ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 11.00 น. วันนี้ (15 พ.ค.62) พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้นำตัว นางสาวเบญจวรรณ ไทยเจีย และนายวัชรพงค์ ไทยเจีย 2 ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุฆ่า นายทรงศักดิ์ เพิ่มสุข หรือ อบต.เย๋ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลวังใหม่ แล้วนำไปฝั่งดินในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลเข้มข้นในช่วงของการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หวั่นผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ถูกรุมประชาทัณฑ์ โดยจุดแรก เริ่มจากที่บ้านพักของ นายทรงศักดิ์ ที่เป็นจุดที่ นายทรงศักดิ์ ถูกนางสาวเบญจวรรณ สังหาร โดยการใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงที่ศีรษะ นายทรงศักดิ์ ขณะ นายทรงศักดิ์ นอนหลับอยู่บนโทฟาภายในบ้านพัก โดยนางสาวเบญจวรรณ ให้การว่าได้ใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิง นายทรงศักดิ์ จำนวน 3 นัด 2 นัดแรกไกปืนไปติดกับผ้า และผ้าห่ม ทำให้ยิงไม่ออก ก่อนจะยิงนัดที่ 3 โดยการยิงผ่านหมอนเพื่อเก็บเสียงเป็นผลสำเร็จ กระสุนเจาะเข้าที่ศีรษะเสียชีวิต
จากนั้นนางสาวเบญจวรรณ จึงได้ทิ้งศพ นายทรงศักดิ์ ไว้ภายในบ้านโดยการเปิดแอร์ทิ้งไว้ จากนั้นนางสาวเบญจวรรณ จึงได้โทรหา นายวัชรพงค์ น้องชาย เพื่อให้มาช่วยในการนำศพ นายทรงศักดิ์ ขึ้นรถยนต์ เพื่อเข้าไปในสวนทุเรียนที่เป็นสวนของ นางสาวเบญจวรรณ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้พาผู้ต้องหาไปยังจุดที่ 2 คือ จุดที่นำร่าง นายทรงศักดิ์ มาฝังดิน โดยนางสาวเบญจวรรณ ให้นายวัชรพงค์ ไปขอยืมรถแบ็คโฮจากพี่ชาย โดยอ้างว่าจะยืมรถไปปรับพื้นที่ ภายในสวนทุเรียน พี่ชายจึงได้ให้รถแบ็คโฮมา ก่อนที่นางสาวเบญจวรรณ และนายวัชรพงค์ จะช่วยกันนำรถแบ็คโฮทำการขุดหลุมที่มีความลึกกว่า 3 เมตร เพื่อฝังร่าง นายทรงศักดิ์ เพื่ออำพรางคดี
ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรท่าใหม่ เร่งสืบสวนหาหลักฐานจนนำไปสู่ความจริง และจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ในที่สุด ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง เพราะเกิดความระหวาดระแวงว่าจะถูกผู้ตายฆ่า เนื่องจากผู้ตายเคยขู่ฆ่าผู้ต้องหาและลูกมาแล้วหลายครั้ง ประกอบกับในช่วงที่เกิดเหตุผู้ต้องหาได้มีปากเสียงกับผู้ตายอย่างรุนแรง และผู้ต้องหามีอาการเมาสุราจึงเกิดบันดาลโทสะก่อนที่จะก่อเหตุในครั้งนี้ขึ้น ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหา นางสาวเบญจวรรณ ไทยเจีย ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ปิดบังซ่อนเร้นศพเพื่อปกปิดการตาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายวัชรพงค์ น้องชายผู้ต้องหา ถูกตั้งข้อหา เป็นผู้ที่ช่วยเหลือปิดบังซ่อนเร้นศพ
จากนั้นนางสาวเบญจวรรณ จึงได้ทิ้งศพ นายทรงศักดิ์ ไว้ภายในบ้านโดยการเปิดแอร์ทิ้งไว้ จากนั้นนางสาวเบญจวรรณ จึงได้โทรหา นายวัชรพงค์ น้องชาย เพื่อให้มาช่วยในการนำศพ นายทรงศักดิ์ ขึ้นรถยนต์ เพื่อเข้าไปในสวนทุเรียนที่เป็นสวนของ นางสาวเบญจวรรณ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้พาผู้ต้องหาไปยังจุดที่ 2 คือ จุดที่นำร่าง นายทรงศักดิ์ มาฝังดิน โดยนางสาวเบญจวรรณ ให้นายวัชรพงค์ ไปขอยืมรถแบ็คโฮจากพี่ชาย โดยอ้างว่าจะยืมรถไปปรับพื้นที่ ภายในสวนทุเรียน พี่ชายจึงได้ให้รถแบ็คโฮมา ก่อนที่นางสาวเบญจวรรณ และนายวัชรพงค์ จะช่วยกันนำรถแบ็คโฮทำการขุดหลุมที่มีความลึกกว่า 3 เมตร เพื่อฝังร่าง นายทรงศักดิ์ เพื่ออำพรางคดี
ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรท่าใหม่ เร่งสืบสวนหาหลักฐานจนนำไปสู่ความจริง และจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ในที่สุด ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง เพราะเกิดความระหวาดระแวงว่าจะถูกผู้ตายฆ่า เนื่องจากผู้ตายเคยขู่ฆ่าผู้ต้องหาและลูกมาแล้วหลายครั้ง ประกอบกับในช่วงที่เกิดเหตุผู้ต้องหาได้มีปากเสียงกับผู้ตายอย่างรุนแรง และผู้ต้องหามีอาการเมาสุราจึงเกิดบันดาลโทสะก่อนที่จะก่อเหตุในครั้งนี้ขึ้น ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหา นางสาวเบญจวรรณ ไทยเจีย ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ปิดบังซ่อนเร้นศพเพื่อปกปิดการตาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายวัชรพงค์ น้องชายผู้ต้องหา ถูกตั้งข้อหา เป็นผู้ที่ช่วยเหลือปิดบังซ่อนเร้นศพ