รถตู้จู่ๆไฟไหม้วอดทั้งคันบนถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรีซวยซ้ำ พบแล้ว ทำประกันไว้กับบริษัทวิริยะประกัน แต่โชคร้ายไม่อยู่ในเงื่อนไขให้ความคุ้มครอง เหตุรถตู้ดังกล่าวซื้อประกันรถยนต์ประเภท 3 กับพ.ร.บ.ฯไว้เท่านั้น
พ.ต.อ.สีหเดช สระกอบแก้ว ผู้กำกับการ สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เปิดเผยว่า จากกรณีเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 15 ม.ค.60 ได้เกิดเหตุไฟไหม้รถตู้โดยสารยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียนป้ายเหลือง 15-0989 กรุงเทพมหานคร กรุงเทพฯ-ราชบุรี บนถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี (ขาออก กทม.) ปากทางเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 8 หมู่ 1 ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี ในเบื้องต้นได้ทราบจากคำให้การของนายศรัทธา โตแก้ว อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นผู้ขับขี่ทราบว่า ระหว่างคนขับรถตู้คันดังกล่าวได้ขับอยู่ดีๆ ก็มีเสียงแตรดังขึ้น ทางเขาก็จอดและลงจากรถไปดู พบว่าควันข้างหน้ารถ พอเปิดฝากระโปรงก็ได้เกิดไฟไหม้ ซึ่งโชคดีที่ไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตครั้งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำนานกว่า 15 นาที จึงควบคุมไฟที่ไหม้รถตู้ทังคันไว้ได้ โดยเปลวไฟได้เผาไหม้รถตู้วอดเสียหายทั้งคัน อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นทราบว่าได้จัดทำประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 ไว้กับบริษัทวิริยะประกันภัย จำกัด
รายงานข่าวจากบริษัทวิริยะประกันภัย จำกัด สาขานครปฐม แจ้งว่า รถตู้คันดังกล่าวได้จัดทำประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 ไว้กับบริษัทจริง ซึ่งจะไม่คุ้มครองความเสียหายตัวรถตู้คันที่เอาประกันและเกิดเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว เพราะประกันประเภท 3 จะให้ความคุ้มครองเฉพาะทรัพย์สินคู่กรณีในวงเงินเสียหายไม่เกิน 6 แสนบาท และความเสียหายต่อชีวิต อนามัยของบุคคลภายนอกไว้ส่วนเกินจากพ.ร.บ.ผู้ประสบภัยจากรถอีก 3 แสนบาท โดยมีระยะเวลาเอาประกันเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2560 และสิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 28 เมษายน 2560
ซึ่งประกันพ.ร.บ.ฯรถตู้คันดังกล่าวก็ได้ทำประกันกับวิริยะฯเช่นกัน แต่โชคดีที่ไม่มีผู้บาดใดบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งหากบาดเจ็บก็จะได้รับค่ารักษาพยาบาลผู้โดยสารตามพรบ.ฯไม่เกิน 8 หมื่นบาท ส่วนคนขับขี่จะได้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีบาดเจ็บเบื้องต้นไม่เกิน 35,000 บาท แต่หากเสียชีวิตผู้ขับขี่จะได้ความคุ้มครองเป็นค่าปลงศพ 35,000 บาท ส่วนผู้โดยสารในรถหากเสียชีวิต ก็จะได้ความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ฯ3 แสนบาท
ด้านนายอรัญ ศรีว่องไท ประธานคณะกรรมการกฎหมายและกฎระเบียบ สมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า ปกติการประกันรถยนต์ประเภท 3 จะไม่ให้ความคุ้มครองกรณีตัวรถตัวเองที่เอาประกันแล้วเสียหายอยู่แล้ว แต่จะคุ้มครองความเสียหายบุคคลภายนอกคือผู้โดยสารในรถตู้คันดังกล่าวหากบาดเจ็บและเสียชีวิต ยกเว้นหากรถตู้คันดังกล่าวที่ไฟไหม้ได้ซื้อประกันรถยนต์ประเภทหนึ่งหรือประเภท 2 ก็จะได้รับการชดใช้จากบริษัทประกันภัยที่รับประกันไว้ ซี่งขึ้นอยู่กับทุนเอาประกันภัยรถตู้ที่ซื้อคุ้มครองเอาไว้เป็นจำนวนเท่าไหร่ บริษัทก็จะคุ้มครองตามนั้น โดยหากเสียเกิน 70% ก็จ่ายคืนเป็นทุนประกันเต็มทุนประกันภัยที่ทำเอาไว้
รายงานข่าวจากบริษัทวิริยะประกันภัย จำกัด สาขานครปฐม แจ้งว่า รถตู้คันดังกล่าวได้จัดทำประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 ไว้กับบริษัทจริง ซึ่งจะไม่คุ้มครองความเสียหายตัวรถตู้คันที่เอาประกันและเกิดเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว เพราะประกันประเภท 3 จะให้ความคุ้มครองเฉพาะทรัพย์สินคู่กรณีในวงเงินเสียหายไม่เกิน 6 แสนบาท และความเสียหายต่อชีวิต อนามัยของบุคคลภายนอกไว้ส่วนเกินจากพ.ร.บ.ผู้ประสบภัยจากรถอีก 3 แสนบาท โดยมีระยะเวลาเอาประกันเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2560 และสิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 28 เมษายน 2560
ซึ่งประกันพ.ร.บ.ฯรถตู้คันดังกล่าวก็ได้ทำประกันกับวิริยะฯเช่นกัน แต่โชคดีที่ไม่มีผู้บาดใดบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งหากบาดเจ็บก็จะได้รับค่ารักษาพยาบาลผู้โดยสารตามพรบ.ฯไม่เกิน 8 หมื่นบาท ส่วนคนขับขี่จะได้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีบาดเจ็บเบื้องต้นไม่เกิน 35,000 บาท แต่หากเสียชีวิตผู้ขับขี่จะได้ความคุ้มครองเป็นค่าปลงศพ 35,000 บาท ส่วนผู้โดยสารในรถหากเสียชีวิต ก็จะได้ความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ฯ3 แสนบาท
ด้านนายอรัญ ศรีว่องไท ประธานคณะกรรมการกฎหมายและกฎระเบียบ สมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า ปกติการประกันรถยนต์ประเภท 3 จะไม่ให้ความคุ้มครองกรณีตัวรถตัวเองที่เอาประกันแล้วเสียหายอยู่แล้ว แต่จะคุ้มครองความเสียหายบุคคลภายนอกคือผู้โดยสารในรถตู้คันดังกล่าวหากบาดเจ็บและเสียชีวิต ยกเว้นหากรถตู้คันดังกล่าวที่ไฟไหม้ได้ซื้อประกันรถยนต์ประเภทหนึ่งหรือประเภท 2 ก็จะได้รับการชดใช้จากบริษัทประกันภัยที่รับประกันไว้ ซี่งขึ้นอยู่กับทุนเอาประกันภัยรถตู้ที่ซื้อคุ้มครองเอาไว้เป็นจำนวนเท่าไหร่ บริษัทก็จะคุ้มครองตามนั้น โดยหากเสียเกิน 70% ก็จ่ายคืนเป็นทุนประกันเต็มทุนประกันภัยที่ทำเอาไว้