“แชฟฟ์เลอร์”มั่นใจอุตสาหกรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังเติบโตต่อเนื่อง พร้อมเปิดโรงงานสีเขียวแห่งใหม่ที่เมืองเบียนฮัว จ.ดองไน เวียดนาม ทุ่มงบลงทุนมากกว่า 1,600 ล้านบาท สร้างโรงงานการผลิตที่ทันสมัยสร้างงานมากกว่า 300 ตำแหน่ง นายจอร์จ เอฟดับบลิว แชฟฟ์เลอร์ ผู้ถือหุ้น และประธานกลุ่มแชฟฟ์เลอร์ เปิดเผยว่า เวียดนามเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กลุ่มแชฟฟ์เลอร์เข้ามาลงทุนเพื่อสร้างกำลังการผลิตชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมในระดับภูมิภาค เชื่อมั่นว่าที่นี่เป็นหนึ่งในที่ตั้งยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของภูมิภาคเอเชีย มีความหลากหลาย มั่นคง และเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยประชากรที่มีความสามารถ มีการศึกษาที่ดี และมีความมุ่งมั่นตั้งใจ นายมาร์ติน ชรีเบอร์ ประธานแผนกอุตสาหกรรมของบริษัทแชฟฟ์เลอร์ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า การขยายกำลังการผลิตชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของบริษัทที่มีต่อเวียดนามในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการผลิตที่ดีเยี่ยมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และพร้อมให้บริการลูกค้าในระดับภูมิภาค และระดับโลก ด้วยผลิตภัณฑ์ตลับลูกปืน และระบบที่ดีที่สุด สำหรับโรงงานใหม่นี้ตั้งอยู่ที่เขตนิคมอุตสาหกรรมอมตะในเมืองเบียนฮัว ประมาณ 50 กิโลเมตรจากเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ มีสายการผลิตตลับลูกปืนอุตสาหกรรม และส่วนประกอบสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย บริษัทแชฟฟ์เลอร์ลงทุนครั้งแรกในเวียดนามเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาเริ่มจากการผลิตตลับลูกปืนเม็ดเรียว (TRB) ตลับลูกปืนกลมพร้อมเสื้อเหล็กหล่อ(RIBB) และตลับลูกปืนคอพวงมาลัย (SCB) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การลงทุนใหม่ครั้งนี้ บริษัทแชฟฟ์เลอร์จะเพิ่มกำลังการผลิตของผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ และเพิ่มสายผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับ RIBB ขยายเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์หลักของกลุ่มแชฟฟ์เลอร์-ตลับลูกปืนเม็ดเข็ม (NRB) นายเฮลมุท โบวด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แชฟฟ์เลอร์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า โรงงานแห่งใหม่ได้รับการพัฒนาบนแนวคิดแบบ modular concept ด้วยพื้นที่อาคารรวม 25,000 ตารางเมตร ในเฟสที่ 1 และบริษัทยังคงเติบโตในด้านความสามารถด้านวิศวกรรม และการผลิต มีเป้าหมายเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสูงสุดให้กับลูกค้าในภูมิภาคและทั่วโลก การลงทุนของแชฟฟ์เลอร์ครั้งนี้ นับเป็นการลงทุนครั้งที่สองเพื่อขยายกำลังการผลิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทั้งนี้เมื่อปี 2559 แชฟฟ์เลอร์ได้เปิดโรงงานแห่งใหม่ที่แรกสำหรับผลิตภัณฑ์ยานยนต์ในประเทศไทยมาก่อน และได้เปิดโรงงานที่ทันสมัยแห่งใหม่นี้สำหรับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมในเวียดนาม โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเวียดนามลูกค้า คู่ค้า และพันธมิตรเป็นอย่างดี ทำให้มั่นใจว่าแชฟฟ์เลอร์ได้ก้าวไปอีกขั้นหนึ่งของธุรกิจอุตสาหกรรมในระยะยาว และอย่างยั่งยืนในภูมิภาคนี้ สำหรับสินค้าที่ผลิตในเวียดนามจะกระจายให้กับลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ รวมทั้งการเกษตร การก่อสร้างและเหมืองแร่ ระบบส่งกำลังไฟฟ้า การแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมสิ่งทอ กระดาษ เหล็ก ซีเมนต์ และธุรกิจรถจักรยานยนต์ โดยโรงงานใหม่นี้จะติดตั้งเครื่องจักรผลิตที่ทันสมัยและเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของ แชฟฟ์เลอร์ในการรักษามาตรฐานคุณภาพที่เหมือนกันทั่วโลก และที่นี่ยังเป็นโรงงานแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ใช้โซลูชัน อินดัสตรี 4.0 ล่าสุดที่พัฒนาโดยแชฟฟ์เลอร์ อีกทั้งยังติดตั้งอุปกรณ์ตรวจสอบสภาพของแชฟฟ์เลอร์ SmartCheck TM ถึง 70 ตำแหน่งที่สำคัญภายในโรงงาน นายซึงฮุน ปาร์ค กรรมการผู้จัดการ และผู้จัดการโรงงานแชฟฟ์เลอร์เวียดนามกล่าวว่า การพัฒนาภาคการผลิตเป็นสิ่งที่รัฐบาลเวียดนามให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆด้วยการเข้าถึงแรงงานที่มีทักษะสูงและความมุ่งมั่นในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีที่สุดแก่ลูกค้า แชฟฟ์เลอร์ประเทศเวียดนามได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นฐานการผลิตที่มีประสิทธิภาพ และในปี 2561 ประสบความสำเร็จครั้งสำคัญในการส่งมอบผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการขยายกำลังการผลิตของแชฟฟ์เลอร์ครั้งนี้ ทำให้มั่นใจในการบรรลุมาตรฐานคุณภาพและความพึงพอใจของลูกค้าที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันก็มีส่วนช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมในเวียดนามและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้นเติบโตเพิ่มมากขึ้น