มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ได้รับเกียรติจาก “ดร.อัง จูเลียน” ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมานุษยวิทยา จากประเทศกัมพูชา มาเป็น Visiting Professor ที่มหาวิทยาลัยเป็นเวลา 2 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
ท่านโลกครู (คำว่า “อาจารย์” ในภาษาเขมรจะหมายถึง บุคคลผู้ประกอบพิธีกรรม ในทีนี้จึงใช้ “โลกครู” แปลว่า “คุณครู”) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี ที่ได้ศึกษาค้นคว้า และมีงานวิชาการตีพิมพ์เผยแพร่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
สัปดาห์ก่อนที่ห้องประชุมสายสัมพันธ์จันทรา อาคารสำนักงานอธิการบดี โลกครูได้พาเราย้อนเวลาเดินทางไปกัมพูชา ในสมัยยุค “องโก” หรือสมัยยุค “เมืองพระนคร” ช่วงที่กัมพูชารุ่งเรืองถึงขีดสุด
อย่างที่รู้กันว่าในกัมพูชามีปราสาทมากมาย ที่มีชื่อเสียงระดับโลกก็อย่างปราสาทนครวัด ในจังหวัดเสียมเรียบ การสร้างปราสาทของพระเจ้าแผ่นดินมีหลายวัตถุประสงค์ แต่ก็ล้วนแสดงความยิ่งใหญ่ของพระองค์ แสดงถึงพระบารมีที่สามารถเนรมิตให้บังเกิดสิ่งก่อสร้างใหญ่โตสวยงามเกินกว่าวิทยาการในช่วงเวลานั้นจะเชื่อว่าทำได้
แต่ก็ไม่ได้มีเพียงกษัตริย์เท่านั้นที่สร้างปราสาท เพราะยังมีขุนนางที่สร้างปราสาทเอาไว้ แล้วยังหลงเหลือมาถึงปัจจุบัน แถมยังเป็นปราสาทชื่อดังที่นักท่องเที่ยวต้องไปชมให้ได้ ปราสาทแห่งนี้อยู่ในเขตจังหวัดเสียมเรียบ นั่นก็คือ “ปราสาทบ่อนเตียเสร็ย” หรือที่คนไทยคุ้นกันว่า “บันท้ายศรี” นั่นแหละ
ปราสาทหลังนี้สร้างโดยขุนนางผู้หนึ่ง ที่รับราชการอยู่ในรัชกาลของ “พระเจ้าราเชนทรวรมัน” กษัตริย์ผู้ซึ่งย้ายเมืองหลวงจากเกาะเก กลับมาที่เมืองพระนครอีกครั้งในปี ค.ศ. 944 หลัง “พระเจ้าชัยวรมันที่ 4” ทรงย้ายเมืองหลวงจากยโสธร (อ่านว่ายะโสธะระ) ไปที่อยู่นั่นถึงประมาณ 20 ปี (คนเขมรไม่จำชื่อยโสธรแต่จะจำชื่อองโก)
ปราสาทบ่อนเตียเสร็ย หรือบันท้ายศรีถูกสร้างที่เมืองพระนครนี่เอง แม้เป็นเพียงปราสาทหลังเล็กๆ แต่ก็สวยงามมาก เป็นปราสาทแบบศาสนาพราหมณ์ เสียดายขุนนางผู้นี้รับราชการในสมัยพระเจ้าราเชนทรวรมันได้เพียง 1 ปี พระองค์ก็สวรรคต แต่ก็ได้รับราชการต่อมาในสมัย “พระเจ้าชัยวรมันที่ 5” ผู้เป็นพระโอรส
ความแตกต่างที่ชัดเจนของปราสาทกษัตริย์ กับปราสาทขุนนาง เห็นชัดตรงที่ปราสาทกษัตริย์จะสร้างบนฐานยกสูงขึ้นไปเป็นชั้น เหมือนพิระมิด นักวิชาการเชื่อว่าได้รับอิทธิพลมาจากบุโรพุทโธ ที่อินโดนีเซีย ส่วนปราสาทขุนนางจะไม่สร้างลักษณะนี้ โลกครูบอกว่า เขาเชื่อว่าเพื่อเป็นการแสดงความเจียมตัวไม่แข่งบุญแข่งวาสนา
พระเจ้าราเชนทรวรมัน พอย้ายเมืองหลวงกลับมาแล้วก็สร้างปราสาทน้อยใหญ่ หนึ่งในที่สำคัญก็คือ “ปราสาทแปรรูป” ซึ่งตั้งขึ้นไปบนฐานพิรามิดสูง ที่ปราสาทแห่งนี้ด้านในมีศิลาจารึกภาษาสันสกฤต ที่ใหญ่ที่สุดและยาวที่สุดในกัมพูชาอยู่
กระนั้น ปราสาทหลังแรกที่มีการสร้างบนฐานสูงขึ้นเป็นชั้นๆ นั้น คือ “ปราสาทบาโกง” ที่สร้างตั้งแต่สมัย “พระเจ้าอินทรวรมัน” กษัตริย์ผู้ที่เริ่มทำให้องโก หรือเมืองพระนครยิ่งใหญ่ ซึ่งในศิลาจารึกบอกว่า หลังจากครองราชย์ 5 วัน ก็จะทรงขุดบาราย (สระน้ำ) ที่ใหญ่กว่าปกติ มีความกว้างถึง 800 เมตร ยาวกว่า 3 กิโลเมตร ในสมัยพันกว่าปีก่อน แล้วใช้ชื่อว่า “อินทรปตากะ”
“ปราสาทบาโกง” นั้น สร้างขึ้นหลังจาก “ปราสาทพระโค” 2 ปี ที่ทรงสร้างปราสาทพระโค ซึ่งเป็นกลุ่มปราสาท 6 หลังก่อน ก็เพื่ออุทิศถวายให้บรรพบุรุษ ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมของกัมพูชาที่กษัตริย์ต้องสร้างปราสาทถวายบรรพบุรุษ ก่อนสร้างปราสาทตัวเอง เหมือนอย่าง “ปราสาทตาพรม” ซึ่งทั่วโลกรู้จักเพราะเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ ทูมไรเดอร์ ซึ่ง “พระเจ้าสุริยวรมันที่ 7” สร้างถวายพระราชมารดา และ "ปราสาทพระขรรค์" ที่ทรงสร้างถวายพระราชบิดา เป็นต้น
แค่เรื่องปราสาทก็ฟังโลกครูจนเพลิน เดินทางครั้งหน้า ศึกษาประวัติศาสตร์ไปบ้าง จะได้รู้ที่มาที่ไป เพราะทุกที่มีเรื่องราว เวลาไปดูไปเห็นของจริงจะได้อิน ไม่ใช่ว่าสวยงามเพราะแค่ดูใหญ่โต หรือพลาดไปเพราะมองเห็นเป็นกองหินธรรมดา