วันนี้ ( 8 มิ.ย.2562 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพื้นที่ปลูกลำไยในตำบลห้วยลาน อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา เกษตรกรผู้ปลูกลำไย ในบ้านทุ่งต้นศร ม.5, บ้านเนินสมบูรณ์ ม.12และบ้านเนินสามัคคี หมู่ 14 ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากกรณีต้นลำไยยืนต้นตายและลูกปริแตกร่วงหล่น สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง จึงลงพื้นที่พร้อมด้วยนายวรฤทธิ์ ตั๋นเต็ม เกษตรอำเภอดอกคำใต้ นายบรรจง กระจ่างโพธิ์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลห้วยลาน เขต.1และนายสมบัติ ศรีนาค ผญบ.บ้านเนินสามัคคี ต.ห้วยลาน อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยาตัวแทนเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากภัยแล้งและ นายสมบัติ เปิดเผยว่า เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ลำไยในเขตบ้าน ม.12 และ ม.14 ซึ่งมีพื้นที่ติดกัน ติดดอกออกผลเต็มต้น เกษตรกรพากันดีใจเพราะลำไยติดดี แต่พอต้นเดือนมิถุนายน กลับพบว่า ต้นลำไยบางสวนเริ่มยืนต้นตาย ที่ไม่ยืนต้นตายก็ผลแตกและหลุดร่วงหล่นเสียหาย บางสวนเหลือแต่ก้าน บางส่วนก็พอเหลือผลติดต้นเพียงเล็กน้อย คาดว่าทั้ง2หมู่บ้านจะเสียหายไปกว่า 85เปอร์ของพื้นที่ปลูกต้นลำไยทั้งหมด นายสมบัติ กล่าวต่อไปว่า ในห้วงปีผลิต2561 เกษตรกรทุกครัวเรือนจะมีเงินจากการขายลำไยประมาณ700,000-850,000บาท บางคนได้กว่า 1000,000บาท แต่ปีนี้น่าจะขาดทุน ถ้าดูจากประสบการณ์การปลูกลำไย เชื่อว่าแต่ละรายที่ประสบภัยแล้งน่าจะขายได้ไม่ถึง100,000บาทแน่นอน ในขณะเดียวกัน นายบรรจง กระจ่างโพธิ์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลห้วยลาน เขต 1. ได้พาผู้สื่อข่าวไปสำรวจสวนลำไยบ้านทุ่งต้นศรี ม.5 ต.ห้วยลาน พบว่าลำไยยืนต้นตายและผลหล่นเสียหายเป็นจำนวนมากเช่นกัน ต้องตัดสินใจตัดต้นทิ้งเพื่อทำฟืนหรือเผาเอาถ่าน ด้านนายวรฤทธิ์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่พบว่าลำไยเสียหายจริง แต่ไม่ทั้งหมด บางต้นลูกหล่นพองามเท่ากับว่าเป็นการเด็ดลูกไม่สมบูรณ์ออกเพื่อให้ลูกที่เหลือเจริญเติบโตได้ดี มีขนาดลูกใหญ่สมบูรณ์ แต่ก็มีอีกหลายๆต้นที่เสียหายทั้งหมด ซึ่งน่าจะมาจากปัญหาของภัยแล้ง แต่อย่างไรก็ตามพอจะมีวิธีการแก้ไขคือต้องสนใจตัดแต่งกิ่งและหาหญ้าแห้งหรือฟางมาคลุมลำต้นเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของต้นก็จะลดปัญหาความเสียหายจากภัยแล้งในครั้งนี้ได้ในระดับหนึ่ง ส่วนการช่วยเหลือของทางราชการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ประสบภัยแล้งจะได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่งอำเภอดอกคำใต้ เพื่อให้คณะกรรมการฯพิจารณาช่วยเหลือเป็นรายๆไปตามความเสียหายจริงต่อไป ( นพพร/พะเยา )