เมื่อคืนที่ผ่านมา (3 มิ.ย.62) ในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตร ได้มีฝนตกและลมพัดกรรโชกแรงส่งผลให้ต้นตะเคียนยักษ์อายุกว่า 300 ปี ซึ่งอยู่บริเวณหน้าวัดโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นถิ่นประสูติของพระพุทธเจ้าเสือ หรือ สมเด็จพระศรีสรรเพชญที่ 8 หรือ พระมหากษัตริย์สมัยต้นกรุงศรีอยุธยา ต้นตะเคียนดังกล่าวได้ถูกลมพายุพัดหักโค่นลง นายหัฎฐะพล เมฆอาภา นายอำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร หลังจากทราบเหตุได้ลงพื้นที่ตรวจดูความเสียหาย ซึ่งก็พบว่าต้นตะเคียนยักษ์ที่มีอายุกว่า 300 ปี มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของลำต้นประมาณ 4 เมตร หรือ 10 คนโอบ ต้นไม้ต้นดังกล่าว มีตำนานว่าอยู่คู่กับวัดโพธิ์ประทับช้างมายาวนาน กว่า 300 ปี เป็นที่อยู่ของฝูงนกแก้วเป็นจำนวนมาก อีกทั้งได้ขึ้นทะเบียนเป็นรุกขมรดก ซึ่งเป็นต้นไม้ที่ทรงคุณค่าทางวัฒนธรรม เนื่องจากชาวบ้านมีความเชื่อกันว่าต้นไม้ต้นดังกล่าวเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์มีรุกขเทวดาและเจ้าแม่ตะเคียนทองสิงสถิตอยู่ ดังนั้นการหักโค่นของต้นตะเคียนยักษ์ส่งผลให้ชาวบ้านที่พบเห็นเหตุการณ์ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานาถึงเรื่องเร้นลับและอาถรรพ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ในส่วนของเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ประทับช้างก็ได้ระดมชาวบ้านมาช่วยกันตัดกิ่งต้นตะเคียนยักษ์เพื่อนำไปเก็บรักษาไว้และมีแนวความคิดว่าอาจจะนำมาทำเป็นวัตถุมงคลเนื่องจากต้นตะเคียนยักษ์อายุกว่า 300 ปี ต้นนี้อยู่และเติบโตมาคู่กับประวัติศาสตร์ของพระเจ้าเสือกษัตริย์ผู้มีถิ่นประสูติอยู่ ณ ที่แห่งนี้ และเป็นผู้ที่ทรงโปรดกีฬาชกมวยและไก่ชน จึงทำให้ที่บริเวณหน้าศาลพระเจ้าเสือ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับต้นตะเคียนยักษ์ต้นนี้มีคนนำรูปปั้นนักมวยและไก่ชนมาแก้บนเป็นจำนวนมาก ส่วนการหักโค่นก็เนื่องจากต้นตะเคียนต้นนี้อายุเก่าแก่ตลอดจนมีปลวกและแมงศัตรูพืชกัดกินบริเวณแก่นหรือแกนกลางลำต้นมาเนิ่นนานแล้ว ดังนั้นการที่หักโค่นจึงเป็นเรื่