สำหรับ สวนสามพราน จังหวัดนครปฐม เป็นหนึ่งในองค์กรทางด้านการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงระบบอาหารสมดุลยั่งยืน จากการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ ภายใต้สามพรานโมเดล ที่มีการเชื่อมโยงเครือข่ายกับเกษตรกรอินทรีย์กว่า 300 ราย ในพื้นที่จังหวัดนครปฐมรวมถึงใกล้เคียง และทำให้พื้นที่กว่า 90 ไร่ ของสวนสามพราน กลายเป็นแหล่งเรียนรู้วิถีอินทรีย์ที่สำคัญของประเทศ ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ เชฟหนุ่มชาวอังกฤษ เจมี่ โรว์แลนด์ เจ้าของรางวัลเชฟหนุ่มแห่งปี จากเวทีประกวด Young Chef of the Year : Thai Cuisine 2019 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผู้ชื่นชอบและหลงใหลรสชาติอาหารไทย ตัดสินใจแวะมาเยือนสวนสามพราน เพื่อ เรียนรู้เส้นทางอาหารอินทรีย์ ศึกษาที่มาของวัตถุดิบสดจากสถานที่จริง “ปกติจะเห็นเพียงผลผลิตอย่างเดียว ไม่ได้สดแบบนี้ และไม่รู้ว่ามาจากส่วนไหนของประเทศ แต่การมาครั้งนี้ได้มาเห็นของจริงเก็บสดจากต้น ขุดสดจากดิน และได้เห็นเส้นทางของวัตถุดิบ ตั้งแต่ต้นนำจนถึงปลายน้ำ” เสียงสะท้อนของ เชฟหนุ่มเมืองผู้ดี ในการลงพื้นที่สัมผัสวิถีอินทรีย์ในครั้งนี้ โดยมี คุณอังคณา จีนานนท์ และคุณธัญญาลักษณ์ กิจบำรุง ทีมเจ้าหน้าที่สวนสามพราน เป็นไกด์คอยแปล คอยให้ความรู้ แนะนำให้สัมผัสกับธรรมชาติ จริงๆ ทั้ง เด็ดชิม เด็ดดม พร้อมพาสำรวจพื้นที่ และร่วมสนุกกับกิจกรรมเวิร์คช็อป ตามโซนต่างๆ ตลอดทั้งวัน ทดลองทำสมุนไพรลูกประคบ ซึ่งที่ สวนสามพรานแห่งนี้ ทางเชฟ เจมี่ ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ มากมาย ได้เจอ ได้พูดคุยกับเกษตรกรผู้ปลูก ได้เห็นเส้นทางอาหาร ตั้งแต่กระบวนการปลูก การแปรรูป จนเป็นผลิตภัณฑ์พร้อมส่งมอบให้ผู้บริโภค ได้ลงมือทำจริงด้วยตัวเอง อย่างเช่น การเก็บวัตถุดิบอินทรีย์สดๆ จากแปลง ที่ปฐมออร์แกนิกฟาร์ม มาสร้างสรรค์เมนูไทยออร์แกนิก บนเตาถ่านอั้งโล่ เสน่ห์ครัวไทยโบราณ นอกจากนี้ ได้เรียนรู้การแปรรูปสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่หมู่บ้านปฐม ซึ่งจำลองไว้ในรูปแบบเส้นทางอาหารสำคัญของประเทศ ได้แก่ ข้าว สมุนไพร และกล้วย ซึ่งจุดนี้เชฟ เจมี่ ได้ทดลองทำด้วยตัวเองเช่นกัน อาทิ ทำสครับ ทำสมุนไพรลูกประคบ ทำขนมครก เป็นต้น และยังได้เยี่ยมชม ตลาดสุขใจ แหล่งจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ ได้ลองลิ้มชิมรสชาติผลไม้ อาหารไทยๆ รวมถึงขนมไทยชนิดต่าง ๆ ที่ใช้วัตถุดิบอินทรีย์เป็นส่วนผสมในการปรุง อีกด้วย ลิ้มลองรสชาติิอาหารไทย ทั้งนี้ เชฟเจมี่ กล่าวว่า เป็นประสบการณ์ที่ดีเยี่ยม หลายอย่างได้เห็นเป็นครั้งแรก ช่างเป็นความรู้สึกที่แตกต่างอย่างชัดเจน โดยเฉพาะความสด ความหอม ของพืชสมุนไพรไทย ที่แม้จะเคยใช้แต่ก็ไม่สดใหม่ กลิ่น และสี ก็ไม่เหมือนอย่างที่ได้มาเก็บเองในสวน เช่น ข่าที่ขุดจากดินสดๆ ซึ่งทั้งกลิ่นและสี ดีกว่าข่าที่ถูกส่งไปถึงอังกฤษ เพราะเมื่อข่าไปถึงก็เป็นสีน้ำตาลแล้ว อีกหนึ่งความประทับใจ ที่สร้างความฟินระดับสิบให้เชฟหนุ่ม คือ การนั่งล้อมวงกินข้าวร่วมกันบนเสื่อกลางโรงนา เมนูง่ายๆ อาทิ ส้มตำ ไข่เจียวผัก ผัดผัก ที่ปรุงเองด้วยวัตถุดิบอินทรีย์เก็บสดจากฟาร์ม บรรยากาศบ้านๆ ที่หาไม่ได้ในประเทศอังกฤษ เพราะฉะนั้นหนึ่งวันในพื้นที่สวนสามพราน ไม่เฉพาะสร้างความประทับใจให้จดจำ แต่ทุกจุดสัมผัสสร้างแรงบันดาลใจให้กับเชฟหนุ่มชาวอังกฤษผู้นี้มากมาย โดยเฉพาะการได้พูดคุยกับเกษตรกรทำให้ได้เรียนรู้และเข้าใจถึงวิธีการดูแลพืชผักที่แตกต่างกันตามวิธีการทำเกษตรอินทรีย์มากขึ้น รวมถึงชื่นชมสามพรานโมเดล ที่ทำให้เกิดการรวมพลังของเกษตรกรได้เป็นอย่างดี