Nespresso มอบความมุ่งมั่นในพันธสัญญาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในประเทศไทย โดยตั้งแต่ปี 2560 เนสเพรสโซ ประเทศไทยได้เปิดตัวโครงการรีไซเคิลอะลูมิเนียมจากแคปซูลกาแฟที่ใช้แล้ว ที่สมาชิกของเนสเพรสโซ คลับ ในประเทศไทย สามารถส่งคืนแคปซูลกาแฟเนสเพรสโซที่ใช้แล้วได้สะดวกสบายที่ร้านเนสเพรสโซ บูติก หรือ ณ จุดจำหน่ายเครื่องชงกาแฟเนสเพรสโซ ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป
เนื่องจากอะลูมิเนียมเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติในการเก็บรักษาคุณภาพของกาแฟจากปัจจัยต่างๆ เช่น ออกซิเจน แสง และความชื้น รวมไปถึงช่วยรักษากลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังเป็นวัสดุเดียวที่สามารถตอบรับแรงดันสูง (19 บาร์) ของเครื่องชงกาแฟเนสเพรสโซได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อให้ได้กาแฟเอสเพรสโซแก้วโปรดของคุณได้อย่างมีคุณภาพ นอกจากนี้อะลูมิเนียมยังสามารถนำมารีไซเคิลได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด โดยไม่สูญเสียคุณสมบัติของอะลูมิเนียมแม้แต่น้อย
เนสเพรสโซ ประเทศไทย ได้ดำเนินการโครงการรีไซเคิลมาอย่างต่อเนื่อง และยังคงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มอัตราในการเรียกคืนแคปซูลที่ใช้แล้ว เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลให้ได้สูงสุด 100% ภายในสิ้นปี 2563 โดยจะทำการจัดเก็บรวบรวมแคปซูลเนสเพรสโซที่ใช้แล้ว เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลโดย บริษัท วงษ์พาณิชย์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการในการรีไซเคิลแบบครบวงจรและได้มาตรฐานรับรองด้านบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ซึ่งช่วยลดปัญหาที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับพันธสัญญาแห่งความยั่งยืนของเนสเพรสโซ
ในส่วนของกระบวนการรีไซเคิลแคปซูลที่ใช้แล้วนั้นเริ่มจาก การคัดแยกอะลูมิเนียมออกจากกากกาแฟ เพราะทุกส่วนประกอบในแคปซูลเนสเพรสโซได้มีการนำกลับมาใช้ใหม่ ไม่ใช่เพียงแค่บรรจุภัณฑ์อะลูมิเนียมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกากกาแฟอีกด้วย
หลังจากที่แคปซูลใช้แล้วได้ผ่านเครื่องคัดแยก จะได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นกากกาแฟและอะลูมิเนียมผสมกันอยู่ หลังจากนั้นกากกาแฟและอะลูมิเนียมจะนำเข้าเครื่องกรองเพื่อแยกระหว่างกากกาแฟและอะลูมิเนียมอีกรอบหนึ่ง โดยทั้ง 2 ส่วนจะถูกนำไปใช้ ส่วนที่ 1 - อะลูมิเนียม จะถูกนำไปบีบอัดเป็นก้อน พร้อมเตรียมเข้าทำการหลอมละลาย เพื่อนำกลับมาใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของอะลูมิเนียมอื่นๆ ส่วนที่ 2 -กากกาแฟ จะถูกนำกลับมาใช้ในรูปแบบของปุ๋ยธรรมชาติสำหรับการเกษตรกรรม ซึ่งกากกาแฟจะมีค่าไนโตรเจนสูง เหมาะแก่การเป็นปุ๋ยเพื่อสำหรับผักใบ เช่น ผักบุ้ง ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง หรือ ผักกุยช่าย โดยกากกาแฟที่ได้แล้วจะส่งไปยังแปลงผักต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยได้มีการส่งไปยังไร่ทิวะพันธุ์ และ แปลงผักภายในกองบิน 46 จังหวัดพิษณุโลก
ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าเนสเพรสโซที่อยู่ในประเทศไทย สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการรีไซเคิลไปกับเนสเพรสโซได้ เพียงแค่นำแคปซูลเนสเพรสโซที่ใช้แล้วจัดเก็บใส่ไว้ในถุงรีไซเคิลและนำมายังจุดรับแคปซูลใช้แล้วได้ที่เนสเพรสโซ บูติก ทุกสาขา รวมไปถึงจุดจำหน่ายเครื่องชงกาแฟ ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด (เชียงใหม่, ภูเก็ต, หาดใหญ่ และโคราช) โดยคุณสามารถตรวจสอบจุดรับแคปซูลที่ใช้แล้วที่ใกล้บ้านคุณได้ที่https://www.nespresso.com/th/th/how-to-recycle-coffee-capsules
และอีกหนึ่งช่องทางสำหรับลูกค้าเนสเพรสโซ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล คุณสามารถคืนแคปซูลที่ใช้แล้วได้ผ่านทางผู้ให้บริการส่งสินค้าได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เลือกรับบริการคืนแคปซูลที่ใช้แล้วผ่านทางหน้าต่างสั่งซื้อสินค้าในช่องทางเว็บไซต์ หรือทางแอปพลิเคชั่น
อนึ่ง เนสเพรสโซพร้อมมอบถุงรีไซเคิล หากคุณระบุความต้องการเมื่อสั่งซื้อสินค้าผ่านทางทุกช่องทาง หรือสามารถมารับได้ที่เนสเพรสโซ บูติก เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับคุณในการเก็บและจัดส่งแคปซูลที่ใช้แล้วให้กับเนสเพรสโซ ... ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการรีไซเคิลไปกับเนสเพรสโซได้แล้ววันนี้ และสามารถแจ้งความต้องการถุงรีไซเคิลได้ทุกช่องทางเมื่อคุณสั่งซื้อกาแฟกับเนสเพรสโซ #NespressoTH
เนสเพรสโซ ประเทศไทย ได้ดำเนินการโครงการรีไซเคิลมาอย่างต่อเนื่อง และยังคงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มอัตราในการเรียกคืนแคปซูลที่ใช้แล้ว เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลให้ได้สูงสุด 100% ภายในสิ้นปี 2563 โดยจะทำการจัดเก็บรวบรวมแคปซูลเนสเพรสโซที่ใช้แล้ว เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลโดย บริษัท วงษ์พาณิชย์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการในการรีไซเคิลแบบครบวงจรและได้มาตรฐานรับรองด้านบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ซึ่งช่วยลดปัญหาที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับพันธสัญญาแห่งความยั่งยืนของเนสเพรสโซ
ในส่วนของกระบวนการรีไซเคิลแคปซูลที่ใช้แล้วนั้นเริ่มจาก การคัดแยกอะลูมิเนียมออกจากกากกาแฟ เพราะทุกส่วนประกอบในแคปซูลเนสเพรสโซได้มีการนำกลับมาใช้ใหม่ ไม่ใช่เพียงแค่บรรจุภัณฑ์อะลูมิเนียมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกากกาแฟอีกด้วย
หลังจากที่แคปซูลใช้แล้วได้ผ่านเครื่องคัดแยก จะได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นกากกาแฟและอะลูมิเนียมผสมกันอยู่ หลังจากนั้นกากกาแฟและอะลูมิเนียมจะนำเข้าเครื่องกรองเพื่อแยกระหว่างกากกาแฟและอะลูมิเนียมอีกรอบหนึ่ง โดยทั้ง 2 ส่วนจะถูกนำไปใช้ ส่วนที่ 1 - อะลูมิเนียม จะถูกนำไปบีบอัดเป็นก้อน พร้อมเตรียมเข้าทำการหลอมละลาย เพื่อนำกลับมาใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของอะลูมิเนียมอื่นๆ ส่วนที่ 2 -กากกาแฟ จะถูกนำกลับมาใช้ในรูปแบบของปุ๋ยธรรมชาติสำหรับการเกษตรกรรม ซึ่งกากกาแฟจะมีค่าไนโตรเจนสูง เหมาะแก่การเป็นปุ๋ยเพื่อสำหรับผักใบ เช่น ผักบุ้ง ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง หรือ ผักกุยช่าย โดยกากกาแฟที่ได้แล้วจะส่งไปยังแปลงผักต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยได้มีการส่งไปยังไร่ทิวะพันธุ์ และ แปลงผักภายในกองบิน 46 จังหวัดพิษณุโลก
ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าเนสเพรสโซที่อยู่ในประเทศไทย สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการรีไซเคิลไปกับเนสเพรสโซได้ เพียงแค่นำแคปซูลเนสเพรสโซที่ใช้แล้วจัดเก็บใส่ไว้ในถุงรีไซเคิลและนำมายังจุดรับแคปซูลใช้แล้วได้ที่เนสเพรสโซ บูติก ทุกสาขา รวมไปถึงจุดจำหน่ายเครื่องชงกาแฟ ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด (เชียงใหม่, ภูเก็ต, หาดใหญ่ และโคราช) โดยคุณสามารถตรวจสอบจุดรับแคปซูลที่ใช้แล้วที่ใกล้บ้านคุณได้ที่https://www.nespresso.com/th/th/how-to-recycle-coffee-capsules
และอีกหนึ่งช่องทางสำหรับลูกค้าเนสเพรสโซ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล คุณสามารถคืนแคปซูลที่ใช้แล้วได้ผ่านทางผู้ให้บริการส่งสินค้าได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เลือกรับบริการคืนแคปซูลที่ใช้แล้วผ่านทางหน้าต่างสั่งซื้อสินค้าในช่องทางเว็บไซต์ หรือทางแอปพลิเคชั่น
อนึ่ง เนสเพรสโซพร้อมมอบถุงรีไซเคิล หากคุณระบุความต้องการเมื่อสั่งซื้อสินค้าผ่านทางทุกช่องทาง หรือสามารถมารับได้ที่เนสเพรสโซ บูติก เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับคุณในการเก็บและจัดส่งแคปซูลที่ใช้แล้วให้กับเนสเพรสโซ ... ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการรีไซเคิลไปกับเนสเพรสโซได้แล้ววันนี้ และสามารถแจ้งความต้องการถุงรีไซเคิลได้ทุกช่องทางเมื่อคุณสั่งซื้อกาแฟกับเนสเพรสโซ #NespressoTH