EPCOสุดเจ๋ง จ่ายไฟเชิงพาณิชย์โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ฟูเยี้ยน ที่เวียดนาม ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 110.03 MW เมื่อวันที่ 10 และ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา ระบุ หลัง COD สามารถขายไฟได้เร็วกว่ากำหนด ส่งผลให้กำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทะลุ 533 MW เร็วขึ้น รับผลตอบแทนจากการลงทุนทันที ขณะที่ธุรกิจโรงพิมพ์เดินหน้าต่อเนื่อง พร้อมรุกขยายไปสู่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูกได้ตามแผน มั่นใจว่ารายได้รวมปีนี้เติบโต 50% ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง   นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 และ 11 มิถุนายน บริษัทได้ดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์(COD) ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ประเภท Solar Farm ที่จังหวัดฟูเยี้ยน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเรียบร้อยแล้ว โดยมีขนาดกำลังการผลิตติดตั้งอยู่ที่ระดับ 110.03 เมกะวัตต์ และถือว่าเป็นการCOD ได้ก่อนกำหนด ดังนั้น ทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัทฯเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 533 เมกะวัตต์ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้เป็นที่เรียบร้อย “เราค่อนข้างมั่นใจว่าการที่บริษัทฯสามารถจ่ายไฟฟ้าในโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟูเยี้ยนที่เวียดนามได้ก่อนกำหนด จะทำให้สร้างรายได้เพิ่มขึ้นได้เร็วกว่าคาด โดยโครงการดังกล่าว มีระยะเวลาขายไฟฟ้าให้กับ Electricity of Vietnam (“EVN”) เป็นเวลา 20 ปีในอัตรารับซื้อไฟฟ้า (Feed in Tariffหรือ FIT) ที่ 0.0935 ดอลลาร์ต่อหน่วย และสามารถสร้างอัตราผลตอบแทน (IRR)ระดับ 16%” นายยุทธกล่าว ประธานกรรมการ กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการคูริฮาร่า 2 ดำเนินการโดย Kurihara GK ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ EPCO ถือหุ้น 98% เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 17.25 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่เขตพื้นที่คูริฮาร่า จังหวัดมิยากิ ประเทศญี่ปุ่น โดยได้รับหนังสือแจ้งผลการพิจารณารับซื้อไฟฟ้าจาก Tokoku โดยมีระยะเวลาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปีในระบบFit ซึ่งราคาขายไฟฟ้าอยู่ที่ 36 เยนต่อกิโลวัตต์ชั่วโมงคงที่ตลอดอายุสัญญา และคาดว่าจะCOD ภายในเดือนตุลาคม 2562 อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายได้จากธุรกิจโรงพิมพ์ และบรรจุภัณฑ์มีทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากได้เข้าไปลงทุนซื้อหุ้นของ บริษัทดับบลิวพีเอส (WPS) ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงพิมพ์ สามารถสร้างรายได้ในระดับที่ดี ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเพิ่มศักยภาพของธุรกิจการพิมพ์ โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตกล่องลูกฟูกได้ตั้งแต่ ไตรมาส 3/2562 เป็นต้นไป และจะช่วยให้บริษัทมีรายได้ธุรกิจโรงพิมพ์เพิ่มขึ้นเท่าตัว ทั้งนี้เมื่อการดำเนินธุรกิจมีแนวโน้มที่ดีอย่างชัดเจน ทำให้บริษัทฯมั่นใจว่าภาพรวมการเติบโตปีนี้ ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดว่ารายได้รวมทั้งปีจะเติบโตแตะระดับ 50%ทุบสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง เนื่องจากธุรกิจสิ่งพิมพ์และธุรกิจโรงไฟฟ้าสามารถทำได้ตามแผนที่วางไว้