ผู้ว่าฯราชบุรีพร้อมผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรีจัดพิธีปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ตามพระราชกฤษฎาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2562 ณ ศาลาร่วมใจ เรือนจำกลางราชบุรี มีผู้ต้องขังรวมจำนวน 454 คน ถูกปล่อยตัว มีครอบครัวเดินทางมารับด้วยความอบอุ่น วันนี้ ( 24 พค. 62) นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พันตรี รัฐกฤษณ์ ใจจริง ผู้บัญชาการเรือนจำกลางราชบุรี จัดพิธีปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2562 ที่ศาลาร่วมใจ เรือนจำกลางราชบุรี ต.น้ำพุ อ.เมือง โดยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริเห็นว่า ในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก นับเป็นอภิลักขิตกาลสำคัญ เพื่อเป็นการแสดงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว สมควรพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นคนดี อันจะเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯตราพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2562 ขึ้น ไว้เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2562 ในการตรวจสอบผู้ซึ่งจะได้รับพระราชทานอภัยโทษแต่ละรายจะมีคณะกรรมการประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือ ผู้ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้พิพากษาแห่งท้องที่และพนักงานอัยการแห่งท้องที่ร่วมกันพิจารณา ซึ่งทางเรือนจำกลางราชบุรีมีผู้ได้รับพระราชทานอภัยโทษรวมทั้งสิ้นจำนวน 454 คน แยกเป็นชาย จำนวน 369 คน เป็นหญิงจำนวน 85 คน นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า เรือนจำกลางมีพิธีปล่อยผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษได้กลับออกไปสู่ครอบครัว ภายใน 120 วัน จะมีการทยอยปล่อยออกไปเป็นชุดๆ ภาพรวมของเรือนจำกลางราชบุรีคาดว่ารวมประมาณกว่า 1,000 คน วันนี้มาทำพิธีมอบหนังสือสำคัญแสดงถึงเป็นผู้ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษได้รับการปล่อยตัว บางส่วนไม่มีญาติมารับ ไม่มีค่ารถเดินทางกลับ ทางเรือนจำกลางราชบุรีได้จัดเงินค่ารถให้สามารถเดินทางกลับไปหาครอบครัวได้ นอกจากนี้จะมีกระบวนการของทางราชทัณฑ์ที่จะติดตามดูแล กรณีที่ออกไปแล้วมีปัญหามีความทุกข์ยากลำบาก ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพร้อมให้การดูแล สายด่วน 1567มีหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานเหล่ากาชาด และหน่วยงานการกุศลคอยช่วยเหลือไม่ให้กลับมาสู่การกระทำความผิดซ้ำอีก โอกาสนี้ทางเรือนจำกลางราชบุรีได้นิมนต์พระครูสมุประดิษฐ์ ปัญญาวัฒโก เจ้าอาวาสวัดหนองแช่เสา เจ้าคณะตำบลน้ำพุ-ห้วยไผ่ ได้ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ก่อนเดินออกจากภายนอกไปหาภรรยา ลูก และญาติพี่น้องที่เฝ้ารออยู่บริเวณด้านหน้าเรือนจำ และทันทีที่พบเจอกันต่างก็โผเข้ากอดกันด้วยความดีใจมีสีหน้าที่แสดงออกถึงความสุขเต็มเปี่ยม