วันที่ 4 พ.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ค Chuveath Dethdittharak ได้โพสต์เฟสบุ๊คคลายข้อสงสัย จากนายคมกริช อุ่ยเต็กเข่ง อาจารย์ภาควิชาปรัชญา คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร อธิบายสาเหตุที่โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ดูดเสียงพระมหาราชครูตอนถวายมนตร์ โดยระบุข้อความว่า ...
ความรู้จากอาจารย์ Komkrit Tul Uitekkeng . ทำไมโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจถึงดูดเสียงพระมหาราชครูตอนถวายมนตร์? . โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจดูดเสียงช่วงที่พระมหาราชครูสวด "เวทเปิดประตูศิวาลัยไกรลาส" บางครั้งเรียกว่า "สรรเสริญไกรลาส" "เปิดประตูศิวาลัยไกรลาส" ที่จริงบทนี้แม้เรียกว่าเวท แต่ไม่ใช่พระเวท ท่านพราหมณ์ ป.ส.ศาสตรี เคยตรวจชำระ ท่านเห็นว่าที่จริงเป็นคำประพันธ์ในภาษาทมิฬ โดยนักบุญในไศวะนิกาย ส่วน T.P. Meenakshisundaram พิเคราะห์ว่า มาจากบทประพันธ์ทมิฬเช่นเดียวกับ ป.ส.ศาสตรี โดยเป็นบทประพันธ์ของนักบุญชื่อ อัปปาร์ หรืออัปปารสวามี ขึ้นต้นว่า "กุรรยินาวารุ.." . ความหมายบทนี้คือ อัปปาร์คร่ำครวญถึงความทุกข์จากความเจ็บป่วย ต่อมายึดเอาพระบาทพระศิวะเป็นที่พึ่ง พระองค์เป็นพระเจ้าแห่งติรุวติไก ริมน้ำเกติลัม ซึ่งอัปปาร์ได้พบนิมิตพระเป็นเจ้าเสด็จมา และหายเจ็บป่วย . มีนักษีสุนทรัมตีความว่า บทนี้สะท้อนความทุกข์ของชาวทมิฬที่ต้องจากบ้านเมือง และนิมิตถึง "ไกรลาส" ในฐานะที่พึ่งของชาวไศวะ . แต่เดิมคงใช้ในการขับในเวลาเปิดเทวสถานในอินเดียใต้ ครั้นมนตร์นี้เข้ามาในสยามจึงนับถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ ถือกันว่า ใช้สวดเมื่อเทวสถานเปิดเป็นการอัญเชิญพระเป็นเจ้า แต่ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกถือว่าเป็นการสวดอัญเชิญพระศิวะเป็นเจ้าเข้าสถิตในพระมหากษัตริย์ ซึ่งประทับยังภัทรบิฐอันเป็นที่สถิตพระเป็นเจ้าอยู่แล้ว . ดังนั้น แม้จะไม่ใช่พระเวทจริงๆตามความหมายของศาสนาฮินดู แต่นิยมนับถือว่าศักดิ์สิทธิ์มากสำหรับพราหมณ์สยาม คือเป็นมนตร์อัญเชิญพระเป็นเจ้าได้และใช้กับพระมหากษัตริย์เท่านั้น จึงปกปิดไม่ให้คนทั่วไปได้ยินได้ฟัง อีกทั้งมนตร์นี้จำเพาะถวายต่อองค์พระมหากษัตริย์เท่านั้น ผู้อื่นจึงไม่มีสิทธิ์ได้ยินได้ฟัง . ที่จริงในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกทั่วโลก มักมีส่วนปกปิดเช่นนี้ เพราะถือเป็นเรื่องความศักดิ์สิทธิ์จำเพาะแต่พระราชาเท่านั้น เช่นพิธีบรมราชาภิเษกพระราชาชินีนาถอลิซาเบท ก็ปกปิดการถ่ายทอดในช่วงที่บิชอปแห่งแคนเทอเบอรี่(หรือมหาวิหารอื่น ไม่แน่ใจ) เจิมน้ำมันคาริสมาแด่พระราชินี เพราะว่าส่วนนั้นเป็นการอภิเษกความเป็นกษัตริย์จากพระเป็นเจ้าโดยตรง คนทั่วไปจึงไม่สมควรได้เห็น