“โฮมโปร”ปลื้มสาขาสแตนอโลนตอบโจทย์ลูกค้า จอดรถสบาย ช็อป-กิน ที่เดียวจบ ช่วยดันยอดขาย-ทราฟฟิกพุ่ง ล่าสุดเปิดบริการสาขา “จรัญสนิทวงศ์” จัดเต็มสินค้า และบริการเรื่องบ้านครบครัน รองรับกำลังซื้อลูกค้าฝั่งธนรัศมี 20 กม. พร้อมวางเป้ายอดขายปีแรกกว่า 100 ล้านบาท
นางสาวสิริวรรณ เสริมชีพ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายสื่อสารการตลาด บมจ. โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ หรือ “โฮมโปร” เปิดเผยว่า หลังจากที่โฮมโปรได้เดินหน้าลงทุนขยายสาขารูปสแตนอโลนมากขึ้น พบว่าสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น เห็นได้จากตัวเลขยอดขาย และทราฟฟิกที่เข้ามาใช้บริการของลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าสมาชิกที่สูงขึ้นกว่าสาขาที่เปิดตามศูนย์การค้า เพราะมีทั้งที่จอดรถที่สะดวกสบาย มีอาหารเครื่องดื่มครบจบในที่เดียว
ขณะที่สาขาสแตนอโลนที่เปิดไปล่าสุด คือ “โฮมโปร จรัญสนิทวงศ์” ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.2562 ที่ผ่านมาพบว่าลูกค้าตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะลูกค้าฝั่งธนที่อยู่ในรัศมี 20 กม ได้แก่ บางพลัด,บรมราชชนนี, ราชพฤกษ์ และพระราม 2 เป็นต้น โดยกลุ่มลูกค้าของสาขานี้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มบ้านเก่า หรือ กลุ่มบ้านซ่อมแซม ประมาณ 80% และลูกค้าบ้านใหม่อีก 20% ส่วนการลงทุนของสาขาจรัญสนิทวงศ์อยู่ที่ 800 ล้านบาท(รวมค่าที่ดิน)
ทั้งนี้การเปิดสาขาโฮมโปร จรัญสนิทวงศ์ เชื่อว่าจะเป็นแลนมาร์คใหม่ของชาวฝั่งธนฯ ตั้งอยู่ที่ปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 18 บนพื้นที่กว่า 8,400 ตร.ม. ตอบโจทย์ลูกค้าในรูปแบบ Total Home Solution ทั้งสินค้า และบริการ ที่ครอบคลุมครบทุกเซคชั่น พร้อมด้วยโซนใหม่เพิ่มแรงบันดาลใจดีให้ทุกคนในบ้าน กับ Bike Club โซนใหม่สำหรับสุขภาพ เพื่อคนรักการออกกำลังกาย และ Outdoor Living ครบครันทุกอุปกรณ์ตกแต่งสวน สร้างสวนสวยและความรื่นรมย์ในทุกช่วงเวลา , Small Lover โซนเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กเอาใจคนรักกาแฟโดยเฉพาะ
นอกจากบรรดาสินค้าเรื่องบ้านที่ครอบคลุมแล้ว โฮมโปร จรัญสนิทวงศ์ ยังเติมเต็มไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุค 4.0 ด้วยบริการที่ครบครัน ทั้ง Click & Collect ซื้อสินค้าออนไลน์ พร้อมเลือกเวลา และสถานที่รับของได้ด้วยตัวเอง , Shop Online ซื้อสินค้าที่ใช่ ในราคาที่ชอบ ง่ายๆ ในคลิกเดียว ,Home Service บริการเพื่อคนรักบ้าน โดยทีมช่างมืออาชีพจากโฮมโปร รวมถึงร้านอาหาร และเครื่องดื่มชื่อดัง กว่า 12 ร้านค้า เช่น Starbucks , มานี มี หม้อ, นิตยาไก่ย่าง, Kabocha Sushi , Miss Mamon, Chesters , GYM Monkey , Sin Chai Hua, และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนยอดขายกว่าของโฮมโปร จรัญฯปีแรกวางเป้ากว่า 100 ล้านบาท
“แนวคิดการขยายเป็นสแตนอโลน เนื่องจากลูกค้าไม่ได้มาเดินเล่น อีกทั้งยังมีข้อดีในแง่ของการบริหารจัดการพื้นที่ได้ดีกว่า สามารถปรับรูปแบบของสินค้าในแต่ละแผนกได้ตามไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆให้กับลูกค้า โดยเฉพาะที่จอดรถ และร้านอาหารที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามากขึ้นจบในที่เดียว เป็นต้น” นางสาวสิริวรรณ กล่าว
สำหรับโมเดลโฮมโปรในปัจจุบัน มีทั้งหมด 3 โมเดล คือ 1.โมเดลไซส์เอส จะเปิดตามห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าต่างๆ พื้นที่ไม่เกิน 3,000 ตร.ม. , 2.ไซส์เอ็ม มีพื้นที่ต่ำกว่า8,000 ตร.ม. และ3.ไซส์แอล หรือที่เป็นสแตนอโลน พื้นที่จะอยู่ที่ 8,000 ตร.ม.ขึ้นไป ซึ่งการลงทุนขยายสาขาของโฮมโปรจะเริ่มต้นที่กว่า100ล้านบาท ไปถึง500-800 ล้านบาท (แล้วแต่ทำเล) โดยปีนี้มีแผนที่จะขยายสาขาต่อเนื่อง โดยเฉพาะสาขาที่เป็นสแตนอโลน คาดว่าจะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขาในปีนี้ที่ต่างจังหวัด
นางสาวสิริวรรณ กล่าวเพิ่มว่าด้านภาพรวมของกำลังซื้อลูกค้าโฮมโปร ปัจจุบัน ถือว่าดี โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่เป็นสมาชิกที่มีอยู่ประมาณ 4 ล้านรายขณะนี้ ยังมีการจับจ่ายใช้สอยต่อเนื่องประมาณ 91% เฉลี่ย 2 ครั้งต่อเดือน
ขณะที่สาขาสแตนอโลนที่เปิดไปล่าสุด คือ “โฮมโปร จรัญสนิทวงศ์” ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.2562 ที่ผ่านมาพบว่าลูกค้าตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะลูกค้าฝั่งธนที่อยู่ในรัศมี 20 กม ได้แก่ บางพลัด,บรมราชชนนี, ราชพฤกษ์ และพระราม 2 เป็นต้น โดยกลุ่มลูกค้าของสาขานี้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มบ้านเก่า หรือ กลุ่มบ้านซ่อมแซม ประมาณ 80% และลูกค้าบ้านใหม่อีก 20% ส่วนการลงทุนของสาขาจรัญสนิทวงศ์อยู่ที่ 800 ล้านบาท(รวมค่าที่ดิน)
ทั้งนี้การเปิดสาขาโฮมโปร จรัญสนิทวงศ์ เชื่อว่าจะเป็นแลนมาร์คใหม่ของชาวฝั่งธนฯ ตั้งอยู่ที่ปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 18 บนพื้นที่กว่า 8,400 ตร.ม. ตอบโจทย์ลูกค้าในรูปแบบ Total Home Solution ทั้งสินค้า และบริการ ที่ครอบคลุมครบทุกเซคชั่น พร้อมด้วยโซนใหม่เพิ่มแรงบันดาลใจดีให้ทุกคนในบ้าน กับ Bike Club โซนใหม่สำหรับสุขภาพ เพื่อคนรักการออกกำลังกาย และ Outdoor Living ครบครันทุกอุปกรณ์ตกแต่งสวน สร้างสวนสวยและความรื่นรมย์ในทุกช่วงเวลา , Small Lover โซนเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กเอาใจคนรักกาแฟโดยเฉพาะ
นอกจากบรรดาสินค้าเรื่องบ้านที่ครอบคลุมแล้ว โฮมโปร จรัญสนิทวงศ์ ยังเติมเต็มไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุค 4.0 ด้วยบริการที่ครบครัน ทั้ง Click & Collect ซื้อสินค้าออนไลน์ พร้อมเลือกเวลา และสถานที่รับของได้ด้วยตัวเอง , Shop Online ซื้อสินค้าที่ใช่ ในราคาที่ชอบ ง่ายๆ ในคลิกเดียว ,Home Service บริการเพื่อคนรักบ้าน โดยทีมช่างมืออาชีพจากโฮมโปร รวมถึงร้านอาหาร และเครื่องดื่มชื่อดัง กว่า 12 ร้านค้า เช่น Starbucks , มานี มี หม้อ, นิตยาไก่ย่าง, Kabocha Sushi , Miss Mamon, Chesters , GYM Monkey , Sin Chai Hua, และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนยอดขายกว่าของโฮมโปร จรัญฯปีแรกวางเป้ากว่า 100 ล้านบาท
“แนวคิดการขยายเป็นสแตนอโลน เนื่องจากลูกค้าไม่ได้มาเดินเล่น อีกทั้งยังมีข้อดีในแง่ของการบริหารจัดการพื้นที่ได้ดีกว่า สามารถปรับรูปแบบของสินค้าในแต่ละแผนกได้ตามไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้า นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆให้กับลูกค้า โดยเฉพาะที่จอดรถ และร้านอาหารที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้ามากขึ้นจบในที่เดียว เป็นต้น” นางสาวสิริวรรณ กล่าว
สำหรับโมเดลโฮมโปรในปัจจุบัน มีทั้งหมด 3 โมเดล คือ 1.โมเดลไซส์เอส จะเปิดตามห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าต่างๆ พื้นที่ไม่เกิน 3,000 ตร.ม. , 2.ไซส์เอ็ม มีพื้นที่ต่ำกว่า8,000 ตร.ม. และ3.ไซส์แอล หรือที่เป็นสแตนอโลน พื้นที่จะอยู่ที่ 8,000 ตร.ม.ขึ้นไป ซึ่งการลงทุนขยายสาขาของโฮมโปรจะเริ่มต้นที่กว่า100ล้านบาท ไปถึง500-800 ล้านบาท (แล้วแต่ทำเล) โดยปีนี้มีแผนที่จะขยายสาขาต่อเนื่อง โดยเฉพาะสาขาที่เป็นสแตนอโลน คาดว่าจะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขาในปีนี้ที่ต่างจังหวัด
นางสาวสิริวรรณ กล่าวเพิ่มว่าด้านภาพรวมของกำลังซื้อลูกค้าโฮมโปร ปัจจุบัน ถือว่าดี โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่เป็นสมาชิกที่มีอยู่ประมาณ 4 ล้านรายขณะนี้ ยังมีการจับจ่ายใช้สอยต่อเนื่องประมาณ 91% เฉลี่ย 2 ครั้งต่อเดือน