สำนักประสานภารกิจด้านความมั่นคงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กองทัพเรือลงพื้นที่อู่ต่อเรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จันทบุรี ตรวจการใช้ประโยชน์จากเรือรบหลวงโพธิ์สามต้นหลังเวลาผ่านไป 6 ปี จอดผุพังไร้การบูรณะ
วันที่ 13 พฤษภาคม 2562 เวลา 16.00 น.พลเรือโทเชษฐา ใจเปี่ยม ผู้อำนวยการสำนักประสานภารกิจด้านความมั่นคงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กองทัพเรือพร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจสอบการใช้ประโยชน์จากเรือรบหลวงโพธิ์สามต้น ที่เคยมีประวัติความเป็นมายาวนาน โดยมีนายนิพนธ์ เนินริมหนอง ประธานมูลนิธิอนุสรณ์สถานอู่ต่อเรือบ้านเสม็ดงามและผู้นำชุมชน เข้าร่วมชี้แจง ซึ่งเรือรบหลวงโพธิ์สามต้น เป็นเรือกวาดทุ่นระเบิดใกล้ฝั่ง ความยาว 67.50 เมตร ความกว้าง 10.68 เมตร และเป็นเรือที่ต่อขึ้นจากอู่ต่อเรือเลกเฟิร์นคอนสตรักชั่น เมืองโทรอนโด ประเทศแคนาดา ขึ้นระวางประจำการวันที่ 20 พ.ย. ปี 2490 แต่เดิมหมายเลขประจำเรือ คือ หมายเลข 1 ต่อมาเปลี่ยนเป็น 415 และเดิมเรือลำนี้คือเรือ HMS นิวสเตอร์ ซึ่งสหราชอาณาจักร มอบให้ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 9 เม.ย.2490
จากนั้นวันที่ 4 เม.ย. 2496 ได้กลายเป็นเรือฝึกนักเรียนนายเรือ และเดินทางไปร่วมงานสวนสนาม ทางเรือในพิธีราชาภิเษก พระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ที่ประเทศอังกฤษ หลังเรือรบหลวงถูกปลดประจำการ ต่อมาได้มีการอัญเชิญเรือหลวงโพธิ์สามต้น มาจากอู่กรมทหารเรือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เพื่อนำมาที่อู่ต่อเรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช บ้านเสม็ดงาม จังหวัดจันทบุรี ในครั้งนั้น โดยใช้งบประมาณในการลากเรือมาที่จันทบุรี จำนวน 5 ล้าน 7 แสนบาท ก่อนจะนำมาปรับปรุงซ่อมแซมให้เป็นพิพิธภัณฑ์ และเป็นแหล่งเรียนรู้อีก 23 ล้านบาท ซึ่งการนำเรือรบหลวงโพธิ์สามต้น จากอู่กรมทหารเรือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ มาประดิษฐานที่อู่ต่อเรือพระเจ้าตากมหาราชถือเป็นสถานที่เดิมที่ใช้ต่อเรือเมื่อครั้งยกทัพไปตีพม่าเพื่อกู้เอกราชของชาติ โดยมีคหบดีใน จ.สมุทรปราการ เป็นผู้บริจาคงบประมาณในการลากเรือรบหลวงโพธิ์สามต้น เพื่อนำมาจอดเทียบท่าเรือบ้านเสม็ดงาม
ต่อมามีผู้บริจาคประสบภาวะทางการเงิน จนไม่สามารถหางบประมาณ มาบำรุงซ่อมแซม เรือรบหลวงต่อ ทำให้ถูกทิ้งให้อยู่ในสภาพอย่างที่เห็น และทางจังหวัดได้เชิญผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือ โดยผลสรุปในที่ประชุมเบื้องต้น มีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน บางส่วนอยากให้นำไปทิ้งเนื่องจากเห็นว่าเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ บางส่วนอยากให้เก็บไว้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากผิดวัตถุประสงค์ของการใช้งบประมาณจำนวนดังกล่าว
ทำให้ทางกองทัพเรือต้องส่งเจ้าหน้าที่ฯมาตรวจสอบความคุ้มค่าและการใช้ประโยชน์ ของเรือรบหลวงโพธิ์สามต้นและจะได้มีการเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรีเพื่อรับทราบถึงแนวทางในการบูรณะเรือรบหลวงลำนี้ต่อไป
นายไตรรงค์ มีทับทิม/จันทบุรี 0870894201
วันที่ 13 พฤษภาคม 2562 เวลา 16.00 น.พลเรือโทเชษฐา ใจเปี่ยม ผู้อำนวยการสำนักประสานภารกิจด้านความมั่นคงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กองทัพเรือพร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจสอบการใช้ประโยชน์จากเรือรบหลวงโพธิ์สามต้น ที่เคยมีประวัติความเป็นมายาวนาน โดยมีนายนิพนธ์ เนินริมหนอง ประธานมูลนิธิอนุสรณ์สถานอู่ต่อเรือบ้านเสม็ดงามและผู้นำชุมชน เข้าร่วมชี้แจง ซึ่งเรือรบหลวงโพธิ์สามต้น เป็นเรือกวาดทุ่นระเบิดใกล้ฝั่ง ความยาว 67.50 เมตร ความกว้าง 10.68 เมตร และเป็นเรือที่ต่อขึ้นจากอู่ต่อเรือเลกเฟิร์นคอนสตรักชั่น เมืองโทรอนโด ประเทศแคนาดา ขึ้นระวางประจำการวันที่ 20 พ.ย. ปี 2490 แต่เดิมหมายเลขประจำเรือ คือ หมายเลข 1 ต่อมาเปลี่ยนเป็น 415 และเดิมเรือลำนี้คือเรือ HMS นิวสเตอร์ ซึ่งสหราชอาณาจักร มอบให้ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 9 เม.ย.2490
จากนั้นวันที่ 4 เม.ย. 2496 ได้กลายเป็นเรือฝึกนักเรียนนายเรือ และเดินทางไปร่วมงานสวนสนาม ทางเรือในพิธีราชาภิเษก พระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ที่ประเทศอังกฤษ หลังเรือรบหลวงถูกปลดประจำการ ต่อมาได้มีการอัญเชิญเรือหลวงโพธิ์สามต้น มาจากอู่กรมทหารเรือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เพื่อนำมาที่อู่ต่อเรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช บ้านเสม็ดงาม จังหวัดจันทบุรี ในครั้งนั้น โดยใช้งบประมาณในการลากเรือมาที่จันทบุรี จำนวน 5 ล้าน 7 แสนบาท ก่อนจะนำมาปรับปรุงซ่อมแซมให้เป็นพิพิธภัณฑ์ และเป็นแหล่งเรียนรู้อีก 23 ล้านบาท ซึ่งการนำเรือรบหลวงโพธิ์สามต้น จากอู่กรมทหารเรือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ มาประดิษฐานที่อู่ต่อเรือพระเจ้าตากมหาราชถือเป็นสถานที่เดิมที่ใช้ต่อเรือเมื่อครั้งยกทัพไปตีพม่าเพื่อกู้เอกราชของชาติ โดยมีคหบดีใน จ.สมุทรปราการ เป็นผู้บริจาคงบประมาณในการลากเรือรบหลวงโพธิ์สามต้น เพื่อนำมาจอดเทียบท่าเรือบ้านเสม็ดงาม
ต่อมามีผู้บริจาคประสบภาวะทางการเงิน จนไม่สามารถหางบประมาณ มาบำรุงซ่อมแซม เรือรบหลวงต่อ ทำให้ถูกทิ้งให้อยู่ในสภาพอย่างที่เห็น และทางจังหวัดได้เชิญผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือ โดยผลสรุปในที่ประชุมเบื้องต้น มีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน บางส่วนอยากให้นำไปทิ้งเนื่องจากเห็นว่าเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ บางส่วนอยากให้เก็บไว้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากผิดวัตถุประสงค์ของการใช้งบประมาณจำนวนดังกล่าว
ทำให้ทางกองทัพเรือต้องส่งเจ้าหน้าที่ฯมาตรวจสอบความคุ้มค่าและการใช้ประโยชน์ ของเรือรบหลวงโพธิ์สามต้นและจะได้มีการเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรีเพื่อรับทราบถึงแนวทางในการบูรณะเรือรบหลวงลำนี้ต่อไป
นายไตรรงค์ มีทับทิม/จันทบุรี 0870894201