เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 5 มิ.ย.62ณ สำนักงาน ป.ป.ส. (ดินแดง) นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส.พร้อมด้วย พลเรือโท ชูศักดิ์ ชูไพฑูรย์ ที่ปรึกษา ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดทหารเรือ พลตำรวจตรีอาชวันต์ โชติกเสถียร รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พลตำรวจตรี ภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นายวิชัย ไชยมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. พันตำรวจตรีสุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นาวาอากาศเอก ณัฐพัชร หนองแสง เสนาธิการกรมทหารสารวัตรทหารอากาศ และกองบัญชาการกองทัพไทย
ร่วมแถลงผลบูรณาการปราบปรามเครือข่ายรายสำคัญ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลาง ไอซ์ น้ำหนัก 1,495 กิโลกรัม คีตามีน น้ำหนัก 91 กิโลกรัม รถบรรทุก 6 ล้อ 2 คัน รถยนต์ 4 ล้อ 4 คัน อุปกรณ์บรรจุยาเสพติด อาวุธปืน 1 กระบอก และกระสุนจำนวนหนึ่ง
นายนิยม เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากสำนักงาน ป.ป.ส.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนหาการข่าว หลังมีประชาชนแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วน สำนักงาน ป.ป.ส. 1386ว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) มาจากแหล่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทย เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ โดยกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงจะใช้พื้นที่ปริมณฑลในการพักเก็บและบรรจุก่อนส่งต่อยังต่างประเทศ
สำนักงาน ป.ป.ส. จึงบูรณาการร่วมกันกับตำรวจภูธรภาค5,ศรภ.,บช.ปส.,ศอ.ปส.สน.บก.บก.ทท.,ศอ.ปส.ทอ.,และศอ.ปส.ทร. เฝ้าสืบสวนติดตามเป้าหมายจนทราบว่า นายหนึ่ง (ซึ่งเป็นบุคคลที่ประชาชนเคย แจ้งเบาะแสผ่านสายด่วน สำนักงาน ป.ป.ส. 1386) ร่วมกับพวกเปิดโกดังย่านปทุมธานี เพื่อเก็บพักคอยยาเสพติดก่อนส่งออกไปต่างประเทศ จนกระทั่งเวลา 02.00 น.วันที่ 4 มิ.ย.62 พบนายสุวิทย์ พรมโอ่น หรืออ๊อฟ กับพวกที่หลบหนีขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน ขจ 2715 ชลบุรี เข้ามาไปในโกดัง
ทางชุดปฎิบัติการร่วมเห็นเหตุต้องสงสัย จึงแสดงตัวเข้าขอตรวจค้น เมื่อรถคันดังกล่าวขับออกมาจากโกดัง ผลการเข้าตรวจค้นพบของกลางไอซ์ จำนวน 4 กล่อง ๆ ละ 25 ก้อน/กิโลกรัม รวม 100 กิโลกรัม และ คีตามีน 2 กล่อง น้ำหนักรวม 91 กิโลกรัม จากนั้นเข้าตรวจค้นด้านในโกดังหมายเลข 7 พบไอซ์ซุกซ่อนในช่องลับพื้นรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียน 72-3007 นครปฐม น้ำหนัก 1,395 กิโลกรัม ส่วนรถบรรทุก 6 ล้อ 70-3006 นครปฐม พบว่ามีการทำช่องลับบริเวณพื้นกระบะด้านท้ายเช่นกัน แต่ไม่พบยาเสพติดเชื่อว่าอาจจะมีการนำออกจากรถและส่งจำหน่ายไปก่อนแล้ว
“การจับกุมครั้งนี้เป็นการบูรณาการร่วมซึ่งมีบางส่วนที่อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลต่อเครือข่ายผู้เกี่ยวข้อง และจะตรวจยึดทรัพย์สินที่ต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวเนื่องกับการค้ายาเสพติด เพื่อตรวจสอบตามพ.ร.บ.มาตรการ ในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 ต่อไป” นายนิยม กล่าวต่อท้าย
ร่วมแถลงผลบูรณาการปราบปรามเครือข่ายรายสำคัญ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลาง ไอซ์ น้ำหนัก 1,495 กิโลกรัม คีตามีน น้ำหนัก 91 กิโลกรัม รถบรรทุก 6 ล้อ 2 คัน รถยนต์ 4 ล้อ 4 คัน อุปกรณ์บรรจุยาเสพติด อาวุธปืน 1 กระบอก และกระสุนจำนวนหนึ่ง
นายนิยม เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากสำนักงาน ป.ป.ส.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนหาการข่าว หลังมีประชาชนแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วน สำนักงาน ป.ป.ส. 1386ว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) มาจากแหล่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทย เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ โดยกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงจะใช้พื้นที่ปริมณฑลในการพักเก็บและบรรจุก่อนส่งต่อยังต่างประเทศ
สำนักงาน ป.ป.ส. จึงบูรณาการร่วมกันกับตำรวจภูธรภาค5,ศรภ.,บช.ปส.,ศอ.ปส.สน.บก.บก.ทท.,ศอ.ปส.ทอ.,และศอ.ปส.ทร. เฝ้าสืบสวนติดตามเป้าหมายจนทราบว่า นายหนึ่ง (ซึ่งเป็นบุคคลที่ประชาชนเคย แจ้งเบาะแสผ่านสายด่วน สำนักงาน ป.ป.ส. 1386) ร่วมกับพวกเปิดโกดังย่านปทุมธานี เพื่อเก็บพักคอยยาเสพติดก่อนส่งออกไปต่างประเทศ จนกระทั่งเวลา 02.00 น.วันที่ 4 มิ.ย.62 พบนายสุวิทย์ พรมโอ่น หรืออ๊อฟ กับพวกที่หลบหนีขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน ขจ 2715 ชลบุรี เข้ามาไปในโกดัง
ทางชุดปฎิบัติการร่วมเห็นเหตุต้องสงสัย จึงแสดงตัวเข้าขอตรวจค้น เมื่อรถคันดังกล่าวขับออกมาจากโกดัง ผลการเข้าตรวจค้นพบของกลางไอซ์ จำนวน 4 กล่อง ๆ ละ 25 ก้อน/กิโลกรัม รวม 100 กิโลกรัม และ คีตามีน 2 กล่อง น้ำหนักรวม 91 กิโลกรัม จากนั้นเข้าตรวจค้นด้านในโกดังหมายเลข 7 พบไอซ์ซุกซ่อนในช่องลับพื้นรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียน 72-3007 นครปฐม น้ำหนัก 1,395 กิโลกรัม ส่วนรถบรรทุก 6 ล้อ 70-3006 นครปฐม พบว่ามีการทำช่องลับบริเวณพื้นกระบะด้านท้ายเช่นกัน แต่ไม่พบยาเสพติดเชื่อว่าอาจจะมีการนำออกจากรถและส่งจำหน่ายไปก่อนแล้ว
“การจับกุมครั้งนี้เป็นการบูรณาการร่วมซึ่งมีบางส่วนที่อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลต่อเครือข่ายผู้เกี่ยวข้อง และจะตรวจยึดทรัพย์สินที่ต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวเนื่องกับการค้ายาเสพติด เพื่อตรวจสอบตามพ.ร.บ.มาตรการ ในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 ต่อไป” นายนิยม กล่าวต่อท้าย