ชาวบ้าน ต.ดอนอะราง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ กว่า 200 ครัวเรือนใช้พื้นที่ว่างรอบตัวบ้าน และปรับพื้นที่ที่เคยปลูกมันสำปะหลังประสบปัญหาราคาตกต่ำ ปลูกเงาะโรงเรียนดินภูเขาไฟขาย มีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่บางช่วงผลผลิตออกไม่ทันความต้องการของตลาด สร้างรายได้ครัวเรือนละ 2-3 หมื่นบาท
วันนี้(14 พ.ค.62) ชาวบ้านตำบลดอนอะราง อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ใช้พื้นที่ว่างรอบตัวบ้าน และปรับพื้นที่ที่เคยปลูกมันสำปะหลังแต่ประสบปัญหาราคาตกต่ำ ปลูกเงาะโรงเรียนดินภูเขาไฟขาย ทั้งปลีกและส่งตั้งแต่ครัวเรือนละ 12 ต้น ถึง 2 ไร่ โดยเงาะโรงเรียนที่ชาวบ้านตำบลดอนอะรางปลูก จะมีรสชาติหวาน กรอบอร่อย และเปลือกบาง ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดและผู้บริโภค บางช่วงผลผลิตออกไม่ทันความต้องการของตลาด
ปัจจุบันมีพ่อค้าแม่ค้าขายผลไม้มารับซื้อถึงที่ โดยหากเป็นเงาะคละไซด์จะขายส่งในราคากิโลกรัมละ 15 บาท หากคัดไซด์ราคากิโลกรัมละ 18 บาท หากชาวบ้านคนไหนนำไปวางขายปลีกก็จะขายในราคากิโลกรัมละ 35 บาท 3 กิโลกรัม 100 บาท ทำให้ชาวบ้านมีรายได้จากการปลูกเงาะโรงเรียนดินภูเขาไฟขายเฉลี่ยครัวเรือนละ 20,000 – 30,000 บาทต่อปี และบางรายยังได้ทดลองปลูกมังคุด และทุเรียน คาดว่าหากสามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว จะทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น
นายสุภาพ พวงพลี ชาวบ้านบ้านโนนพะยอม ตำบลดอนอะราง อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ บอกว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพค้าขายแต่รายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในครอบครัว จึงหันมามะละกอพันธุ์ฮอนแลนด์ขายก็ได้รับการตอบรับดี กระทั่งหน่วยงานภาครัฐได้เข้ามาส่งเสริมให้ปลูกเงาะโรงเรียน ก็ได้ทดลองปลูกโดยวิธีติดตั้งระบบสปริงเกอร์เพื่อดึงน้ำหล่อเลี้ยง เนื่องจากเป็นพื้นที่แห้งแล้ง ก็ประสบผลสำเร็จสามารถเก็บผลผลิตขายได้ทั้งมะละกอและเงาะ ทำให้มีรายได้เฉลี่ยปีละ 4 – 5 หมื่นบาท สามารถส่งลูกเรียนจนจบและเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี และขณะนี้กำลังทดลองปลูกมังคุด และทุเรียนเพิ่มเติมอีก
ด้านนายสุลัย แสนสุข ผู้ใหญ่บ้านโนนพะยอม ตำบลดอนอะราง อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ บอกว่า ส่วนมากชาวบ้านในหมู่บ้านจะทำไร่มันสำปะหลัง แต่ที่ผ่านมาก็จะประสบปัญหาเรื่องราคาตกต่ำ หลังจากมีหน่วยงานราชการเข้ามาให้คำแนะนำส่งเสริม พร้อมจัดหาต้นพันธุ์เงาะโรงเรียนมาให้ทดลองปลูกในพื้นที่ว่างรอบตัวบ้าน และปรับพื้นที่ที่เคยปลูกมันหันไปปลูกเงาะโรงเรียน ก็ประสบผลสำเร็จสามารถเก็บผลผลิตขายสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านครัวเรือนละ 2 – 3 หมื่นบาท และขณะนี้ก็มีชาวบ้านในหมู่บ้านอื่นในพื้นที่ ต.ดอนอะราง ก็เริ่มหันมาปลูกเงาะโรงเรียนเกือบ 200 ครัวเรือนแล้ว ส่วนตลาดก็ไม่มีปัญหาเพราะสามารถวางขายหน้าบ้าน ทั้งยังมีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่อีกด้วย
วันนี้(14 พ.ค.62) ชาวบ้านตำบลดอนอะราง อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ใช้พื้นที่ว่างรอบตัวบ้าน และปรับพื้นที่ที่เคยปลูกมันสำปะหลังแต่ประสบปัญหาราคาตกต่ำ ปลูกเงาะโรงเรียนดินภูเขาไฟขาย ทั้งปลีกและส่งตั้งแต่ครัวเรือนละ 12 ต้น ถึง 2 ไร่ โดยเงาะโรงเรียนที่ชาวบ้านตำบลดอนอะรางปลูก จะมีรสชาติหวาน กรอบอร่อย และเปลือกบาง ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดและผู้บริโภค บางช่วงผลผลิตออกไม่ทันความต้องการของตลาด
ปัจจุบันมีพ่อค้าแม่ค้าขายผลไม้มารับซื้อถึงที่ โดยหากเป็นเงาะคละไซด์จะขายส่งในราคากิโลกรัมละ 15 บาท หากคัดไซด์ราคากิโลกรัมละ 18 บาท หากชาวบ้านคนไหนนำไปวางขายปลีกก็จะขายในราคากิโลกรัมละ 35 บาท 3 กิโลกรัม 100 บาท ทำให้ชาวบ้านมีรายได้จากการปลูกเงาะโรงเรียนดินภูเขาไฟขายเฉลี่ยครัวเรือนละ 20,000 – 30,000 บาทต่อปี และบางรายยังได้ทดลองปลูกมังคุด และทุเรียน คาดว่าหากสามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว จะทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น
นายสุภาพ พวงพลี ชาวบ้านบ้านโนนพะยอม ตำบลดอนอะราง อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ บอกว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพค้าขายแต่รายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในครอบครัว จึงหันมามะละกอพันธุ์ฮอนแลนด์ขายก็ได้รับการตอบรับดี กระทั่งหน่วยงานภาครัฐได้เข้ามาส่งเสริมให้ปลูกเงาะโรงเรียน ก็ได้ทดลองปลูกโดยวิธีติดตั้งระบบสปริงเกอร์เพื่อดึงน้ำหล่อเลี้ยง เนื่องจากเป็นพื้นที่แห้งแล้ง ก็ประสบผลสำเร็จสามารถเก็บผลผลิตขายได้ทั้งมะละกอและเงาะ ทำให้มีรายได้เฉลี่ยปีละ 4 – 5 หมื่นบาท สามารถส่งลูกเรียนจนจบและเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี และขณะนี้กำลังทดลองปลูกมังคุด และทุเรียนเพิ่มเติมอีก
ด้านนายสุลัย แสนสุข ผู้ใหญ่บ้านโนนพะยอม ตำบลดอนอะราง อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ บอกว่า ส่วนมากชาวบ้านในหมู่บ้านจะทำไร่มันสำปะหลัง แต่ที่ผ่านมาก็จะประสบปัญหาเรื่องราคาตกต่ำ หลังจากมีหน่วยงานราชการเข้ามาให้คำแนะนำส่งเสริม พร้อมจัดหาต้นพันธุ์เงาะโรงเรียนมาให้ทดลองปลูกในพื้นที่ว่างรอบตัวบ้าน และปรับพื้นที่ที่เคยปลูกมันหันไปปลูกเงาะโรงเรียน ก็ประสบผลสำเร็จสามารถเก็บผลผลิตขายสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านครัวเรือนละ 2 – 3 หมื่นบาท และขณะนี้ก็มีชาวบ้านในหมู่บ้านอื่นในพื้นที่ ต.ดอนอะราง ก็เริ่มหันมาปลูกเงาะโรงเรียนเกือบ 200 ครัวเรือนแล้ว ส่วนตลาดก็ไม่มีปัญหาเพราะสามารถวางขายหน้าบ้าน ทั้งยังมีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่อีกด้วย