กรมส่งเสริมการเกษตรเตือนเกษตรกร ให้แจ้งปรับปรุงทะเบียนเกษตรทุกครั้งเมื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ หากไม่ได้ปรับปรุงสถานภาพติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี จะสิ้นสถานภาพการเป็นเกษตรกร เมื่อวันที่ 28 พ.ค.62 นางดาเรศร์ กิตติโยภาส รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ทะเบียนเกษตรกร คือข้อมูลของครัวเรือนผู้ประกอบการเกษตร ที่แสดงถึงสถานภาพและการประกอบอาชีพทางการเกษตรของครัวเรือน เกษตรกรที่มีทะเบียนเกษตรกร จะสามารถเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือของรัฐบาล ได้รับความช่วยเหลือกรณีที่แปลงปลูกพืชได้รับความเสียหายจากการประสบภัยพิบัติด้านพืช ตามระเบียบกระทรวงการคลัง และได้รับสิทธิในการซื้อและใช้สารพาราควอต ไกลโฟเซส และคลอร์ไพรีฟอส ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนแล้ว ต้องทำการปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรทุกครั้ง เมื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ หลังการเพาะปลูก 15–60 วัน สามารถปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้ตลอดปี ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของ แต่ละชนิดพืช หากเป็นเกษตรกรรายเดิมที่ต้องการเพิ่มแปลงใหม่ จำเป็นต้องติดต่อขึ้นทะเบียนเกษตรกรที่สำนักงานเกษตรอำเภอ แต่ถ้าเป็นเกษตรกรรายเดิมที่ใช้แปลงเดิม สามารถติดต่อปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน หรือบนแอพพลิเคชั่น DOAE Farmbook ที่กรมส่งเสริมการเกษตรพัฒนาขึ้นในระบบปฏิบัติการ IOS และ Android เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้เกษตรกรสามารถแจ้งปรับปรุงข้อมูลในทะเบียนได้ด้วยตนเองผ่านโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ทั้งยังเป็นช่องทางการรับรู้ข้อมูลข่าวสารจากภาครัฐ รวมถึงสามารถใช้ตรวจสอบสิทธิ์เกษตรกรที่จะได้รับความช่วยเหลือในกรณีประสบภัยพิบัติ หรือตามมาตรการแก้ปัญหาอื่นๆ ของภาครัฐได้อีกด้วย หากเกษตรกรท่านใดไม่มีการปรับปรุงสถานภาพติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี ตามที่นายทะเบียนประกาศให้ปรับปรุงข้อมูลเกษตรกร โดยเริ่มนับระยะเวลา 3 ปี คือตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2560 เป็นต้นมา ถึงวันที่ 22 มิถุนายน 2563 ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนถึง 896,871 ครัวเรือน ที่ยังไม่ได้มาปรับปรุงข้อมูลเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตร หากครบระยะเวลาดังกล่าวแล้ว เกษตรกรที่ยังไม่ได้ปรับปรุงข้อมูลเกษตรกร จำนวน 896,871 ครัวเรือน จะสิ้นสถานภาพการเป็นเกษตรกรทันที และทำให้ไม่ได้รับสิทธิ์จากโครงการของรัฐบาล