เรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ร่วมกับโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์เปิดหน่วยบริการปฐมภูมิสถานพยาบาลในเรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อให้ผู้ต้องขังเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขพื้นฐานที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกัน การให้การรักษาพยาบาล รวมทั้งฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ต้องขังป่วย ที่เรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นายภัทรพงศ์ หมวกสกุล ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ร่วมกันเปิดหน่วยบริการปฐมภูมิสถานพยาบาลในเรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ โดยมีรองฯ ผอ.ฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ กล่าวรายงาน พร้อมด้วย รองนายแพทย์ สสจ. ยุติธรรมจังหวัด คุมประพฤติจังหวัดร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิด นายภัทรพงศ์ หมวกสกุล ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในการพัฒนาสถานพยาบาลของเรือนจำ และทัณฑสถานในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้ผู้ต้องขังเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขพื้นฐานที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกัน การให้การรักษาพยาบาล รวมทั้งฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ต้องขังป่วย ซึ่งจะส่งผลให้นโยบายสำคัญของกรมราชทัณฑ์ คือ การคืนคนดีสู่สังคม บรรลุเป้าหมายและประสบความสำเร็จ โดยการคืนคนที่สุขภาพดีสู่สังคม ไม่ทิ้งกลุ่มผู้ต้องขังที่ถือเป็นผู้ด้วยโอกาสไว้ข้างหลัง ตามนโยบายของ จ.กาฬสินธุ์ คือ กาฬสินธุ์แฮปปี้เนสโมเดล คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอีกด้วย สำหรับหน่วยบริการสุขภาพสถานพยาบาลปฐมภูมิเรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ เป็นเครือข่ายบริการสุขภาพภายใต้การดูแลของโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ซึ่งปัจจุบันเรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ มีจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 3,429 คน เป็นผู้ต้องขังชาย 3,063 คน ผู้ขังหญิง 366 คน มีสภาความเป็นอยู่ที่แออัดมาก เนื่องจากพื้นที่ภายในเรือนจำ ซึ่งมีพื้นที่เพียง 11 ไร่เท่านั้น และมีความจุมาตรฐานเพียง 1,500 เท่านั้น นายภัทรพงศ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ปัจจุบันพบว่าผู้ต้องขังที่เจ็บป่วยจะพบโรคที่เกี่ยวกับผิวหนัง เช่น ผื่นคัน โรคหิด โรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ ไข้หวัด และโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร สำหรับผู้ต้องขังที่ป่วยที่มีอาการหนักก็จะส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ส่วนใหญ่จะเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ วัณโรค ปอดบวม โรคหัวใจ โรคไต ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอาการป่วยมาจากนอกเรือนจำแล้ว รวมทั้งผู้ต้องขังที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวานเรื้อรัง ความดันโลหิตสูง และโรคเกี่ยวกับไต ซึ่งปัจจุบันเรือนจำมีแพทย์แพทย์ห้วงเวลาเข้ามาตรวจรักษาผู้ต้องขังสัปดาห์ละ 2 วัน ร่วมกับพยาบาลเรือนจำ ซึ่งเป็นพยาบาลวิชาชีพ 2 คน ซึ่งไม่เพียงพอทางเรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ จึงได้เปิดหน่วยบริการปฐมภูมิสถานพยาบาล เพื่อดูแลสุขภาพ ให้ผู้ต้องขังได้รับการบริการด้านสาธารณสุขอย่างทั่วถึง ภายใต้เครือข่าย หลักประกันสุขภาพโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มงานเวชกรรมสังคม เวชภัณฑ์และสิ่งจำเป็นอื่น ๆ ร่วมกับพยาบาลเรือนจำ ดำเนินกิจกรรมการดูแลสุขภาพผู้ต้องขัง และทำให้ผู้ต้องขังเข้าถึงบริการสาธารณะสุขอันมีมาตรฐาน และประสิทธิภาพที่พึงจะได้รับอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น บรรยายภาพ//นายสนั่น พงษ์อักษร รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นายภัทรพงศ์ หมวกสกุล ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ร่วมกันเปิดหน่วยบริการปฐมภูมิสถานพยาบาลในเรือนจำ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อให้ผู้ต้องขังเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขพื้นฐานที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกัน การให้การรักษาพยาบาล รวมทั้งฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ต้องขังป่วย