เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.62 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ป. สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์ รองผกก.5 บก.ป. ปฏิบัติการโดย พ.ต.ต.นิธิ ตรีสุวรรณ สว.กก.5 บก.ป. และ ร.ต.อ.ยุทธนา เสือวิเชียร รอง สว.กก.5 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายทองคำ สุดโท อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2338/6 หมู่ 12 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ตามหมายจับของศาลจำนวน 2 หมายจับๆของศาลจังหวัดชุมพรที่ จ.44/2546 ลงวันที่ 21 มกราคม 46 ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” (หลบหนีคดีมากว่า 17 ปี) 2.หมายจับของศาลจังหวัดชัยภูมิที่ 243/2556 ลงวันที่ 26 ธันวาคม 2556 ซึ่งต้องหาว่า “พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ มีอาวุธปืน และมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย”
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก นายทองคำ สุดโท จับได้ว่า นายบัวผัน พาใส (ผู้ตาย) ได้คบชู้กับนางสุวรรณ สุดโท ซึ่งเป็นภรรยาของนายทองคำฯ ต่อมาเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2545 นายทองคำฯ จึงได้วางแผนฆ่านายบัวผันฯ โดยใช้อาวุธปืนยาวแบบประจุปาก (ปืนแก๊บ) บรรจุกระสุนลูกปราย ยิงนายบัวผันฯ และนางสุวรรณฯ เป็นเหตุให้นายบัวผันฯ เสียชีวิต ส่วนนางสุวรรณฯ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บ้านพักของนายบัวผันฯ หมู่ 12 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จากนั้นนายทองคำฯ ได้หลบหนีไป พนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับผู้ต้องหาต่อศาล
ต่อมาเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่า นายทองคำฯ ได้หลบหนีคดีดังกล่าว ไปอยู่ที่กระท่อมกลางหุบเขา บ้านคำผักแพว หมู่ 7 ต.ทับสีทอง อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนเข้าทำการจับกุม แต่นายทองคำฯ ได้ขว้างระเบิดมือใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ระเบิดดังกล่าวด้านไม่ระเบิด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด ส่วนนายทองคำฯ หลบหนีไปได้ ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นกระท่อมพบว่ามีอาวุธปืนซุกซ่อนอยู่ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับผู้ต้องหาต่อศาล
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่า นายทองคำ สุดโท ผู้ต้องหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” และข้อหา “พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ มีอาวุธปืน และมีวัตถุระเบิดที่ นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ภายในสวนป่า หมู่ 9 ตำบลโคกปี่ฆ้อง อ.เมือง จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามจับกุมตัวขณะที่นายทองคำฯ กำลังนั่งอยู่หน้าเพิกพังบริเวณจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงหมายจับให้นายทองคำฯดู รับว่าตนเองเป็นบุคคลตามหมายจับและไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดีมาก่อน จึงจับกุมตัวและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการซักถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก นายทองคำ สุดโท จับได้ว่า นายบัวผัน พาใส (ผู้ตาย) ได้คบชู้กับนางสุวรรณ สุดโท ซึ่งเป็นภรรยาของนายทองคำฯ ต่อมาเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2545 นายทองคำฯ จึงได้วางแผนฆ่านายบัวผันฯ โดยใช้อาวุธปืนยาวแบบประจุปาก (ปืนแก๊บ) บรรจุกระสุนลูกปราย ยิงนายบัวผันฯ และนางสุวรรณฯ เป็นเหตุให้นายบัวผันฯ เสียชีวิต ส่วนนางสุวรรณฯ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บ้านพักของนายบัวผันฯ หมู่ 12 ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จากนั้นนายทองคำฯ ได้หลบหนีไป พนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับผู้ต้องหาต่อศาล
ต่อมาเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่า นายทองคำฯ ได้หลบหนีคดีดังกล่าว ไปอยู่ที่กระท่อมกลางหุบเขา บ้านคำผักแพว หมู่ 7 ต.ทับสีทอง อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนเข้าทำการจับกุม แต่นายทองคำฯ ได้ขว้างระเบิดมือใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ระเบิดดังกล่าวด้านไม่ระเบิด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด ส่วนนายทองคำฯ หลบหนีไปได้ ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นกระท่อมพบว่ามีอาวุธปืนซุกซ่อนอยู่ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับผู้ต้องหาต่อศาล
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่า นายทองคำ สุดโท ผู้ต้องหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” และข้อหา “พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ มีอาวุธปืน และมีวัตถุระเบิดที่ นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ภายในสวนป่า หมู่ 9 ตำบลโคกปี่ฆ้อง อ.เมือง จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามจับกุมตัวขณะที่นายทองคำฯ กำลังนั่งอยู่หน้าเพิกพังบริเวณจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงหมายจับให้นายทองคำฯดู รับว่าตนเองเป็นบุคคลตามหมายจับและไม่เคยถูกจับกุมดำเนินคดีมาก่อน จึงจับกุมตัวและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าแซะ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการซักถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา