“วัชระ” โต้ “นคร” กล่าวหาองค์กรอิสระเป็นคู่ขัดแย้ง ชี้ เขียน กม.ตามอำเภอใจ ระวังซ้ำรอย กม.สุดซอย วันที่ 24 ม.ค. 60 นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึง พล.อ. นคร สุขประเสริฐ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (ส.ป.ท.)และเป็นอนุกรรมการพิจารณาศึกษาจัดทำร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่กล่าวว่ารัฐบาลอยู่ระหว่างการสร้างความปรองดองในสังคมที่นำโดยคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ. ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าองค์กรอิสระจึงจำเป็นต้องได้รับการปฏิรูปโดยเริ่มจากตัวกรรมการองค์กรเพื่อลบข้อครหาว่าเป็นคนของใครจากฝ่ายไหน นายวัชระ กล่าวต่อ ว่าเป็นเรื่องน่าสงสัยว่าเหตุใด สปท.จึงตั้งโจทย์ว่าองค์กรอิสระถือเป็นคู่ขัดแย้งทางการเมืองทั้งๆที่เป็นอิสระและเป็นกลางมาโดยตลอดแล้วมาอ้างป.ย.ป.เพื่อเปลี่ยนตัวกรรมการองค์กรอิสระต่างๆ ย่อมไม่มีเหตุผลแต่ประการใด องค์กรอิสระที่มีแต่เดิมก่อนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจนั้น ไม่เห็นว่าเป็นคนของใครหรือมาจากฝ่ายไหนอย่างที่พล.อ.นครเอามาอ้าง เพิ่งจะเห็นว่าเป็นคนของใครในสมัยที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)แต่งตั้งนี่เอง นายวัชระ กล่าวต่อ ว่าการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ,กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.),ผู้ตรวจการแผ่นดิน,กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.),ป.ป.ช.ได้รับการยอมรับมาโดยตลอด เพิ่งจะเกิดคำถามอย่างที่พล.อ.นครพูดในยุคที่ คสช. เข้ามา จึงเป็นเรื่องที่แปลกอย่างยิ่งที่ท่านออกมากล่าวหาองค์กรเกล่านี้ทั้งหมดว่าเป็นคู่ขัดแย้งทางการเมือง ทั้งๆที่เป็นองค์กรอิสระตัดสินปัญหาสำคัญของชาติด้วยความเที่ยงธรรมและศาลรัฐธรรมนูญก็เป็นองค์กรตุลาการไม่ใช่ใครมาสั่งก็ได้ “หากพลเอกนครกล่าวหาองค์กรอิสระเช่นนี้ ก็ต้องถามท่านพลเอกเช่นกันว่าสปช.สปท.กรธ.เป็นคนของใครมาจากฝ่ายไหน และทำเพื่อใครอย่าคิดว่ามีอำนาจแล้วเขียนกฎหมายบังคับอย่างไรก็ได้ บ้านเมืองมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพระสยามเทวาธิราชดูแลคุ้มครองอยู่ กฎหมายใดที่ไม่เป็นธรรม ประชาชนทั้งประเทศมองเห็น และกฎหมายนั้นย่อมใช้บังคับไม่ได้ในที่สุด ให้ดูร่างพรบ.นิรโทษกรรมสุดซอยสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นตัวอย่าง” นายวัชระกล่าว