"กกต."แถลงรับรองผลเลือกตั้ง ส.ส.เขต 349 คน ไม่รับรองเพียงเขต 8 จ.เชียงใหม่ เปิดชื่อ! “15รมต.”ไขก๊อกนั่ง สว. “บิ๊กตู่”เชิญถ่ายรูปเป็นที่ระลึกแล้ว “รมว.กลาโหม”ยันไม่มีเดตล็อกการเมือง หลัง“ศาล รธน.”เตรียมวินิจฉัยสูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์วันนี้ บอกไม่รู้ใครใน“ครม.”เป็น“ส.ว.”บ้าง “พีระศักดิ์” เผย “สนช.” ลอยลำเข้าสภาสูง 60 คน เตรียมนำรายชื่อ ส.ว.ขึ้นทูลเกล้าฯ10พ.ค. มั่นใจทำงานร่วมสภาชุดใหม่ไร้ปัญหา “วิษณุ”ยันมีทางออก ปมศาลรธน.วินิจฉัยสูตรส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แนะกกต.ถ้าผลออกมาขัด รธน. ก็เลื่อนประกาศรายชื่อออกไปก่อน พร้อมหาสูตรใหม่ “เรืองไกร”ร้อง“กกต.”เบรกประกาศผลเลือกตั้ง 10 ว่าที่ ส.ส. ถือหุ้นสื่อ “พลังประชารัฐ”มั่นใจตั้งรัฐบาลได้แน่นอน กุมเสียงกว่า 254 ที่นั่ง ชงชื่อ“สันติ พร้อมพัฒน์”นั่งปธ.สภาฯ ขณะที่“โหรวารินทร์”ฟันธง“ประยุทธ์”นั่งนายกฯต่อ รัฐบาลหน้าตั้งเสร็จเดือน มิ.ย. พรรคต่างๆหนุนเกิน250เสียง ชี้จับตาบิ๊กเซอร์ไพรส์เร็วๆนี้ รอดูเกิดขึ้นในห้วงประชาธิปไตยเต็มใบ เมื่อวันที่ 7 พ.ค.62 นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต โดยประกาศรายชื่อผู้ซึ่งได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต จำนวน 349 คน จากทั้งหมด 350 เขต ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 มาตรา 127 ไม่รับรองเพียงเขต 8 จ.เชียงใหม่ ที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ ในวันที่ 26 พ.ค.นี้ (อ่านรายชื่อได้ที่ : เช็คชื่อด่วน! "กกต." ประกาศรับรอง 349 สส.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินในการวินิจฉัยสูตรคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในวันที่ 8 พ.ค.นี้ จะทำให้เกิดเดตล็อกทางการเมืองหรือไม่ ว่า ไม่มี เชื่อว่ายังไปได้ เมื่อถามต่อถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ารัฐมนตรีหลายคนได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งเตรียมตัวเป็นสมาชิกวุฒิสภา ส.ว.นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้เหมือนกัน จะไปรู้ได้อย่างไร เพราะตนไม่ใช่ผู้พิจารณา แต่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้พิจารณา โดยทุกอย่างก็ว่าไปตามกฎหมาย เมื่อถามว่าได้รายชื่อ ส.ว.ครบหรือยัง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ครบนานแล้ว เมื่อถามอีกว่าส่วนใหญ่หน้าตาของ ส.ว. เมื่อถามว่ามีคนใน ครม.ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในช่วงพักการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ได้เชิญรัฐมนตรี 15 คน ที่ได้ตรวจสอบคุณสมบัติและยื่นใบลาออกจากตำแหน่งแล้ว โดยให้มีผลวันที่ 8 และ9 พ.ค.นี้ เนื่องจากคาดการว่าจะมีการนำรายชื่อ ส.ว.ขึ้นทูลเกล้าฯ ในวันที่ 10 พ.ค.นี้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้ทั้งหมดมาร่วมถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก ร่วมกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ,นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ดังนั้นครั้งนี้จึงถือเป็นการประชุม ครม.นัดสุดท้ายของรัฐมนตรีทั้ง 15 คน สำหรับรายชื่อรัฐมนตรีที่ยื่นใบลาออกเพื่อไปเป็น ส.ว. 15 คน มีดังนี้ 1.พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ และรมว.ยุติธรรม 2.พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ 3.นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 4.พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 5.พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน 6.นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ 7.พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ 8.นายอุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ9.นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รมช.ต่างประเทศ 10.นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา 11.นายลักษณ์ วจนานวัช รมช.เกษตรฯ12.นายสมชาย หาญหิรัญ รมช.อุตสาหกรรม13.นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย14.พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 15.นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง ที่รัฐสภาใหม่ ถนนเกียกกาย นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่สอง เปิดเผยว่า ได้รับการคัดเลือกเสนอชื่อเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่งตั้ง และเตรียมนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ วันที่ 10 พ.ค. พร้อมระบุด้วยว่ามีสมาชิก สนช. ที่ได้รับคัดเลือกให้ไปดำรงตำแหน่ง ส.ว. อีกกว่า 60 คน อาทิ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช., นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.คนที่หนึ่ง, นายสมชาย แสวงการ เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการ สนช., นายกล้านรงค์ จันทิก ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเมือง, นายตวง อันทะไชย, นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ เป็นต้น ทั้งนี้สมาชิกสนช. ที่ได้รับเลือกหารือเบื้องต้นว่าจะยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง สนช. ต่อเลขาธิการวุฒิสภาพร้อมกันช่วงวันที่ 8 -9 พ.ค.นี้ นายพีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการทำงานในรัฐสภาร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่หลายฝ่ายกังวลว่าอาจจะมีปัญหา เพราะเป็นคนละขั้วการเมือง เชื่อว่าส.ว.ที่ได้รับการแต่งตั้งและสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่มีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ และทุกฝ่ายต้องการให้การทำงานร่วมกันเดินหน้าไปได้ ส่วนวาระแรกที่ส.ว.ใหม่และ ส.ส.ใหม่จะประชุมร่วมกันนัดแรกเพื่อลงมติเลือกบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ นั้น ต้องให้สิทธิส.ส.รวมเสียงข้างมากให้ได้ก่อน ทั้งนี้ตนเชื่อว่าพรรคการเมืองคงเคารพกติกา ด้านนายพรเพชร ปฏิเสธที่จะให้คำยืนยันต่อการได้รับการเสนอชื่อให้เป็น ส.ว. ระบุเพียงว่าต้องรอการโปรดเกล้าฯ อย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ โดยทิศทางของตนหลังจากนี้ต้องรอรายละเอียดอีกครั้ง เมื่อถามว่าการทำงานระหว่างส.ว.ใหม่ กับ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งจะราบรื่นหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวสั้นๆ ว่า "ไม่น่ามีปัญหา" ทางด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งเกี่ยวกับสูตรการคำนวณส.ส.แบบบัญชีรายชื่อจะขัดรัฐธรรมนูญในวันที่ 8 พ.ค.นี้ จะมีผลในการประกาศรับรองส.ส.หรือไม่ ว่า ในขณะนี้ยังไม่มีผลอะไร เมื่อถามว่า หากถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัด นายวิษณุ กล่าวว่า กระบวนก็ต่างคนต่างเดิน ต่างคนต่างทำไป แต่หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดก็ต้องมาคิดกันใหม่ว่าจะต้องทำอย่างไร เมื่อถามว่า การเลือกตั้งจะเป็นโมฆะหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปไกลถึงขั้นนั้น ส่วนจะทำให้เกิดเดตล็อกทางการเมือง และต้องทำให้ขยายเวลาออกไปหรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า คิดว่าไม่ ทุกอย่างมีทางออกในตัวของมันเอง เรายังไม่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับและสั่งอย่างไร ทั้งนี้หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า สูตรคำนวณส.ส.แบบบัญชีรายชื่อขัดรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ก็ต้องไปใช้สูตรใหม่ ซึ่งกกต.ยืนยันมาตลอดว่ามีสูตรเดียว ฉะนั้นวันนี้กกต.จึงต้องประกาศรับรองผู้ได้รับการเลือกตั้งส.ส.ระบบเขตไว้ก่อน จะผิดหรือจะถูกก็อยู่ในอำนาจของกกต.ส่วนจะสอยทีหลังอะไรก็ช่าง ซึ่งรายชื่อส.ส.ที่ประกาศในวันนี้ (7 พ.ค.)จะหยุดนิ่งอยู่อย่างนั้น ถ้าผิดก็ผิดในส่วนของส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็ต้องลองดูว่าจะแก้ไขอย่างไร เช่น เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในตอนเช้า กกต.ก็ประกาศรายชื่อส.ส.บัญชีรายชื่อในตอนบ่าย แต่ถ้าศาลวินิจฉัยออกมาว่าขัดรัฐธรรมนูญก็เลื่อนประกาศรายชื่อส.ส.บัญชีรายชื่อออกไป มันมีทางออกอยู่เสมอ ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เข้ายื่นหนังสือเพื่อขอให้ตรวจสอบผู้สมัคร ส.ส.ที่ขาดคุณสมบัติเนื่องจากถือหุ้นสื่อ อันเข้าลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) จำนวน 10 ราย เพื่อขอให้ระงับการประกาศผลการเลือกตั้งไว้ก่อนจนกว่าจะตรวจสอบผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตได้ครบร้อยละ 95 ว่าเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม และขอให้รอฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญก่อนที่จะพิจารณาว่าจะประกาศผลการเลือกตั้งได้ต่อไปโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง "กกต.ยังมีเวลาพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้งได้ถึงวันที่ 24 พ.ค. หรือ 60 วันหลังเลือกตั้ง ไม่ใช่วันที่ 9 พ.ค. กกต.จะปล่อยผ่านไปก่อนแล้วมาตามสอยทีหลังเพื่อให้ถูกใจใครไม่ได้" นายเรืองไกร กล่าวว่า สำหรับรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ที่ถูกยื่นคำร้องทั้ง 10 คน ถือหุ้นในบริษัทที่ระบุในวัตถุประสงค์การจดทะเบียนบริษัทไว้ในข้อ 19 ว่าประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ จำหน่าย และออกหนังสือพิมพ์ โดยทั้ง 10 คนประกอบด้วย นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 8 กรุงเทพฯ ถือหุ้นบริษัท โอที ซูปเปอร์เซอร์วิส จำกัด จำนวน 9,998 หุ้น , นายชาญวิทย์ วิภูศิริ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 15 กรุงเทพฯ ถือหุ้นบริษัท ภัทรเฮ้าส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นจำนวน 250,000,000 หุ้น , นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ถือหุ้นบริษัท วิสดอม เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด จำนวน 25,000 หุ้น นายพิบูลย์ รัชกิจประสาร ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เขต 1 สตูล ถือหุ้นบริษัท พี แอนด์ ซี ปิโตรเลียม จำกัด จำนวน 52,310 หุ้น ถือหุ้นบริษัท รัชกิจ คอร์โปเรชั่น จำกัด จำนวน 1,600 หุ้น ถือหุ้นบริษัท รัชกิจ โฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 10,940,989 หุ้น บริษัท เอ็น แอนด์ ซี มินิมาร์ท จำกัด จำนวน 2,092 หุ้น บริษัท จิตแก้ว จำกัด จำนวน 1,600 หุ้น บริษัท ซีเคโฟว์ เทรดดิ้ง จำกัด จำนวน 14 หุ้น บริษัท สตูลอะความารีนคัลเจอร์ จำกัด จำนวน 10,000 หุ้น บริษัท สตูลอะความารีน ฟีด ซัพพลาย จำกัด จำนวน 6,000 หุ้น บริษัท สตูลผลิตภัณฑ์คอนกรีต จำกัด 15,000 หุ้น นายสาธิต ปิตุเตชะ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 ระยอง ถือหุ้นบริษัท เก่งกล้า จำกัด จำนวน 6,665 หุ้น บริษัท พี.ที. รุ่งเรืองคอนกรีต จำกัด จำนวน 2,700 หุ้น , นายเดชอิศม์ ขาวทอง ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 5 สงขลา ถือหุ้นบริษัท ซิงค์ กรุ๊ป จำกัด จำนวน 5,000 หุ้น บริษัท แอล เอส โกลบอล จำกัด จำนวน 100,000 หุ้น , นายสาคร เกี่ยวข้อง ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 1 กระบี่ บริษัท อ่าวนาง แทรเวล แอนด์ ทัวร์ จำกัด จำนวน 22,129 หุ้น, นายอัศวิน วิภูศิริ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้นบริษัท ภัทรเฮ้าส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จำนวน 40,000,000 หุ้น บริษัท ชาญวิทย์โฮเต็ล จำกัด จำนวน 651,750 หุ้น บริษัท พิจิตร เรียล เอสเตท จำกัด จำนวน 16,500 หุ้น และ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ถือหุ้นบริษัท วีพี แอโร่เทค จำกัด จำนวน 588,500 หุ้น ส่วนนายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เขต 1 สุรินทร์ ถูกระบุว่าถือหุ้นในบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ในการจดทะเบียนบริษัทไว้ในวัตถุประสงค์ข้อ 19 ว่า “ประกอบกิจการให้บริการด้านวิทยุและโทรทัศน์ ซึ่งดำเนินการหลักเกี่ยวกับการผลิตรายการวิทยุ และโทรทัศน์ทุกประเภท เช่น รายการบันเทิง รายการส่งเสริมการศึกษา รายการข่าว กีฬา พยากรณ์อากาศ สัมภาษณ์บุคคล โดยเป็นรายการสด หรือบันทึกลงแถบบันทึกสื่อต่างๆ เพื่อเผยแพร่ กระจายเสียง รวมถึงการขาย ให้เช่า เก็บรักษาเพื่อการกระจายเสียงหรือแพร่ภาพ และการนำกลับมาแพร่ภาพซ้ำ” โดยนายปกรณ์ถือหุ้นจำนวน 3,400 หุ้น นายเรืองไกร กล่าวว่า รายชื่อผู้สมัครที่ตนเองเสนอให้ กกต.ตรวจสอบจะแตกต่างจากผู้ร้องคนอื่นๆ แต่เมื่อรวมกันแล้วจะมีจำนวนเกิน 18 คน หรือร้อยละ 5 ที่ กกต.จะประกาศผลการเลือกตั้งแน่นอน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าของการจัดตั้งรัฐบาล ว่า ขณะนี้แกนนำพรรคพลังประชารัฐมีความมั่นใจว่าว่าจะสามารถจัดรัฐบาลโดยสามารถรวบรวมเสียงจากพรรคแนวร่วม ได้เกินกว่า 254 เสียงอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีความชัดเจนในส่วนตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยจะมีการเสนอชื่อนายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีตรัฐส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคเพื่อไทย ให้ทำหน้าที่นี้ โดยล่าสุดเตรียมหารือกับนายสันติ เพื่อพูดคุยเรื่องการทำหน้าที่ในตำแหน่งประธานสภาผู้แทนฯ ต่อไป วันเดียวกัน นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ เจ้าสำนักสุขิโต จ.เชียงใหม่ หรือฉายาโหรคมช.กล่าวว่าจากภาพนิมิตร หลวงปู่เกวาลัน แห่งเทือกเขาหิมาลัย ฉายภาพถึงรัฐบาลใหม่ จะได้เห็นหน้าตาเดือนมิ.ย.ก็จัดตั้งเสร็จสิ้นโดยยอมรับได้มาจากเสียงประชาชนผ่านการเลือกตั้ง ซึ่งยังมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังทำหน้าที่ต่อไป พล.อ.ประยุทธ์ยังมีหน้าที่ที่สำคัญในบ้านเมือง เมื่อหมดหน้าที่แล้วจะเดินลงเอง เหมือนพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ทั้งนี้กระแสนายกรัฐมนตรี มาจากคนกลาง มาแทน เป็นเรื่องลือกันไป “จะมีบิ๊กเซอร์ไพร์ เกิดขึ้นผ่านห้วงเวลานี้คือเป็นห้วงประชาธิปไตยเต็มใบ เลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว แต่อาจมีปัญหาบ้างทำให้ยังไม่จบ เรื่องฟ้องร้อง ใบเหลือง ใบแดง เหตุการณ์ไม่มีอะไรมาก เป็นปกติของการเลือกตั้งส่วนบางคนทำหน้าที่รัฐบาลนี้ เมื่อหมดหน้าที่ ถึงเวลาหน้าที่ในบ้านเมืองก็หมดไปจะไม่มาเป็นรัฐมนตรีรัฐบาลหน้า” โหรคมช. กล่าวอีกว่า รัฐบาลหน้ามาจากหลายพรรค หลายๆกลุ่มเป็นรัฐบาลผสมเพื่อช่วยกันขับเคลื่อนบ้านเมืองไป มีเสียงเกิน 250กว่าเสียงขึ้นไปแน่นอนมีเสถียรภาพในการดำเนินงานตามหน้าที่พอสมควร เมื่อได้รัฐบาลชุดใหม่ สภาพเศรษฐกิจดีขึ้น เป็นยุคมหาจักรพรรดิ์และยุคศิวิไล มีระเบียบแบบแผน ทรัพยากรในผืนแผ่นดินที่มีอยู่ จะเจอปรากฏในช่วงที่มีผู้มีบุญ จึงมาเปิดออกมา ประชาชน ชาวไทย ทุกระดับมีความอุดมสมบูรณ์ เจริญรุ่งเรือง “ทุกอย่างพลิกกลับกลายจากร้ายเป็นดี จากตอนนี้ดูภาวะเศรษฐกิจ ที่หลายคนกังวลย่ำแย่ บางคนอาจมองไม่เห็นว่าจะดีได้อย่างไร หลายที่นักธุรกิจ มีปัญหา ทั้งมลภาวะ ภาพรวมดูแย่ พอถึงเวลาทุกอย่างคลี่คลาย หลังจากฟอร์มรัฐบาลสำเร็จก้าวต่อไป จะเห็นชัดใน 6 เดือน- 1 ปี การลงทุนความเชื่อมั่นหลั่งไหลจากต่างประเทศ เข้ามาบ้านเรา ทรัพยากรธรรมชาติ ผุดขึ้นเปิดขึ้นมาช่วยคนในชาติบ้านเมือง ทุกอย่างดีขึ้นขอให้อดใจรอกันนิด ช่วงนี้อาจยุ่งๆบ้าง และให้ศึกษารัฐธรรมนูญปี60 ให้เข้าใจจะรู้หลักการทั้งหมด ในส่วนผู้ที่สร้างกรรมหนักไว้กับบ้านเมือง ต้องรับกรรมทั้งหมด”นายวารินทร์ กล่าว