พระครูประโชติธรรมวิจิตร หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว พระนครศรีอยุธยา

สัปดาห์พระเครื่อง / ราม วัชรประดิษฐ์ พระครูประโชติธรรมวิจิตร หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว พระเกจิชื่อดังของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีชื่อเสียงโด่งดัง ทั้งงานพัฒนา งานส่งเสริมพระศาสนา รวมถึงการสร้างและปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ ของท่าน ไม่ว่าจะเป็นเหรียญ พระพิมพ์ พระเครื่อง และตะกรุด ก็ล้วนเป็นที่นิยมสะสมและแสวงหามาบูชาเป็นสิริมงคลกับชีวิต ทั้งนามท่าน "หลวงพ่อเพิ่ม" ยังเป็นมงคลนาม จึงเชื่อกันว่า ใครได้ทำบุญและมีวัตถุมงคล "หลวงพ่อเพิ่ม" ไว้ครอบครองบูชา ชีวิตมีแต่ "เพิ่ม" ขึ้นในทางที่ดีเสมอไป พระครูประโชติธรรมวิจิตร หรือ หลวงพ่อเพิ่ม อตฺตทีโป ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์เดือนมีนาคม พ.ศ.2469 ตรงกับปีขาล เดือน 4 เป็นบุตรคนที่ 3 ของพ่อเล็ก แม่แพร บำรุงสุข ณ บ้านกลึง อำเภอบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ชีวิตวัยเยาว์ หลวงพ่อเพิ่มได้ไปศึกษาอยู่ที่แถบวัดยี่โถ โดยได้เริ่มการศึกษาเบื้องต้นที่วัดช่างเหล็กกับพี่ชาย จนกระทั่งจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จึงได้บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ที่วัดบางยี่โถเพื่อศึกษาอักขระขอมและบทสวดมนต์ต่างๆ จนกระทั่ง 2 ปีต่อมาเมื่อบิดาล้มป่วยลงท่านจึงได้สึกออกมาเพื่อช่วยทางบ้านประกอบอาชีพ และเมื่ออายุครบเกณฑ์ทหารท่านได้เป็นทหารรับใช้ชาติ อยู่ 2 ปีครั้นพอออกจากทหารมารดาของท่านก็ได้เสียชีวิตลงอีก ท่านจึงตัดสินใจอุปสมบท เมื่อ พ.ศ.2493 ณ.วัดสีกุก อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีพระครูประโชติวุฒิกร(หลวงพ่อโชติ) วัดป้อมแก้วเป็นพระอุปัชฌาย์ พระถาวรธรรมคุณเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูไพโรจน์ วัดเสาธง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ได้รับฉายาว่า "อตฺตทีโป" แปลว่า "ผู้มีประทีปแห่งตน" จากนั้นหลวงพ่อเพิ่มได้จำพรรษาอยู่ที่วัดสีกุกเพื่อเล่าเรียนวิชาเป็นเวลา 2 ปีก่อนที่จะย้ายมาอยู่วัดป้อมแก้วตามคำแนะนำของหลวงพ่อโชติและที่นี่เองท่านได้สำเร็จการศึกษาในขั้น นักธรรมเอกอีกด้วย หลวงพ่อเพิ่มท่านได้หันมาสนใจศึกษาวิชาอาคมอย่างจริงจัง เมื่อครั้งย้ายมาจำพรรษาที่วัดป้อมแก้ว โดยได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อโชติ อดีตเจ้าอาวาสในขณะนั้น ผู้ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงพ่อห่วง วัดบางยี่โถ ในสายพุทธาคมของหลวงปู่ปั้น วัดพิกุล สุดยอดพระเกจิในอดีตโดยในขั้นแรกนั้นท่านได้เริ่มจากการเขียนอักขระเลขยันต์ต่างๆ โดยที่หลวงพ่อเพิ่มท่านได้รับความไว้วางใจจากหลวงพ่อโชติให้เป็นผู้เขียนอักขระยันต์แทนหลวงพ่อโชติที่มีอายุมากและสาย ตาไม่ดี ต่อมาก็ได้รับการมอบหมายให้ทั้งจารและปลุกเสกด้วยจนกระทั่งหลวงพ่อโชติได้มรณภาพลงหลวงพ่อเพิ่มจึงได้รับ ตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบมาโดยหลวงพ่อเพิ่มท่านได้ใช้วิชาที่ร่ำเรียนมาพัฒนาวัดป้อมแก้วให้ดีขึ้นดังที่เห็นในปัจจุบัน หลวงพ่อเพิ่ม นับเป็นพระสุปฏิปันโนที่น่าเคารพกราบไหว้เป็นอย่างยิ่ง ด้วยปฏิปทาอันเรียบง่าย สมถะ สันโดษ เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของผู้พบเห็นอยู่เสมอ จนมีผู้ปฏิบัติธรรมท่านหนึ่ง ซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้ต่างๆ ในการนั่งสมาธิฝักอบรมวิปัสสนากรรมฐาน มาจากพระเกจิอาจารย์ยุคก่อน อาทิ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ครูบาชุ่ม โพธิโก ครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า ฯลฯ ปัจจุบันหลวงพ่อเพิ่ม มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงดีอยู่เสมอ และมักจะได้รับกิจนิมนต์นั่งปรกอธิษฐานจิตวัตถุมงคลต่างๆ ตามพิธีพุทธาภิเษก ทั้งที่วัดใน จ.พระนครศรีอยุธยา และใกล้เคียง พระนามท่านเป็นสิริมงคลยิ่งนัก รวมถึงวัตถุมงคลของวัดป้อมแก้ว ที่ท่านได้จัดสร้างขึ้นเอง ซึ่งมีออกมาเป็นระยะๆ และมีผู้ทำบุญบูชาหมดไปในเวลาอันรวดเร็ว แม้ว่าจะไม่ได้มีการโฆษณาตามสื่อต่างๆ ก็ตาม พระครูประโชติธรรมวิจิตร (หลวงพ่อเพิ่ม) ท่านสร้างวัตถุมงคลไว้หลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นเหรียญรุ่นแรกฉลองอายุครบ 5 รอบ ปี 2517 พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่รุ่นแรก ปี 2520 รูปหล่อลอยองค์ ฯลฯ นอกจากวัตถุมงคลหลายรูปแบบแล้วสิ่งหนึ่งที่บรรดาลูกศิษย์ของหลวงพ่อเพิ่มเสาะแสวงหาก็คือตะกรุดนั่นเอง โดยหลวงพ่อเพิ่มท่านจะทำตะกรุดขึ้นปีละครั้งโดยท่าน ทำเฉพาะช่วงเข้าพรรษา จารเอง เสกเอง ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้นดังนั้นตะกรุดที่ท่านทำจึงมีจำนวนน้อยมากสร้างขึ้นปีละไม่ถึง 100 ดอก สำหรับพุทธคุณของตะกรุดท่านนั้นดีเด่นด้านคงกระพันชาตรี วิธีใช้ก็คือให้ห้อยคอห้ามห้อยเอวเด็ดขาดและมีข้อห้ามคือห้ามดื่มสุราและผิดลูก ผิดเมียชาวบ้านเด็ดขาดมิฉะนั้นตะกรุดจะเสื่อมทันที วัตถุมงคลของหลวงพ่อเพิ่มทุกรุ่นที่ท่านได้ปลุกเสกเอาไว้ ล้วนมีอานุภาพความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์มาโดยตลอด จนปรากฏเกียรติคุณอันโด่งดังถึงทุกวันนี้ จึงล้วนเป็นที่นิยมและแสวงหาอย่างสูง เพื่อนำมากราบไหว้ขอพรให้เกิดความสิริมงคลแก่ชีวิตครับผม