พล.ต.ท.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วย พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ตร.ภาค 5 และ พล.ต..ต. สัณห์ โพธิ์รักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.น่าน เร่งสอบสวนคดีสะเทือนขวัญ ฆ่าโหด 2 แม่ลูก คนร้ายยิง น.ส.ศรีวรรณ ยอดออน อายุ 45 ปี และ ด.ญ.พิชญดา พรมเกศา อายุ 8 ปี เสียชีวิตภายใน ที่บ้านพัก เลขที่ 52 หมู่ที่ 5 ตำบลพญาแก้ว อ.เชียงกลาง เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2562 ที่ผ่านมาหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 และตำรวจภูธรจังหวัดน่าน นำหมายจับศาลจังหวัดน่าน สาขาปัว หมายจับที่ 21/2562 ลงวันที่ 7 พ.ค. 2562 ในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อพาทรัพย์นั้นไป ติดตามและสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหา 2 ราย คือ น.ส.จรัสพร กลิ่นหอม อายุ 36 ปี ชาว จ.สิงห์บุรี และ นายอนันต์ คชสาร อายุ 54 ปี ชาว จ.สระแก้ว ได้ที่บริเวณห้องพักเลขที่ 4 หอพักแห่งหนึ่งใน ต.ศาลาลำดวน อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี พร้อมของกลาง 15 รายการ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่มีความเชื่อมโยงกันของทั้งสองคน ทั้งนี้ได้ทำการแยกสอบสวนบุคคลทั้ง 2 ซึ่งยังให้การปฏิเสธ และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บ DNA จากร่างกายของ 2 ผู้ต้องสงสัย เพื่อทำการตรวจสอบเทียบกับหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ ทางด้าน พล.ต.ท.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวข้องกับเด็กและสตรีที่มีการใช้ความรุนแรงและโหดเหี้ยม โดยพบว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคน มีประวัติอาชญากรรม ส่วนการสืบสวนขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก แต่ขอเวลาให้ชุดสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง และมั่นใจว่าสามารถเอาผิดกับผู้ก่อเหตุครั้งนี้ได้แน่นอน ขณะที่ พล.ต.ต. ภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการ ตร.ภาค 5 เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่ทั้งนี้จากพยานหลักฐานต่างๆที่รวบรวมได้ มีความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาทั้งสองคนจนสามารถขอศาลออกหมายจับได้ นอกจากนี้เมื่อวันที่ 17 เม.ย.62 น.ส.จรัสพร ได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ในเขต อ.ท่าวังผา จ.น่าน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับการก่อเหตุฆาตกรรม และยังตรวจสอบพบเคลื่อนไหวการใช้โทรศัพท์ของผู้เสียชีวิตที่หายไป ใกล้เคียงกับเส้นทางที่ผู้ต้องหาใช้เดินทาง สำหรับมูลเหตุจูงใจลงมือสังหาร มุ่งไปที่การชิงทรัพย์ และปมแค้นความขัดแย้ง บาดหมางกันในเรื่อง ที่ผู้ต้องหารับจ้างเหมาก่อสร้างบ้านให้กับผู้เสียชีวิตเมื่อปี 2557 โดยผู้เสียชีวิตตำหนิงานก่อสร้างไม่ดี มีการทะเลาะกันรุนแรงผ่านโซเชียล จนเป็นเหตุให้ผู้ต้องหาขาดความน่าเชื่อถือไม่มีผู้ว่าจ้างงานอีก ถึงขั้นตกอัพชิงทรัพย์ร้านทอง และถูกจับกุม จนได้ไปพบกับนายอนันต์ ผู้ต้องหาอีกราย ในเรือนจำคดีฆ่าผู้อื่นตาย ซึ่งหลังพ้นโทษได้คบหากันฉันท์สามี ภรรยา รวมทั้งทราบข่าวว่าผู้ตายพึ่งกู้เงินล้านมา ซึ่งอาจเป็นอีกเหตุจูงใจให้นำพากันมาลงมือก่อเหตุดังกล่าว โดยขณะนี้เร่งสอบสวนและเก็บหลักฐานประกอบอย่างละเอียด โดยได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เก็บตัวอย่าง DNA ของผู้ต้องหาทั้งสองคน เพื่อเปรียบเทียบกับหลักฐานที่พบให้ที่เกิดเหตุ ดำเนินคดีตามกฎหมายในที่สุด