ให้นำใบรับรองแพทย์ที่รักษา เตรียมเอกสารให้ครบ อยู่กทม.แจ้งที่อย. อยู่ต่างจังหวัดไปแจ้งที่ สสจ. หากผู้ป่วยมาเป็นกลุ่มใหญ่แนะให้ติดต่อประสานก่อนเพื่ออำนวยความสะดวกให้ เผยยอดปัจจุบันมาแจ้งแล้วกว่า 8.5 พันคน ขณะประสิทธิภาพกัญชารักษาโรคหลายโรคยังไม่ชัด ผู้ป่วยที่ยังไม่เคยใช้อย่ารีบไปหาเพื่อรีบมาแจ้งครอบครอง นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยถึงการแจ้งนิรโทษกรรมครอบครองกัญชาโดยระบุว่า ขณะนี้มีผู้แจ้งครอบครองแล้วกว่า 8,500 คน ซึ่งจำนวนผู้มาแจ้งจะเป็นตัวเลขพื้นฐาน ที่ใช้ในการเตรียมระบบและเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ เพื่อเตรียมยาไว้สำหรับคนกลุ่มนี้ ดังนั้น การมาแจ้งครอบครองจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยจะหมดเขตแจ้งครอบครองกัญชาทางการแพทย์ในวันที่ 19 พ.ค.62 แต่เนื่องจากวันที่ 19 พ.ค. ตรงกับวันหยุดราชการ จึงให้มาแจ้งการครอบครองได้ในวันทำการถัดไป ซึ่งจะตรงกับวันที่ 21 พ.ค.62 สำหรับผู้ที่ครอบครองกัญชามาก่อน ให้ดำเนินการดังนี้ 1.ขอให้ไปพบแพทย์ที่ให้การรักษาและออกใบรับรองการเจ็บป่วยหรือโรคที่เป็น โดยขอให้แพทย์ลงชื่อในใบรับรองแพทย์และระบุเลขที่ใบประกอบวิชาชีพหรือเลขที่ใบรับรองหรือใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพ 2.จัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน สำหรับผู้ที่อยู่ในกทม. แจ้งได้ที่ อย. ส่วนต่างจังหวัดแจ้งได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) โดยขอให้เตรียมบัตรประชาชน เอกสารแจ้งการมีกัญชา เอกสารรับรองอาการเจ็บป่วยจากแพทย์ และนำกัญชาที่ใช้ในการรักษาไปด้วย หากมีปริมาณมาก สามารถใช้รูปถ่ายได้ โดยถ่ายรูปกัญชาที่มีในครอบครองให้ครบถ้วน ชัดเจน และระบุที่อยู่พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้เพื่อเจ้าหน้าที่จะนัดหมายทำการตรวจสอบต่อไป 3. ก่อนเดินทางไปแจ้งการครอบครอง หากกลุ่มผู้ป่วยมีจำนวนมาก สามารถติดต่อหรือโทรศัพท์ประสานกับ อย. หรือ สสจ. เพื่อแจ้งชื่อ นามสกุล กำหนดวัน เวลานัดที่จะเดินทางไปแจ้งการครอบครองได้ สามารถกรอกแบบการแจ้งครอบครองเพื่อความสะดวกรวดเร็ว และนำยากัญชาหรือน้ำมันสกัดกัญชาที่ใช้รักษาโรคพร้อมเอกสารต่างๆ ไปแจ้งครอบครองตามที่ได้มีการนัดหมายไว้ ทั้งนี้ ทางสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้ประสานมาที่ อย.นำเครือข่ายเกษตรกรและครอบครัว ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่อยู่ในเขตกทม. และปริมณฑล มาแจ้งครอบครองฯ เป็นกรณีพิเศษ ในวันอาทิตย์ที่ 12 พ.ค.62 นี้ ที่ อย. 300 ราย ด้วย ซึ่ง อย.ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ไว้เพื่ออำนวยความสะดวกแล้ว เลขาฯอย.กล่าวว่า จากข้อมูลกรมการแพทย์ ก.สาธารณสุข ได้ระบุอาการหรือโรคที่สามารถใช้ประโยชน์จากสารสกัดกัญชาในการรักษา โดยมีข้อมูลวิชาการสนับสนุนชัดเจน และบางโรค เช่น พาร์กินสัน อัลไซเมอร์ ปลอกประสาทอักเสบ ควรมีข้อมูลศึกษาวิจัยเพิ่มเติมถึงความปลอดภัยและประสิทธิผล รวมทั้งบางโรคยังขาดข้อมูลสนับสนุนที่ชัดเจนเพียงพอ เช่น โรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ ดังนั้น การนำสารสกัดกัญชามาใช้รักษาโรคจึงควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ และผู้ที่ยังไม่เคยใช้สารสกัดกัญชารักษาโรคไม่จำเป็นต้องรีบหาผลิตภัณฑ์กัญชาเพื่อมาแจ้งขอครอบครองในช่วงนี้ สถานการณ์ขณะนี้หลายหน่วยงานกำลังเร่งศึกษาวิจัยเพื่อผลิตสารสกัดกัญชาที่มีคุณภาพได้มาตรฐานตามหลักการแพทย์ มีการอบรมแพทย์ผู้สั่งจ่ายยา การใช้สารสกัดกัญชาภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีระบบเฝ้าระวังผลข้างเคียงอย่างรอบคอบรัดกุมจะทำให้ผู้ป่วยได้รับความปลอดภัยจากการใช้ยามากขึ้น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับกัญชา ติดต่อสอบถามสายด่วน อย.1556 กด 3 และ ป.ป.ส. 1386 กด 3 ในวันเวลาราชการ