ติดอันดับมากที่สุดทั้งเถิน เลย แม่ฮ่องสอน หนองบัวลำภู ตาก เพชรบูรณ์ ตามด้วยประเทศไนเจอร์ 5 เมือง ขณะเชียงใหม่แม้ค่าฝุ่นลดแต่ยังติดชาร์ตท็อปเท็นโลก จากปัญหามลพิษทางอากาศจากฝุ่นพิษ PM2.5 ของไทยที่ติดท็อปเท็นของโลกมานานติดต่อกันหลายเดือนถึงปัจจุบัน เพิ่มเติมด้วยสภาพอากาศร้อนระอุของประเทศไทยในปีนี้ ที่การใช้ไฟฟ้าของคนไทยทะลุค่าพีคของปี 2559 ไปแล้ว และตอกย้ำความเป็นชาติที่ไม่แพ้ใครในโลก ด้วยอากาศร้อนระอุติดอันดับโลก ล่าสุด www.eldoradoweather.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รายงานสภาพอากาศอุณหภูมิทั่วโลก ได้รายงานสภาพอุณหภูมิสูงสุด Maximum Temperature Last 24h - 04/22/2019 at 02:00 UTC เมื่อวันที่ 22 เม.ย.62 เวลา 02.00 น. ซึ่งปรากฏว่าประเทศไทยติดอันดับท็อป 15 ของโลก ถึง 7 อันดับด้วยกันเลยทีเดียว อันดับ 1 Chauk - เซ๊าะ (เมียนมาร์) 44.7 องศาเซลเซียส อันดับ 2 Maine Soroa (Niger) 44.2 องศาฯ อันดับ 3 Diffa (Niger) 44 องศาฯ อันดับ 4 Birni-N' kanni (Niger) 43.6 องศาฯ อันดับ 5 เถิน (ไทย) 43.5 องศาฯ อันดับ 6 Tillabery (Niger) 43.5 องศาฯ อันดับ 7 เลย (ไทย) 43.4 องศาฯ อันดับ 8 N'Guigmi (Niger) 43.2 องศาฯ อันดับ 9 แม่ฮ่องสอน (ไทย) 42.9 องศาฯ อันดับ 10 Loei Agromet (ไทย) 42.8 องศาฯ อันดับ 11 Ndjamena (Chad) 42.8 องศาฯ อันดับ 12 หนองบัวลำภู (ไทย) 42.7 องศาฯ อันดับ 13 ตาก (ไทย) 42.7 องศาฯ อันดับ 14 Matam (Senegal) 42.6 องศาฯ อันดับ 15 เพชรบูรณ์ (ไทย) 42.6 องศาฯ ขณะที่การจัดอันดับคุณภาพอากาศเมืองยอดแย่ของโลก โดย www.airvisual ประจำวันที่ 22 เม.ย.62 เมื่อเวลา 09.44 น. ปรากฏว่า จังหวัดเชียงใหม่ ของไทย แม้อันดับจะลดลงจากเมื่อวาน จากอันดับที่ 5 ของโลก แต่ก็ยังคงติดอยู่ในท็อปเท็นอากาศยอดแย่ของโลก โดยวันนี้อยู่ในลำดับที่ 9 มีค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ 157 AQI ส่วนกทม.จากเมื่อวานอยู่ในลำดับที่ 10 มาวันนี้ อากาศดีขึ้นมาก อยู่ในลำดับที่ 31 ของโลก มีค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ 70 AQI