ธอส.ประกาศผลงานไตรมาส1/62ปล่อยกู้ใหม่แล้วกว่า 4.4 หมื่นล้านบาท พร้อมกัดฟันยันเป้าเดิมทั้งปีกว่า 2 แสนล.หลังLTVกระทบยอดปล่อยกู้ นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของธนาคารในไตรมาสแรกปี 2562 สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทั้งสิ้น 44,041 ล้านบาท 35,971 บัญชี โดยเป็นการเพิ่มโอกาสให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและปานกลางได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท จำนวน 21,319 ทั้งนี้หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 ธนาคารมียอดสินเชื่อ คงค้างรวม 1,128,493 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.88% สินทรัพย์รวม 1,167,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.95% เงินฝากรวม 945,294 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.58% ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 49,295 ล้านบาท คิดเป็น 4.37% ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้น 0.03% โดยมีอัตราส่วนการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (Provision to NPL) ที่ 166.81% เพิ่มขึ้น 9.60% มีรายได้ดอกเบี้ย 12,971 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย 5,432 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 2,866 ล้านบาท ทั้งนี้ล่าสุดสิ้นเดือนเม.ย.2562 ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ที่ 53,348 ล้านบาท โดยคาดว่าเมื่อปิดไตรมาส 2 ปี 2562 การปล่อยสินเชื่อใหม่จะเพิ่มขึ้นไปใกล้เคียงกับเป้าหมาย 6 เดือน ที่ตั้งไว้คือ 100,000 ล้านบาท จากเป้ารวมทั้งปี 203,000 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐ รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ในด้านต่าง ๆ เพิ่มเติมของรัฐบาลที่คาดว่าจะทยอยประกาศในช่วงไตรมาสที่ 3-4 ของปี 2562 นอกจากนี้ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาธอส.ยังได้ประสบความสำเร็จในการนำระบบปฏิบัติงานหลัก GHB System ขึ้นใช้งานเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2562 และสามารถให้บริการลูกค้าได้ต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อว่าระบบดังกล่าวจะสามารถรองรับการดำเนินธุรกิจของ ธอส. ไปได้อีกอย่างน้อย 10 ปี สำหรับมาตรการ LTV ที่ออกมาต้องยอมรับว่าธอส.ได้รับกระทบพอสมควร โดยหลังมาตรการ LTV ซึ่งมีผลบังคับประกอบกับจำนวนวันหยุดจำนวนมากทำให้ในเดือนเม.ย.จึงปล่อยกู้ได้ 9,000 ล้านบาท จากเป้าหมาย 13,000-15,000ล้านบาท ส่วนการปล่อยสินเชื่อครึ่งเดือนแรกของพ.ค. 2562 มียอดปล่อยสินเชื่อลดลง 30-35% “ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากมาตรการ LTV คาดว่าจะทำให้ปีนี้ธนาคารปล่อยสินเชื่อต่ำกว่าเป้าประมาณ 60,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 30%จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 203,000ล้านบาท แต่ก็หวังว่ากระทรวงการคลังจะหารือกับธปท. เพื่อให้ผ่อนผันเกณฑ์ LTV กับแบงก์รัฐ หลังจากเมื่อเร็ว ๆนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้เรียก ธอส. และ ธนาคารออมสินไปหารือถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามธอส.ยังคงยืนยันไม่ปรับเป้าลดลง แม้จะทำได้ไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ก็ตาม” นายฉัตรชัย กล่าว นายฉัตรชัย กล่าวเพิ่มว่า ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินโครงการบ้านล้านหลัง ที่ธนาคารเปิดรับคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2562 ล่าสุดวันที่ 15 พ.ค.2562 พบว่ามีลูกค้าประชาชนทยอยเดินทางเข้ามาติดต่อยื่นคำขอกู้รวมแล้วกว่า 7,300 ราย วงเงินกู้ 5,200 ล้านบาท และมีผู้ที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อแล้วกว่า 6,300 ราย วงเงินกู้ 4,300 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันธนาคารยังคงเร่งติดตามให้ผู้ที่มาจองสิทธิ์สินเชื่อเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2561 ทั้ง 127,000 ราย เข้ามาติดต่อขอรับคำปรึกษากับเจ้าหน้าที่หรือยื่นกู้กับธนาคารให้ครบทุกรายภายในเดือนก.ค. 2562 เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์การเข้าถึงสินเชื่อของโครงการบ้านล้านหลังที่กำหนดอัตราดอกเบี้ยเพียง 3% ต่อปี คงที่นานสูงสุด 5 ปี สำหรับผู้มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาท และฟรีค่าธรรมเนียมถึง 4 ประเภท ก่อนที่จะเปิดจองสิทธิสินเชื่อโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 ภายในเดือนก.ย.นี้ นอกจากนี้ปัจจุบันธนาคารอยู่ระหว่างการรวบรวมและแนะนำผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่มีแผนก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท มาเข้าร่วมโครงการให้ได้ไม่ต่ำกว่า 20,000 หน่วย ต่อปี และเตรียมจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยมุ่งเน้นส่งเสริมกลุ่มผู้ที่เลี้ยงดูบุพการี ผู้มีรายได้น้อย และคนวัยทำงานหรือกำลังเริ่มต้นสร้างครอบครัวได้มีบ้านเป็นของตนเอง และอาจขยายระยะการผ่อนชำระให้นานสูงสุดถึง 50 ปี เพื่อลดภาระในการผ่อนรายเดือนให้กับผู้กู้ต่อไป สำหรับโครงการบ้านหลังแรกได้รับอนุมัติวงเงินปล่อยกู้จากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เบื้องต้น 50,000ล้านบาท พร้อมขยายเวลาการปล่อยกู้จากสิ้นปี 2563 - 2564