน์ หลอกลวงผู้เสียหาย และจัดหาบัญชีในการรับโอนเงิน โดยมีนายสามารถ อยู่ซบ เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ในการกดเงินมามอบให้ผู้เสียหาย จนกระทั่งนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา
สอบสวนน.ส.นฤมลฯ รับว่าเป็นผู้หลอกลวงผู้เสียหายจริง โดยจะหาข้อมูลของเหยื่อที่ใช้ในการหลอกลวงจากระบบอินเตอร์เน็ต และเข้าใช้งานเฟสบุ๊ค หรือไลน์ของเหยื่อ เมื่อเข้าใช้งานได้แล้วก็จะขอยืมเงินจากคนรู้จักของเหยื่อ หลังจากผู้เสียหายหลงเชื่อ ผู้ต้องหาก็จะส่งหมายเลขบัญชีให้กับผู้เสียหาย เพื่อโอนเงินให้จากนั้นผู้ต้องหาก็จะโอนเงินต่อไปอีก 1-2 ทอด แล้วจึงทะยอยกดเงินสดออกจากบัญชี โดยบัญชีที่นำมารับโอนเงิน น.ส.นฤมลฯ นำมาจากบัญชีที่ตนเองรับซื้อบัญชีธนาคารผ่านทางเฟสบุ๊ค ในราคาบัญชีละ 1 พัน ถึง 4 พันบาท ซึ่งในการถอนเงินสดออกจากบัญชีน.ส.นฤมล จะให้ นายสามารถ เป็นผู้ถอนเงินจากบัญชีต่างๆ และนำเงินมาให้ตน โดยนายสามารถ รับว่า มีหน้าที่ในการกดเงินออกจากบัญชีตามมที่น.ส.นฤมล แจ้ง โดยจะได้รับเงินค่าจ้างครั้ง 1-2 พันบาท โดยมีหน้าที่ในการกดเงินเพียงอย่างเดียว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บุคคโล ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก กลุ่มคนร้ายหลอกยืมเงินจากผู้เสียหายผ่านทางไลน์และเฟสบุ๊ค โดยคนร้ายเข้าถึงบัญชีผู้ใช้เฟสบุ๊คและไลน์ของคนอื่นซึ่งเป็นคนที่ผู้เสียหายรู้จัก จนทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ และโอนเงินให้กับคนร้ายไป โดยคนร้ายจะให้โอนเงินไปยังบัญชีที่คนร้ายแจ้ง ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อกว่าร้อยราย และมีความเสียหายรวมมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท โดยพบว่าผู้กระทำความผิดในการหลอกลวงผู้เสียหายคือ นางสาวนฤมล ลำเปิงมี เป็นตัวการทำหน้าที่ในการหาเหยื่อที่จะเข้าถึงบัญชีเฟสบุ๊คและไลน์ หลอกลวงผู้เสียหาย และจัดหาบัญชีในการรับโอนเงิน โดยมีนายสามารถ อยู่ซบ เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ในการกดเงินมามอบให้ผู้เสียหาย จนกระทั่งนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา
สอบสวนน.ส.นฤมลฯ รับว่าเป็นผู้หลอกลวงผู้เสียหายจริง โดยจะหาข้อมูลของเหยื่อที่ใช้ในการหลอกลวงจากระบบอินเตอร์เน็ต และเข้าใช้งานเฟสบุ๊ค หรือไลน์ของเหยื่อ เมื่อเข้าใช้งานได้แล้วก็จะขอยืมเงินจากคนรู้จักของเหยื่อ หลังจากผู้เสียหายหลงเชื่อ ผู้ต้องหาก็จะส่งหมายเลขบัญชีให้กับผู้เสียหาย เพื่อโอนเงินให้จากนั้นผู้ต้องหาก็จะโอนเงินต่อไปอีก 1-2 ทอด แล้วจึงทะยอยกดเงินสดออกจากบัญชี โดยบัญชีที่นำมารับโอนเงิน น.ส.นฤมลฯ นำมาจากบัญชีที่ตนเองรับซื้อบัญชีธนาคารผ่านทางเฟสบุ๊ค ในราคาบัญชีละ 1 พัน ถึง 4 พันบาท ซึ่งในการถอนเงินสดออกจากบัญชีน.ส.นฤมล จะให้ นายสามารถ เป็นผู้ถอนเงินจากบัญชีต่างๆ และนำเงินมาให้ตน โดยนายสามารถ รับว่า มีหน้าที่ในการกดเงินออกจากบัญชีตามมที่น.ส.นฤมล แจ้ง โดยจะได้รับเงินค่าจ้างครั้ง 1-2 พันบาท โดยมีหน้าที่ในการกดเงินเพียงอย่างเดียว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บุคคโล ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป