จากที่นาประสบปัญหาน้ำท่วม ในพื้นที่ อ.เมือง จ.พัทลุง ดาบตำรวจเจือ บุญปลอด อดีตข้าราชการบำนาญ ได้ปรับเปลี่ยนจากการทำนา มาทำการเกษตรแบบผสมผสาน ซึ่งภายในพื้นที่ที่ถูกปรับเปลี่ยนได้แบ่งโซนปลูกเป็น มะนาว ส้มโชกุน ส้มโอทับทิมสยาม พืชผักสวนครัว และเลี้ยงปลาในร่องสวน มีปลาพื้นถิ่นอยู่หลายชนิด ซึ่งได้กลายเป็นแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ ปลาบางตัวมีน้ำหนักถึง 6 กิโลกรัม และสามารถนำมาแปรรูปเพิ่มมูลค่า ไม่ว่าจะเป็นการนำปลาดุก ปลานิล มาทำปลาแผ่น ปลาหยอง กุนเชียงปลา ปลาเส้น ฯลฯ ส่วนด้านการผลิตสินค้าแปรรูปนั้นก็มีโรงงานเล็กๆของครอบครัว และในด้านการตลาดก็เปิดขายทางเพจเฟซบุ๊ก “ปลาแห้งแสงอาทิตย์” สามารถสั่งไปรับประทานกันได้ ซึ่งราคาจะอยู่ที่ 35 ถึง 50 บาท ถ้าสั่งในจำนวนมากก็จะซื้อได้ในราคาส่ง ถูกลงไปอีก และลูกค้าอีกส่วนหนึ่งคือผู้ที่สัญจรผ่านไปผ่านบนถนนสายเอเชีย ดาบตำรวจเจือ บุญปลอด กล่าวว่า สถานีพัฒนาที่ดินพัทลุง เข้ามาสนับสนุนในเรื่องปุ๋ยหมักและสนับสนุนสารเร่งซุปเปอร์ พด.ต่างๆ ของกรมพัฒนาที่ดิน บางครั้งก็ให้พวกวัสดุเอามาทำการผลิตปุ๋ยหมัก หรือว่าพวกหญ้าแฝก ถ้าเราต้องการหญ้าแฝกเมื่อไหร่ ก็ไปแจ้งความจำนงกับสถานีพัฒนาที่ดิน โดยสถานีพัฒนาที่ดินก็จะสนับสนุนพันธุ์หญ้าแฝกให้ ซึ่งที่ดินของเกษตรกรก็จะได้รับประโยชน์จากหญ้าแฝก ที่จะช่วยป้องกันการพังทลายของขอบบ่อ ใบของหญ้าแฝกสามารถนำมาคลุมดินได้ เพื่อรักษาความชื้นหน้าดินหรือจะตัดให้วัวให้ควายกินก็ได้ นอกจากนี้ ปุ๋ยหมักก็นำมาใส่ต้นไม้ ทำให้ต้นไม้มีการเจริญเติบโต เป็นการลดต้นทุนในการผลิต ด.ต.เจือ บุญปลอด ได้ทำการเกษตรแบบผสมผสานบนพื้นที่ของตนเอง โดยการปลูกมะนาวเป็นพืชหลัก เนื่องจากมะนาวมีรสเปรี้ยวและกลิ่นหอมของน้ำมะนาวเป็นเสน่ห์ที่ผูกใจให้ผู้กินหลายคนชื่นชอบ และยังช่วยเติมแต่งเพิ่มรสชาติให้มีความอร่อย ทั้งนี้ มะนาวในฤดูราคาจะไม่แพง มีผลผลิตออกมาจำนวนมาก มีวางขายให้ซื้อกันตั้งแต่ราคา 0.50-2.00 บาทต่อผล แต่ถ้าเป็นมะนาวนอกฤดู ผลผลิตมีน้อย ราคาก็จะแพง มีวางขายให้ซื้อกันตั้งแต่ราคา 5.00-10.00 บาทต่อผล เมื่อมะนาวมีราคาแพงแล้วเป็นที่ต้องการของตลาดจำนวนมาก ทำให้หาซื้อได้ยาก จึงทำให้ความต้องการของตลาดสูง แต่ ณ ปัจจุบันนี้ การปลูกมะนาวกลายเป็นทางเลือกหนึ่งให้ผู้ที่สนใจที่จะปลูกพืช เพื่อเป็นการสร้างรายได้เสริมตลอดทั้งปี ด้าน นายนคร เพ็ชร์บุรี นักวิชาการเกษตรชำนาญการ สถานีพัฒนาที่ดินพัทลุง กล่าวว่า สถานีพัฒนาที่ดินพัทลุง ได้เข้ามาแนะนำปรับปรุงบำรุงดิน ในตอนที่ขุดยกร่องสวน พร้อมกับนำหญ้าแฝกมาให้กับเกษตรกรปลูก เพื่อเป็นการอนุรักษ์ดินและน้ำ โดยดาบตำรวจเจือ บุญปลอด ได้เข้าร่วมเป็นหมอดินอาสาประจำตำบล และมีความรู้เรื่องดินอยู่แล้ว จึงนำความรู้มาปรับใช้ในพื้นที่ของตนเองที่เป็นนาเก่า โดยใช้ผลิตภัณฑ์ของกรมพัฒนาที่ดินต่างๆ ตั้งแต่สารเร่งซุปเปอร์ พด.1, พด.2, พด.3 และ พด.7 มาใช้ในการปรับปรุงบำรุงดิน ในตอนแรกที่เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาขุดพื้นที่ใหม่ๆ พบว่าดินไม่มีวัชพืชเลย สถานีพัฒนาที่ดินพัทลุง จึงได้แนะนำการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อปรับยกระดับความอุดมสมบูรณ์ของดิน ปรับโครงสร้างของดินให้ดีขึ้น เมื่อดินมีความอุดมสมบูรณ์ การปลูกพืชจึงเป็นเรื่องที่ง่าย เกษตรกรมีรายได้ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น