สุรินทร์พบศพหนุ่ม วัย 24 ปี หนุ่มร่างทรง เชื่อไสยศาสตร์ เข้าป่าชายแดนค้นหาสิ่งลี้ลับ เข้าป่าเทือกเขาแนวชายแดน หายตัวไป 15 วัน เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าปูพรมตามหาตัว อย่างต่อเนื่อง ปรากฏว่าในช่วงบ่ายวันนี้ ชาวบ้านเข้าไปหาเก็บผักป่า ได้กลิ่นเหม็น เดินตามเข้าไป พบเป็นศพคน แจ้งเจ้าหน้าที่และญาติ มาดูศพ ยืนยัน เป็นศพหนุ่ม เชื่อไสยศาสตร์จริง ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของบรรดาญาติ ที่ติดตามหาอย่างต่อเนื่อง
จากกรณีญาตินายชัยยศ โทษาธรรม อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 9 ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ที่มาอาศัยอยู่กับคนรู้จักที่นับถือเป็นพี่ชาย ที่ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ และได้เข้าไปในป่าเขตแนวชายแดนไทย –กัมพูชา ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้บ้านโอทะลัน ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา และยังไม่กลับออกมา โดยทางญาติได้ร้องที่ศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดสุรินทร์ เพื่อขอความช่วยเหลือในการค้นหา
โดยญาติระบุว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค.62ที่ผ่านมา นายชัยยศ โทษาธรรม ได้ขับรถจักรยานยนต์ มาหาหมอไสยศาสตร์ ท่านหนึ่ง ในพื้นที่ อำเภอสังขะ จ.สุรินทร์ และได้พบปะพูดคุยกันถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่ในป่าและถ้ำแห่งหนึ่ง ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ในอำเภอบัวเชด และนายชัยยศ มีความสนใจอยากไปเห็น และได้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่หมอไสยศาสตร์อีกท่านหนึ่งบอกไว้ จึงได้จัดหาสิ่งของ พร้อมกับดอกไม้กำใหญ่ เพื่อไปบูชา และจะนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่ในถ้ำออกมา พร้อมกับได้ขับรถจักรยานยนต์ออกจากอำเภอสังขะ มุ่งหน้าไปยัง อำเภอบัวเชด และจอดรถจักรยานยนต์ไว้ในป่าสวนยางพาราของชาวบ้าน ในพื้นที่บ้านโอทะลัน ก่อนจะเดินถือสิ่งของพร้อมดอกไม้ มุ่งหน้าไปยังป่าเขาแหลม บริเวณถ้ำผาสาวโศก ขณะที่ชาวบ้านที่พบเห็นได้สอบถาม นายชัยยศ ว่าจะไปที่ไหนคนเดียวในป่าลึก นายชัยยศก็ไม่ตอบ แล้วเดินมุ่งหน้าเข้าไปในป่าไป ซึ่งบรรดาญาติๆก็ได้ข้อมูลจากชาวบ้านโอทะลัน ว่าเห็น นายชัยยศ ได้เดินทางมาที่ป่าชายแดนไทย-กัมพูชา จริง โดยแต่งกายนุ่งโสร่ง สวมใส่เสื้อสีขาว ถือสิ่งของและดอกไม้ เข้าไปในป่า คาดว่าน่าจะเดินทางเข้าไปยังถ้ำผาสาวโศก
จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยที่ 22 ชุดเฉพาะกิจที่ 2 ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 21 กองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบัวเชด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวเชด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสารักาความปลอดภัยหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน ห้วยสำราญ พร้อม ผู้นำชุมชนบ้านโอทะลัน พร้อมด้วยญาติๆ กว่า 80 ชีวิต
จึงได้เดินทางเข้าป่าใกล้แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ไปยังถ้ำผาสาวโศก โดยญาติๆได้นำดอกไม้ เครื่องเซ่นไหว้บอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเจ้าที่เจ้าทางที่ปกปักรักษาป่าเขา ถ้ำสาวโศก ให้ปล่อยตัวนายชัยยศ ออกมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดค้นหา ได้พากันเดิน เข้าไปในถ้ำ ได้ประมาณ 50 -60 เมตร ใช้ไฟฉายส่องหาตามซอกถ้ำก็ไม่พบคนแต่อย่างใด และต้องรีบกลับออกมาเพราะข้างในมืดมาก ไม่มีอากาศหายใจ ก่อนได้ทำความเข้าใจกับญาติๆว่า การที่จะเข้าไปในถ้ำต้องมีการเตรียมความพร้อมให้มากกว่านี้ มีไฟส่องสว่าง มีถังออกชิเจน เพราะข้างในไม่มีอากาศหายใจ และต้องปรึกษาหารือกับทีมงาน ค้นหาทีมอื่นๆอีกด้วย พร้อมทั้งต้องได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชา ในการค้นหา ซึ่งญาติก็เข้าใจ ตามที่สื่อได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดในช่วงบ่ายวันนี้(3 มิ.ย.62)ผุ้ใหญ่บ้านโอทะลัน ต.จรัส อ.บัวเชด ได้รับแจ้งจากนาย จำรัส โภคา อยุ 60 ปี เป็นชาวบ้านแซร์ไปร์ หมู่ 8 ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ขณะปล่อยวัว เลี้ยง ให้กินหญ้าในป่า และตนเองได้เดิน เข้าไป หาผักผ้า ตามเนินเขา ใกล้กับ บริเวณถ้ำผาสาวโศก และได้กลิ่นเหม็นอย่ารุนแรง มาจากซอกโขดหิน ทางลงถ้ำผ่าสาวโศก จึงเดินตามกลิ่น เข้าไปยังบริเวณ ที่ส่งกลิ่นเน่า โชยออกมา เมื่อเข้าไปใกล้ๆ ว่าเป็นศพคน นอนเสียชีวิต ในซอกหิน บริเวณทางลงถ้ำผาสาวโศก สภาพศพขึ้นอืด ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง มีแมลงวันบินตอมเกาะอยู่ตามร่างศพ อยู่เป็นจำนวนมาก จากนั้น ได้รีบเดินทาง เข้ามาแจ้งให้ ผู้ใหญ่บ้าน โอทะลัน ได้รับทราบ และได้ประสาน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน ห้วยสำราญ เจ้าหน้าที่ทหาร ชุดเฉพาะกิจที่ 2 เจ้าหน้าที่ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 21 กองกังสุรนารี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบัวเชด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวเชด พร้อมด้วยญาติ ผู้สูญหาย เมื่อญาติ ผู้สูญหายเดินทาง เข้าไป จุดที่พบศพ ต่างพากันยืนยันว่า เป็นศพ ของนายชัยยศ โทษาธรรม อายุ 24 ปี ที่หายตัวไปจริง และเช้าวันพรุ่งนี้ อาสากู้ภัยพร้อมเจ้าห้าที่จะนำศพออกจากจุดที่เกิดเหตุ
ขณะที่ญาติทุกเชื่อว่า สิ่งลี้ลับในป่าเขตแนวชายแดนบริเวณถ้ำผาสาวโศก มีจริง และปิดบังช่อนเร้นไม่เปิดทางให้เห็นผู้สูญหายแม้ว่าจะติดตามและเชื่อว่า ผู้สูญหายอยู่ในบริเวณนี้ อย่างแน่นอนตามคำบอกเล่าข้างร่างทรง ระดมกำลังค้นหาจำนวนมาก แต่ค้นหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ ใช้เวลาค้นหา ถึง 15 วัน ก็ไม่พบ จนกระทั่งชาวบ้าน คนหาของป่ามาพบ ศพในช่วงเย็นวันนี้ เชื่อว่าเสียชีวิตมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 3 วัน แต่ทำไมก่อนหน้านั้น เจ้าหน้าที่หากันจนแทบพลิกแผ่นดิน ในบริเวณนี้ ทำไม่ไม่พบ หากพบก่อนหน้านั้นเชื่อว่า เขามีชีวิต อยู่แน่นอน เชื่อว่า เจ้าป่าเจ้าเขา สิ่งลี้ลับเวทย์มนต์ดำ ปิดบังและเอาชีวิตเขาไป อย่างแน่นอน





