วันนี้ (12 มิ.ย.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยได้เป็นเจ้าภาพนัดหารือพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่โรงแรมแลงคาสเตอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ประกอบด้วย พรรคอนาคตใหม่ พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อชาติ พรรคเศรษฐกิจใหม่ และพรรคพลังปวงชนไทย นายภูมิธรรม กล่าวในที่ประชุมว่า วันนี้เป็นการหารือถึงการทำงานที่ผ่านมาตั้งแต่การเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตั้งแต่วันนั้นเราไม่ได้มีการคุยกัน วันนี้เราจึงจะหารือกันถึงการทำงานในสภา การจัดระบบวิป และทิศทางการทำงานในสภาหลังจากนี้ ยืนยันว่า 7 พรรคยังยืนข้างประชาธิปไตย เรายังมีพันธสัญญาที่จะต้องร่วมมือกันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นปัญหา และยืนยันว่าไม่อยากเห็นการสืบทอดอำนาจซึ่งฝ่ายประชาธิปไตยจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด นอกจากนี้ เราอยากเห็นการตั้งรัฐบาลโดยเร็วเพื่อแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชน การทำงานของ 7 พรรคการเมืองนั้น ไม่ใช่การชวนใครลงถนน แต่เป็นการประสานไปยังประชาชน เพื่อให้เข้าใจถึงเป้าหมาย และวิธีการทำงานของทั้ง 7 พรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่เวลานี้คือผู้ที่เสียหายมากที่สุด เพราะคะแนนดิบที่นำมาคำนวณส.ส.พึงมีตามรัฐธรรมนูญเราต้องได้ส.ส.ถึง 89 คน แต่สุดท้ายโดนตัดเหลือเพียง 81 คน ซึ่งเราได้ดำเนินการยื่นคำร้องไปยัง 2 ช่องทาง คือ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งมีระยะเวลาในการดำเนินการ 3 เดือน และคณะกรรมการการเลือกตั้ง( กกต.) ซึ่งตั้งแต่ยื่นไปเรื่องก็ยังเงียบ นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทราบว่าทางพรรคอนาคตใหม่ได้ไปร้องใน 2 ช่องทางแล้ว ซึ่งตนไม่แน่ใจว่า 2 หน่วยงานนี้จะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะจะเป็นการส่งความเห็นที่โต้แย้งกับความเห็นของเขาเอง ในส่วนของพรรคเพื่อไทยได้หารือ และคิดหนักว่าจะทำอย่างไรให้ศาล หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องวินิจฉัยในเรืองนี้อย่างไร ซึ่งเราได้มีการประชุมฝ่ายกฎหมายหารือกันว่า ขณะนี้มีการรับรองส.ส.ไปแล้ว ซึ่งมีบทบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อถึงประธานสภา ตามมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญ ว่าคุณสมบัติของบุคคล หรือสมาชิกคนหนึ่งคนใดไม่มีคุณสมบัติเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ ซึ่งสูตรคิดของเรา และกกต.ต่างกัน จึงคิดว่า พรรคเล็กที่กกต.ประกาศผลออกอมานั้นไม่มีคุณสมบัติจะเป็นส.ส.ได้ "ดังนั้น อยากให้ทางอนาคตใหม่ไม่ต้องไปพึ่งองค์กรอิสระ หรือหน่วยงานอื่นๆเพราะเรามีส.ส.อยู่ในมือ สามารถเข้าชื่อ และยื่นต่อประธานสภาได้ ซึ่งประธานสภาจะต้องส่งเรื่องไปตามบทบัญญัติของกฎหมาย เพื่อพิจารณาว่า การที่กกต.ประกาศ 10 กว่าพรรคเล็กไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นส.ส.ตั้งแต่แรก เราน่าจะลองในช่องทางนี้"นายชูศักดิ์ ระบุ