เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (24 พ.ค.62) ที่ชุดตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดอุดรธานี( กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พล.ต.ต.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี( ผบก.ภ.จว.อุดรธานี) พร้อมด้วย พพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศตำรวจภูธรอุดรธานี( ศปอส.ภ.จว.อด.) ร่วมกันแถลงข่าวข่าวการจับกุมผู้ต้องหาแก๊งลักรถ จยย. ส่งข้ามแม่น้ำโขงขายให้นายทุนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน(ประเทศ สปป.ลาว)ประกอบด้วย นายนพรัตน์ หรือเหี่ยว กุลภา อายุ ท32 ปี ที่อยู่ 137/3 ม.3 ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี, นายสุเทพ พุ่มพวง อายุ 44 ปี ที่อยู่ 11/1 ม.3 ต.บางคนที อ.บางคนที่ จ. สมุทรสงคราม, นายถนอม พรหมอารักษ์ อาายุ อายุ 60 ปี ที่อยู่ 150 ม.7 ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม, นายณรงค์ อภัยโส อายุ 47 ปี ที่อยู่ อยู่ 39 ม.7 ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ในข้อหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเตหะสถาน(รถ จยย) พล.ต.ต.วรณัฏฐ์ ผันผ่อน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า เนื่องจากมีคนร้ายตระเวนก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ ที่จอดอยู่ตามบ้านพัก อาศัย หอพักในพื้นที่เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลายครั้ง โดยมีบางแห่งมีกล้องวงจรปิดสามารถจับบันทึกเป็นหลักฐานที่สำคัญและชัดเจน โดยเฉพาะกรณีการก่อเหตุลักรถ จยย.ของ นางศรมณี คำแพง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่425 /10 ซอยกำนัน เขตเทศบาลนครอุดรธานี เมื่อวันที่ 13 พ.ค.2562 เวลาประมาณ 14.00 น. ซึ่งรถ จยย.จอดเอาไว้ที่หน้าบ้าน โดยไม่ได้ล็อคคอ และไม่ได้ถอดลูกกุญแจออกช่องสวิช จากหลักฐานกล้องวงจรปิดที่บันทึกเอาไว้ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติออกหมายจับ นายนพรัตน์ หรือ เหี่ยวฯ และสามารถติดตามจับกุมตัว นายนพรัตน์หรือเหี่ยวฯได้ ซึ่งจากการสอบสวนปากคำ นายนพรัตน์ หรือ เหี่ยวฯ ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับ นายสุเทพฯผู้ต้องหาอีกคน ทำการลักรถ จยย. โดยตัวของนายนพรัตน์ หรือ เหี่ยวฯ จะเป็นคนตระเวนไปตามสถานที่ต่างไ เพื่อหารถเป้าหมาย เมื่อได้รถแล้วก็จะนำเอาไปส่งมอบให้กับ นายสุเทพฯ และนายสุเทพฯจะ นำรถ จยย.ที่ก่อเหตุลักมาได้ ไปส่งต่อให้กับ นายถนอมฯและนายณรงค์ฯ ซึ่งทำหน้าที่เป็นนายทุนรับซื้อต่อในราคาคันละ 2000-3000 บาท ที่ ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม โดยนายนนพรัตน์หรือเหี่ยวฯและนายสุเทพฯรับว่าได้ก่อเหตุลักรถ จยย.ไปส่งให้ นายถนอมฯและ นายณรงค์ฯมาแล้ว 8-9 ครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมหลักฐานขออนุมัติออกหมายจับ นายถนอมฯและ นายณรงค์ฯ และสามารถจับตัวบุคคลทั้งสองได้ที่บ้านพักในตำบลบ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม และนำตัวมาดำเนินการตามกฎหมายที่ สภ.เมืองอุดรธานีต่อไป ซึ่งจากการสอบสวน นายถนอมฯและ นายณรงค์ฯ สองผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า เป็นนายหน้ารับซื้อ รถ จยย.ที่ นายนพรัตน์ฯและ นายสุเทพฯ ลักมาได้ แล้วลักลอบส่งไปขายให้กับนายทุนรายใหญ่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน(สปป.ลาว) ผู้ต้องหาทั้งสองยังให้การรับสารภาพอีกว่า เมื่อได้รับรถ จยย.ที่ นายนพรัตน์ฯและนายสุเทพฯแล้ว ก็จะจัดการนำเอาขึ้นบรรทุกใส่เรือหาปลาที่บริเวณหมู่บ้าน ม.7 ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ลักลอบนำข้ามแม่น้ำโขงไปส่งให้ นายทุนรายใหญ่ที่ประเทศเพื่อบ้าน(สปป.ลาว) ชื่อท้าวทองฯ ไม่ทรายชื่อและนามสกุล ซึ่งนายถนอมฯและ นายณรงค์ฯ ผู้ต้องหาจะได้รับค่าดำเนอินการจาก ท้าวทองฯ นายทุนคันละ 10,000 บาท ต่อคัน และยังยอมรับว่าได้ลักลอบส่งรถ จยย.ไปขายให้ ท้าวทองฯแล้วไม่ต่ำกว่า 30 คัน