ยโสธร-ระยอง จับมือ เจรจาธุรกิจสินค้าเกษตรอินทรีย์ พร้อมลงนาม MOU หวังเพิ่มยอดจำหน่ายและสร้างพันธมิตรทางธุรกิจข้าวอินทรีย์
สำนักงานสหกรณ์จังหวัดยโสธร ร่วมกับสำนักงานสหกรณ์จังหวัดระยอง จัดการประชุมเจรจาการค้าข้าวอินทรีย์ ผลิตภัณฑ์อินทรีย์ และข้าวปลอดภัย ตามโครงการเพิ่มศักยภาพและกลยุทธ์ทางการตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ ระหว่างสถาบันเกษตรกรในจังหวัดยโสธร กับสถาบันเกษตรกรในจังหวัดระยอง ณ ห้องประชุมสำนักงานสหกรณ์จังหวัดระยอง ศาลากลางจังหวัดระยอง
นายวิรัตน์ ภานนท์ สหกรณ์จังหวัดยโสธร ได้นำผู้แทนสถาบันเกษตรกรในจังหวัดยโสธร เข้าร่วมประชุมเจรจาการค้า ตามโครงการเพิ่มศักยภาพและกลยุทธ์ทางการตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ โดยได้รับเกียรติจากนายวีระยุทธ ทุมทอง สหกรณ์จังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดงานฯ
นายวิรัตน์ ภานนท์ สหกรณ์จังหวัดยโสธร กล่าวว่า จังหวัดยโสธร ได้กำหนดวิสัยทัศน์ “ยโสธรเมืองเกษตรอินทรีย์ เมืองแห่งวีอีสาน” โดยในปี2561 จังหวัดได้กำหนดเป้าหมายเพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ให้มีจำนวน 100,000 ไร่ เพื่อให้มีผลผลิตอินทรีย์เพิ่มขึ้นและหลากหลายชนิด เพราะปัจจุบันพฤติกรรมการบริโภคได้เปลี่ยนกระแสรักสุขภาพ การคำนึงถึงสภาพแวดล้อม สุขอนามัย ซึ่งสถาบันเกษตรกรที่อยู่ในความดูแลของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดยโสธร ได้มีการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ ประเภทข้าวและผลิตภัณฑ์อาหารปลอดภัย ปัจจุบันสินค้าของสถาบันเกษตรกรยังไม่เข้าถึงตลาดอย่างแท้จริง สำนักงานสหกรณ์จังหวัดยโสธรจึงได้นำสถาบันเกษตรกรเดินทางทางมาเพื่อดำเนินกิจกรรมเพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดและการจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ กับสถาบันเกษตรกรในจังหวัดระยอง เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างสถาบันเกษตรกร เป็นการสร้างปริมาณธุรกิจให้เพิ่มมากขึ้น และเป็นการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจและผลประโยชน์ร่วมกัน
สถาบันเกษตรกรในจังหวัดยโสธรที่เดินทางมาในครั้ง ประกอบด้วย สหกรณ์การเกษตรมหาชนะชัย จำกัด ผลิตภัณฑ์ คือ ข้าวหอมมะลิปลอดภัย สหกรณ์การเกษตรธรรมชาติอินทรีย์หนองยอ จำกัด ผลิตภัณฑ์ คือ ข้าวอินทรีย์ ข้าวกล้อง สหกรณ์การเกษตรในโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณหนองอึ่งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำกัด ผลิตภัณฑ์ คือ เห็ดโคนกระป๋อง เห็ดเผาะกระป๋อง ไข่มดแดงกระป๋อง กลุ่มเกษตรกรทำนานาโส่ ผลิตภัณฑ์ คือ ข้าวอินทรีย์ กลุ่มเกษตรกรทำนาบากเรือ ผลิตภัณฑ์คือ ข้าวอินทรีย์ น้ำมันรำข้าว งาอินทรีย์ ผลิตภัณฑ์แปรรูปอินทรีย์ ฯลฯ
“การจัดงานครั้งนี้ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ข้าวหอมมะลิปลอดภัย และผลิตภัณฑ์ในโครงการพระราชดำริฯ และร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ(MOU) กับตัวแทนสถาบันเกษตรกรในจังหวัดระยอง มุ่งเน้นให้ความสำคัญในการผลิตข้าวอินทรีย์ และอาหารปลอดภัยที่มีคุณภาพ สร้างความร่วมมือทางการตลาด สร้างพันธมิตรทางธุรกิจและผลประโยชน์ร่วมกัน สร้างความมั่นคงให้กับสถาบันเกษตรกร อย่างยั่งยืนต่อไป”สหกรณ์จังหวัดยโสธร กล่าว
นายวิรัตน์ ภานนท์ สหกรณ์จังหวัดยโสธร กล่าวว่า จังหวัดยโสธร ได้กำหนดวิสัยทัศน์ “ยโสธรเมืองเกษตรอินทรีย์ เมืองแห่งวีอีสาน” โดยในปี2561 จังหวัดได้กำหนดเป้าหมายเพิ่มพื้นที่เกษตรอินทรีย์ให้มีจำนวน 100,000 ไร่ เพื่อให้มีผลผลิตอินทรีย์เพิ่มขึ้นและหลากหลายชนิด เพราะปัจจุบันพฤติกรรมการบริโภคได้เปลี่ยนกระแสรักสุขภาพ การคำนึงถึงสภาพแวดล้อม สุขอนามัย ซึ่งสถาบันเกษตรกรที่อยู่ในความดูแลของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดยโสธร ได้มีการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ ประเภทข้าวและผลิตภัณฑ์อาหารปลอดภัย ปัจจุบันสินค้าของสถาบันเกษตรกรยังไม่เข้าถึงตลาดอย่างแท้จริง สำนักงานสหกรณ์จังหวัดยโสธรจึงได้นำสถาบันเกษตรกรเดินทางทางมาเพื่อดำเนินกิจกรรมเพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดและการจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ กับสถาบันเกษตรกรในจังหวัดระยอง เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างสถาบันเกษตรกร เป็นการสร้างปริมาณธุรกิจให้เพิ่มมากขึ้น และเป็นการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจและผลประโยชน์ร่วมกัน
สถาบันเกษตรกรในจังหวัดยโสธรที่เดินทางมาในครั้ง ประกอบด้วย สหกรณ์การเกษตรมหาชนะชัย จำกัด ผลิตภัณฑ์ คือ ข้าวหอมมะลิปลอดภัย สหกรณ์การเกษตรธรรมชาติอินทรีย์หนองยอ จำกัด ผลิตภัณฑ์ คือ ข้าวอินทรีย์ ข้าวกล้อง สหกรณ์การเกษตรในโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณหนองอึ่งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำกัด ผลิตภัณฑ์ คือ เห็ดโคนกระป๋อง เห็ดเผาะกระป๋อง ไข่มดแดงกระป๋อง กลุ่มเกษตรกรทำนานาโส่ ผลิตภัณฑ์ คือ ข้าวอินทรีย์ กลุ่มเกษตรกรทำนาบากเรือ ผลิตภัณฑ์คือ ข้าวอินทรีย์ น้ำมันรำข้าว งาอินทรีย์ ผลิตภัณฑ์แปรรูปอินทรีย์ ฯลฯ
“การจัดงานครั้งนี้ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ข้าวหอมมะลิปลอดภัย และผลิตภัณฑ์ในโครงการพระราชดำริฯ และร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ(MOU) กับตัวแทนสถาบันเกษตรกรในจังหวัดระยอง มุ่งเน้นให้ความสำคัญในการผลิตข้าวอินทรีย์ และอาหารปลอดภัยที่มีคุณภาพ สร้างความร่วมมือทางการตลาด สร้างพันธมิตรทางธุรกิจและผลประโยชน์ร่วมกัน สร้างความมั่นคงให้กับสถาบันเกษตรกร อย่างยั่งยืนต่อไป”สหกรณ์จังหวัดยโสธร กล่าว