อาจเกิดจากติดเชื้อ ใช้กล้ามเนื้อมากเกินหรือผิดประเภท ถ้ารักษาแล้วไม่ดีขึ้นอาจต้องผ่าตัด
นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ และโฆษกกรมการแพทย์เปิดเผยว่า โรคข้อต่อขากรรไกร เกิดจากความผิดปกติของข้อต่อและกล้ามเนื้อที่อยู่รอบๆ ข้อต่อขากรรไกร สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจจะเกิดจากปัญหาในช่องปาก หู โพรงจมูก หรือความผิดปกติของข้อต่อขากรรไกร โดยจะปวดบริเวณข้อต่อขากรรไกร อ้าหรือขยับปากลำบาก เวลาขยับขากรรไกรจะมีเสียงผิดปกติ ขากรรไกรค้าง และมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะบ่อยๆ ปวดข้อต่อขากรรไกรลามไปถึงหู ปวดกรามรุนแรงทันทีเมื่อเคี้ยวหรือกัด
ทั้งนี้ สาเหตุอาจเกิดจากติดเชื้อ ใช้กล้ามเนื้อมากเกินไปหรือใช้ผิดประเภท เช่น เคี้ยวข้างใดข้างหนึ่งมากกว่าอีกข้าง เคี้ยวของแข็ง การสบฟันที่ผิดปกติ เป็นต้น หรือเคยได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อต่อขากรรไกรมาก่อน หรืออาจเกิดจากโรคต่างๆ อาทิ โรคหัวใจขาดเลือด ไซนัสอักเสบ ปวดหัวข้างเดียวและปวดบริเวณรอบๆ ดวงตา โรคปวดเส้นประสาทใบหน้า
นพ.สมพงษ์ ตันจริยภรณ์ ผอ.รพ.เลิดสิน กรมการแพทย์กล่าวว่า การรักษาแพทย์จะเริ่มจากสอบถามอาการและตรวจเช็คข้อต่อขากรรไกร โดยกดกล้ามเนื้อที่ใช้ในการเคี้ยวและข้อต่อขากรรไกรข้างที่เจ็บ รวมถึงตรวจการเคลื่อนไหวของขากรรไกร ซึ่งเมื่อแพทย์วินิจฉัยอาการแล้วเบื้องต้นจะรักษาโดยให้รับประทานยา และแนะนำให้ปรึกษาทันตแพทย์เพื่อตรวจสอบการสบฟัน หากมีอาการสบฟันผิดปกติ และปวดร่วมด้วย แพทย์อาจให้ใส่ที่ครอบฟัน เพื่อให้การสบฟันคงที่ ลดการกระแทกของข้อต่อขากรรไกร รวมถึงทำกายภาพบำบัด ถ้าไม่ดีขึ้นอาจต้องผ่าตัด
สำหรับการดูแลตนเองควรปฏิบัติดังนี้ รับประทานอาหารอ่อนๆ เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม เลี่ยงรับประทานอาหารแข็งหรือที่ต้องใช้แรงเคี้ยวมาก เช่น น้ำแข็ง อ้อย และอาจใช้น้ำอุ่นประคบกล้ามเนื้อรอบๆ ขากรรไกร ถ้ายังไม่ดีขึ้นควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรักษาต่อไป