จากกรณีบนโลกสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอความยาวประมาณ 2.56 นาที ซึ่งเป็นเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ก่อนเชิญตัวคนขับรถยนต์เพศชาย วัยกลางคน แต่งกายภูมิฐาน มาเป่าเครื่องวัดแอลกอฮอล์แต่กลับถูกปฏิเสธ พร้อมทั้งอ้างตนเป็นทนายความและไม่ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่รวมทั้งด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายจนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์บนสังคมออนไลน์กันอย่างกว้างขวาง คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 12 พ.ค.62 พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร. กล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง โดยก่อนเกิดเหตุขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ บก.จร.กำลังตั้งด่านตรวจกวดขันวินัยจราจรอยู่ช่วงคู่ขนานบริเวณถนนบรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม.ซึ่งเป็นพื้นที่ของ สน.ตลิ่งชัน จู่ๆ พบรถยนต์ต้องสงสัยจึงเชิญตัวคนขับลงมาตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ตามปกติ โดยอ้างตัวเป็นทนายความและไม่ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่แม้แต่อย่างใด ซึ่งเป็นเหตุการณ์เป็นไปตามที่ปรากฏในคลิปวีดีโอ พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวต่อว่า โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลใดๆได้ ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ขณะเกิดเหตุผู้ต้องหายังอยู่ในอาการมึนเมา เมื่อทางเจ้าหน้าที่เชิญตัวไปวัดค่าปริมาณแอลกอฮอล์แต่กลับถูกปฏิเสธ ซึ่งทางกฎหมายได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า บุคคลใดขัดขืนไม่ยินยอมตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์เสมือนเป็นผู้กระทำความผิด จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่จึงควบคุมตัวในทันทีแต่กลับมีปัญหาอีกครั้ง ซึ่งเป็นไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากนี้หากทางผู้ต้องหาจะฟ้องทางเจ้าหน้าที่เรื่องกักขังหน่วงเหนี่ยว และทำร้ายร่างกายก็เป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็มีหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจน ส่วนคลิปวีดีโอนั้นไม่ได้ออกมาจากทาง บก.จร. และไม่ได้เป็นผู้ออกมาแฉถึงพฤติกรรมดังกล่าว ซึ่งไม่อยากให้มองว่าถูกเจ้าหน้าที่กลั่นแกล้ง อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ตนได้กำชับกับผู้ใต้บังคับบัญชาเรื่องด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ให้ถ่ายคลิปวีดีโอเก็บไว้เป็นหลักฐาน หากพบผู้กระทำผิดก็สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย