การแข่งขันเทควันโดชิงแชมป์โลก 2019 รายการ "แมนเชสเตอร์ 2019 เวิลด์ เทควันโด แชมเปี้ยนชิพส์" ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ โดย "แชมป์" รายการนี้จะได้คะแนนสะสมสูงถึง 120 คะแนน และยังเป็นการเก็บคะแนนไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 อีกด้วย โดย ทีมไทย คว้ามาแล้ว 1 เหรียญทอง จาก "น้องเทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ รุ่น 49 กก.หญิง ซึ่งเป็นแชมป์โลก สมัยที่ 2 หลังจากเคยทำได้ในรุ่น 46 กก.หญิง เมื่อปี 2015 ที่รัสเซีย กับ 1 เหรียญทองแดง จาก "น้องเหมี่ยว" จุฬานันท์ ขันติกุลานนท์ รุ่น 46 กก.หญิง
ล่าสุด เมื่อคืนวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย จอมเตะไทย ผ่านเข้าลุ้นแชมป์อีก 1 รุ่น คือ รุ่น 53 กก.หญิง รอบชิงชนะเลิศ โดย "น้องนก" พรรณนภา หาญสุจินต์ พบกับ ทาตินนา คูดาโชวา จากรัสเซีย ปรากฎว่า ตลอก 3 ยก "น้องนก" อาศัยชั้นเชิงการออกอาวุธที่เหนือกว่า ไล่เตะทำคะแนนเอาชนะไป 20-10 คะแนน คว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ และเป็นเหรียญทองที่ 2 ของทีมเทควันโดไทย ต่อจาก พาณิภัค อีกด้วย พร้อมรับคะแนนสะสม 120 คะแนน รวมถึงเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ อีก 1 ล้านบาท สรุปในศึกเทควันโดชิงแชมป์โลก 2019 ครั้งนี้ ทีมจอมเตะไทย คว้ามาได้ 2 ทอง กับ 1 ทองแดง
หลังจบเกม พรรณนภา กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่สามารถปลดล็อกตัวเองได้สำเร็จ หลังจากก่อนหน้านี้ไปแข่งมักจะไม่มีเหรียญรางวัลเลย เหรียญทองรายการนี้เป็นเหรียญที่ใหญ่ที่สุดในการติดทีมชาติมา 6 ปี ซึ่งต้องขอบคุณ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย และโค้ชเช ยอง ซอก ที่ให้โอกาสมาตลอด หลังจากนี้กลับไปฝึกซ้อมเพื่อเพื่อสร้างความสำเร็จในรายการอื่นๆ ต่อไป ที่สำคัญในปีหน้าจะขอคว้าโควตาไปแข่งโอลิมปิกเกมส์ 2020 ให้ได้อีกครั้ง
ขณะที่ โค้ชเช ยอง ซอก กล่าวว่า ดีใจมากที่นักกีฬาไทยทำได้และคว้าแชมป์โลกมาได้ถึง 2 คน สำหรับ พรรณนภา นั้น ก่อนหน้านี้ มีปัญหาเรื่องความมั่นใจ แข่งแล้วกังวัลกลัวแพ้ การมาได้แชมป์โลกที่เมืองแมนเชสเตอร์ ต้องชื่นชมในความตั้งใจ ทั้งฝึกซ้อมและแข่งขัน ซึ่งตนขอยืนยันว่าจะถือธงชาติไทย ร่วมวิ่งกับนักกีฬาไทยบนเวทีเทควันโด ที่ประเทศญี่ปุ่น ในโอลิมปิกเกมส์ เพื่อฉลองเหรียญทองแรกของกีฬาเทควันโดไทยด้วย
ด้าน "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ กล่าวว่า ผลงาน 2 ทอง 1 ทองแดง ถือเป็นผลงานประวัติศาสตร์ของไทยในศึกชิงแชมป์โลก การที่ พาณิภัค ได้แชมป์ เป็นการชนะด้านจิตวิทยา เราชนะตำนานอย่าง หวู จิง หยู เจ้าของ 2 เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ มาได้ เป็นการเพิ่มกำลังใจได้อย่างมาก ส่วน พรรณนภา ก็เฉียดไปเฉียดมาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้เอาชนะท็อป 10 ของโลกได้ และยังเอาชนะมือ 1 ของโลกอย่าง ทาตินนา คูดาโชวา ได้ ถือว่ายอดเยี่ยมมาก ซึ่งผลงานของทีมเทควันโดไทยครั้งนี้เมื่อคิดคะแนนรวมเราน่าจะได้อันดับ 3 ของโลก และน่าจะสร้างความสุขให้กับคนไทยทั้งประเทศด้วย
ส่วน "เสี่ยบิ๊ก" ธนฑิตย์ รักตะบุตร เลขาธิการสมาคมฯ และผู้จัดการทีม กล่าวว่า ดีใจที่เห็นนักกีฬาไทยคว้าแชมป์โลกได้ถึง 2 คน เชื่อว่าในรายการต่อๆ ไป จอมเตะไทย จะประสบความสำเร็จคว้าเหรียญรางวัลมาได้อย่างต่อเนื่องแน่นอน
สรุป จอมเตะไทย คว้าแชมป์โลกมาแล้วทั้งหมด 6 แชมป์ ซึ่ง พรรณนภา หาญสุจินต์ เป็นแชมป์โลกคนที่ 5 ต่อจาก พาณิภัค ที่ทำได้ 2 ครั้ง คือ รุ่น 49 กก.หญิง ปี 2019 กับ รุ่น 46 กก.หญิง ปี 2015 ที่รัสเซีย, "น้องเล็ก" ชนาธิป ซ้อนขำ รุ่น 49 กก.หญิง ปี 2013 ที่เม็กซิโก, "แม็ก" ชัชวาล ขาวละออ รุ่น 54 กก.ชาย ปี 2011 และ รังสิยา นิสัยสม รุ่น 62 กก.หญิง ปี 2011 ที่เกาหลีใต้ โดยทีมไทย ทำผลงานในศึกเทควันโดโลก รวมกันแล้ว 6 ทอง 6 เงิน และ 15 ทองแดง.
หลังจบเกม พรรณนภา กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่สามารถปลดล็อกตัวเองได้สำเร็จ หลังจากก่อนหน้านี้ไปแข่งมักจะไม่มีเหรียญรางวัลเลย เหรียญทองรายการนี้เป็นเหรียญที่ใหญ่ที่สุดในการติดทีมชาติมา 6 ปี ซึ่งต้องขอบคุณ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย และโค้ชเช ยอง ซอก ที่ให้โอกาสมาตลอด หลังจากนี้กลับไปฝึกซ้อมเพื่อเพื่อสร้างความสำเร็จในรายการอื่นๆ ต่อไป ที่สำคัญในปีหน้าจะขอคว้าโควตาไปแข่งโอลิมปิกเกมส์ 2020 ให้ได้อีกครั้ง
ขณะที่ โค้ชเช ยอง ซอก กล่าวว่า ดีใจมากที่นักกีฬาไทยทำได้และคว้าแชมป์โลกมาได้ถึง 2 คน สำหรับ พรรณนภา นั้น ก่อนหน้านี้ มีปัญหาเรื่องความมั่นใจ แข่งแล้วกังวัลกลัวแพ้ การมาได้แชมป์โลกที่เมืองแมนเชสเตอร์ ต้องชื่นชมในความตั้งใจ ทั้งฝึกซ้อมและแข่งขัน ซึ่งตนขอยืนยันว่าจะถือธงชาติไทย ร่วมวิ่งกับนักกีฬาไทยบนเวทีเทควันโด ที่ประเทศญี่ปุ่น ในโอลิมปิกเกมส์ เพื่อฉลองเหรียญทองแรกของกีฬาเทควันโดไทยด้วย
ด้าน "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ กล่าวว่า ผลงาน 2 ทอง 1 ทองแดง ถือเป็นผลงานประวัติศาสตร์ของไทยในศึกชิงแชมป์โลก การที่ พาณิภัค ได้แชมป์ เป็นการชนะด้านจิตวิทยา เราชนะตำนานอย่าง หวู จิง หยู เจ้าของ 2 เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ มาได้ เป็นการเพิ่มกำลังใจได้อย่างมาก ส่วน พรรณนภา ก็เฉียดไปเฉียดมาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้เอาชนะท็อป 10 ของโลกได้ และยังเอาชนะมือ 1 ของโลกอย่าง ทาตินนา คูดาโชวา ได้ ถือว่ายอดเยี่ยมมาก ซึ่งผลงานของทีมเทควันโดไทยครั้งนี้เมื่อคิดคะแนนรวมเราน่าจะได้อันดับ 3 ของโลก และน่าจะสร้างความสุขให้กับคนไทยทั้งประเทศด้วย
ส่วน "เสี่ยบิ๊ก" ธนฑิตย์ รักตะบุตร เลขาธิการสมาคมฯ และผู้จัดการทีม กล่าวว่า ดีใจที่เห็นนักกีฬาไทยคว้าแชมป์โลกได้ถึง 2 คน เชื่อว่าในรายการต่อๆ ไป จอมเตะไทย จะประสบความสำเร็จคว้าเหรียญรางวัลมาได้อย่างต่อเนื่องแน่นอน
สรุป จอมเตะไทย คว้าแชมป์โลกมาแล้วทั้งหมด 6 แชมป์ ซึ่ง พรรณนภา หาญสุจินต์ เป็นแชมป์โลกคนที่ 5 ต่อจาก พาณิภัค ที่ทำได้ 2 ครั้ง คือ รุ่น 49 กก.หญิง ปี 2019 กับ รุ่น 46 กก.หญิง ปี 2015 ที่รัสเซีย, "น้องเล็ก" ชนาธิป ซ้อนขำ รุ่น 49 กก.หญิง ปี 2013 ที่เม็กซิโก, "แม็ก" ชัชวาล ขาวละออ รุ่น 54 กก.ชาย ปี 2011 และ รังสิยา นิสัยสม รุ่น 62 กก.หญิง ปี 2011 ที่เกาหลีใต้ โดยทีมไทย ทำผลงานในศึกเทควันโดโลก รวมกันแล้ว 6 ทอง 6 เงิน และ 15 ทองแดง.